เมื่อกล่าวถึงรถสปอร์ต เราหลายคนต่างรู้จีกรถสปอร์ตรุ่นต่างๆ จาก ผู้ผลิตญี่ปุ่น เช่นเดียวกัน มองไปฝั่งยุโรปก็มีรถซุปเปอร์คาร์สุดฮออทอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีมากมาย และการออกแบบเพรียวลมตั้งแต่หัวจรดท้าย แต่ว่าเมื่อพูดถึงรถ Muscle Car อาจจะไม่ใช่ที่รู้จักของใครหลายคนนัก
รถ Muscle Car มีที่มาที่ไปจากทางฝั่งอเมริกา เป็นรถที่อยู่คู่บุญวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอเมริกา สร้างชื่อเสียงมายาวนากว่า 70 ปีมาแล้ว
จุดเริ่มต้นว่า ทำไม รถ American Muscle ถึงเกิดขึ้น ยังเป็นปริศนามาจนถึงวันนี้ บางกระแสเชื่อว่าน่าจะเป็นผลพวงมาจากเรื่องราวชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ที่แน่ๆ ในช่วงหลังสงครามโลกชัยชนะดังกล่าวผลักดันให้เศรษฐกิจอเมริกาเติบโต เนื่องจากต้องเข่าไปมีบทบาทต่อการฟื้นฟูประเทศแพ้สงคราม เช่น ในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น
ตามประมวลคนเล่นรถ Muscle Car เชื่ออย่างสุดใจว่า OldsMobile Rocket 88 (1949) น่าจะเป็นรถแบบนี้รุ่นแรก โดยใช้ตัวถังจาก Oldsmobil 76 พกเครื่องยนต์จากรุ่น 98 ได้เครื่องยนต์ V8 กำลังอัดสูงขนาด 5.0 ลิตร มันให้กำลัง 135 แรงม้าเท่านั้น แต่ให้แรงบิดสูงถึง 357 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง
ผู้รอบรู้เรื่องรถอเมริกาหลายคนเชื่อว่า นี่เอง น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรียกว่า รถ Muscle Car เนื่องจากมีแรงบิดมากกว่าแรงม้า ในอดีต
เมื่อก้าวเข้าสู่ยุค 1950 เครื่องยนต์ V8 เริ่มมีแนะนำจากหลายบริษัทรถยนต์ในอเมริกาหนึ่งในนั้นที่ทำให้หลายคนจดจำในวันนี้ไม่พ้นเครื่องยนต์จาก Chrysler มันมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 5.4 ลิตร และเมื่อแนะนำลงใน Chysler C300 ก็มีกำลังมากถึง 300 แรงม้า เวลานั้นถูกโฆษณาว่าเป็น “รถอเมริกันที่แรงสุดในประวัติศาสตร์”
รถสไตล์นี้มาเป็นที่นิยมในยุค 1960 โดยเฉพาะกลุ่มรถที่ผลิตจากบริษัทไครสเลอร์ หรือที่คนอเมริกาเรียกกลุ่มนี้ว่า Mopar (ประกอบด้วย Dodge, Plymouth และ Chrysler) ต่อสู้กับฟอร์ดในสนามแข่งทางตรงทั่วอเมริกา รถเหล่านี้สามารถวิ่งทางตรง 0-400 เมตรได้ใน 13 วินาที ปี 1962 Chevrolet Impala SS Package เข้ามาร่วมวง พร้อมเครื่องยนต์ V8 6.7 ลิตร ให้กำลัง 425 แรงม้า และมีรถอื่นๆแนะนำหลายรุ่น ในลักษณะเดียวกัน
จนในปี 1964 รถ Pontiac GTO ถือเป็นรถสร้างประวัติศาสตร์สำคัญในวงการรถ Muscle Car มันมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 6.4 ลิตร วิศวกรรมโดยวิศวกรหนุ่มผู้สร้างชื่อ “John Delorean” ให้กำลัง 325 แรงม้า จุดเริ่มต้นดังกล่าว ทำให้ General Motor (GM) หันทำตลาดรถสไตล์นี้มากขึ้น ช่วง1960-1970 จึงถือว่าเป็นยุคที่รถแบบนี้ได้รับความนิยมสูงสุด
พระราชบัญญัติอากาศสะอาดในสหรัฐช่วงปลายปี 1960 ทำให้ผู้ผลิตรถอเมริกันพันธุ์แรงได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำมันออกเทนสูงถูกแบนและโละออกจากปั้มน้ำมันทั่วประเทศ ทำให้เครื่องยนต์ V8 กำลังอัดสูงในยุคนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก ก่อนตามมาด้วยวิกฤติน้ำมันในปี 1973 จนน้ำมันมีราคาแพงลืบลิ่ว รถยนต์เครื่องยนต์ใหญ่อย่างรถมัสเซิลคาร์จึงจางหายไป
การฟื้นฟูรถมัสเซิลคาร์เกิดขึ้นในตลอดยุค 80-90 มันยังคงยืนหยัดด้วยเครื่องยนต์ V8 สมรรถนะสูง แต่ก็เรียกว่าเหลือน้อยเต็มที รถที่เหลือรอดมีเพียง Ford Mustang GT , Chevrolet Camaro และ Pontiac Firebird จวบจนยุค 2000 ไครสเลอร์นำรุ่น 300c และ Dodge Charger (4ประตู) กลับมาทำตลาดกลุ่มนี้ ส่วนฟอร์ด ก็มี Ford Mustang โฉม 5 ออกมาตอบลูกค้า…
ดังนั้นเมื่อดูประวัติศาสตร์อันยาวนานของรถมัสเซิลคาร์ กลุ่มคนเล่นรถประเภทนี้ จึงบัญญัติรถที่จะอยู่ในกลุ่มนี้ว่าต้องมีเอกลักษณ์สำคัญ คือ
- ใช้เครื่องยนต์ V8 -ขนาดใหญ่ (มากกว่า 5.0 ลิตร) ในรุ่นท๊อปออพชั่นของรถที่วางขาย
- ขับเคลื่อนล้อหลัง (เครื่องวางหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง)
- เป็นรถที่ผลิตจากผู้ปลิตในประเทศอเมริกา ในช่วง ปี 1964-1973
- เป็นรถที่มีบอดี้ 2 ประตูคูเป้
- มีราคาขายไม่แพง สามารถหาซื้อได้ง่าย
- เป็นรถที่ออกแบบมาใช้ความเร็วในทางตรง และขับบนถนนได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันรถยนต์ Muscle Car ยังรวมถึงรถในยุคใหม่ด้วย โดยยึด 3 ข้อ สำคัญ คือ 1.ใช้เครื่องยนต์ V8 2.ขับเคลื่อนล้อหลัง 3.ผลิตโดยผู้ผลิตอเมริกา
ส่วนเรื่องรูปแบบตัวถังปัจจุบัน บางกลุ่มพิจารณาว่า น่าจะเปิดกว้างขึ้น เช่นรถ Dodge Charger และ Chrysler 300C เป็นรถรุ่นใหม่ที่ถูกพิจารณาว่าอยู่ในกลุ่มอเมริกันพันธุ์แรง แต่มีซีดาน ส่วนกลุ่มคูเป้ 2 ประตู ปัจจุบันมีหลายรุ่นได้แก่ Ford Mustang, Dodge Challenger , และ Chevrolet Camaro