รถยนต์ใหม่ในวันนี้เราต่างรู้ดีว่ามันครอบเครื่องเรื่องออพชั่นในการใช้งานมากมาย ทั้งทางด้านการขับขี่ และความปลอดภัย แต่บางออพชั่นติดมาก็ไม่ได้ใช้ หรือมีให้ใช้ แล้วคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ใช้กัน 

1.ไฟเลี้ยว

พระเจ้า!!!  ไฟเลี้ยวนี่คนไทย ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยไม่เปิดให้สัญญาณ  เวลาที่จะเปลี่ยนช่องทาง หรือเปลี่ยนทิศทางไปทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตรงไปข้างหน้า ทั้งที่ตามกฎหมายก็มีข้อความระบุว่า คุณจำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยวเมือต้องการจะเปลี่ยนทิศทางการเดินรถ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่รู้ว่ากลัวหลอดไฟมันจะขาดหาซื้อหรืออย่างไรไม่ทราบ เรามักเห็นคนจำนวนน้อยมากที่เปิดไฟเลี้ยวให้สัญญาณกัน

ตามหลักการเปิดไฟเลี้ยวต้องทำในระยะ 100 เมตร ก่อนถึง จุดที่คุณจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทาง ใครที่ยกไฟเลี้ยวก็ดีแล้ว แต่ก็ช่วยดูดด้วยว่า ยกไฟเลี้ยวแล้ว ไม่ใช่เพื่อนร่วมทางเขาจะยินยอมพร้อมใจเสมอไป ไฟเลี้ยวไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์ ที่เปิดแล้วจะคุ้มครองคุณได้ 100%   ในการจราจร

หากการทำตามกฎเปิดไฟเลี้ยวอย่างถูกต้อง ถูกวิธี ช่วยให้คุณปลอดภัยได้มากขึ้นโข เพราะ เพื่อนร่วมทางจะรู้ว่าคุณอยากจะไปทางไหน  พวกเขาจะได้เตรียมตัว หัก หลบ หรือ ทำอะไร ที่ไม่ใช่รี่เข้ามาท้ายคุณ ..เข้าใจตรงกันนั้น

2.แตร!!!

ปี้นนน!!  เสียงแตรจากรถข้างหลัง พลันทำคนไทยส่วนใหญ่จิตหงุดเงียว และคนจำนวนมากต่างสอนลูกหลานที่ขับรถว่า “พยายามอย่าใช้แตร” นะ ….

เฮ้ย!!  ไปสอนกันแบบนั้นมันผิดนะครับ เพราะ แตรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่บังคับให้ติดตั้งตามกฎหมาย เพื่อให้สัญญาณกับเพื่อนร่วมทาง กฎหมายอนุญาตให้คุณส่งเสียงเตือนได้ด้วยเสียง แทนการที่คุณจะต้องลดกระจกลง แล้วไป ด่าทอเพื่อนร่วมทางที่ขับรถได้โง่งีเง่าห่วยแตกบรม 

การใช้แตร เป็นทางออกของการแก้ปัญหาที่เกิดในการจราจรที่ดี โดยคุณสามารถใช้ได้ตลอดเวลา แต่ต้องใช้อย่างถูกต้องด้วย ดรงเรียนสอนขับรถ ส่วนใหญ่ไม่สอนวิธีการบีบแตรที่ถูกต้องมาให้ คือ 1. อย่าบีบยาว 2.บีบเป็นเสียงห่างกัน แต่ต่อเนื่องกัน อย่างผม จะบีบ  ปิ้น ปิ้น ปิ้น เวลาใช้งาน 3.การบีบแตร สามารถทำได้ในหลายสถานการณ์ โดยเฉพาะ ที่คนไทยไม่ใช่คือ ใช้ในการเตือนเพื่อนร่วมทาง เช่นคุณขับรถบนทางตรง ยามกลางคืน ผ่านไฟเหลืองกระพริบ บางคนอาจจะชอบเปิดไฟผ่าหมาก แต่ผมว่า การบีบแตรให้สัญญาณว่ามีรถมาดีกว่า และคุณยังสามารถใช้แตรเตือนเพื่อนร่วมทางในลักษณะอื่นๆ ได้ อาทิไฟเขียวแล้วไม่ไป เป็นต้น

กลับกัน ถ้าคุณเป็นคนโดนถูกบีบแตร ก็ต้องยอมรับว่า คุณอาจจะผิดจริงๆ เช่น ถ้าเพื่อนร่วมทาง แซง ซ้ายแล้วบีบแตรส่งสัญญาณ เขาอาจจต้องการบอกคุณว่าช้าชิดขวาอยู่ , หรือ บางทีคุณเบียดรถ จนลืมมองทางใดทางหนึ่ง ถ้าเพื่อนร่วมทางเขาว่าคุณ จะไปโกรธเขาที่ทำให้คุณอับอายต่อหน้าประชาชี ก็คงไม่ถูกต้องนัก

3.เข็มขัดนิรภัย

เตือนกันมันไม่รู้เท่าไร สำหรับเข็มขัดนิรภัย ที่ควรจะคาดในระหว่างการขับขี่ เพื่อช่วยรั้งตั้งคุณไว้กับเบาะ ไม่บินออกไปหัวทะลุกระจกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเข็มขัดนิรภัย ช่วยให้ถุงลมนิรภัยทำงานได้ถูกต้องตามจุดที่มันควรรับใบหน้าคุณเมือ่เกิดการชนด้วย

คนจำนวนมากไม่เห็นความสำคัญของเข็มขัดนิรภัย โดยเฉพาะคนรุ่นเก่าๆ ที่คิดว่ามันนั่งไม่สบายอึดอัด แต่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าปัจจุบันบริษัทรถยนต์จะมีระบบเสียงเตือนในการคาดเข้มขัดนิรภัยมาให้ในรถบางรุ่น แต่ว่า สำหรับคนไทยแล้ว ก็ไปหาหัวเข็มขัดมาเสียเพื่อหลอกสัญญาณ …

4.ล้อแม็ก

ทุกวันนี้บริษัทรถยนต์พยายามอย่างยิ่งทำให้รถที่ขายมีมูลค่ามากขึ้นตามลำดับ หนึ่งในนั้นคือการให้ล้อแม็กมาเป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะรถรุ่นกลางๆ ตั้งแต่ 5 แสนบาทขึ้นไป โดยมากจะเป็นล้อแม็กจากโรงงานมาแล้วทั้งนั้น

ทสว่าในความเป็นจริงคนไทยจำนวนมากไม่ได้ชอบล้อแม็กจาโรงงาน และพวกมันก็ใช่ว่าจะสวยงามหนักหนา เท่าล้อแม็กมากมายที่ขายในร้านแต่งรถ ทำให้ท้ายสุดคนจำนวนไม่น้อยแทบจะถอยรถออกจากโชว์รูม แล้วเลี้ยวรถเข้าร้านแม็กและยางต่อในทันที เนื่องจากต้องการให้ค่าเสื่อมราคาน้อยที่สุด และได้ล้อตามที่ต้องการ

ที่สำคัญ บริษัทรถยนต์บางบริษัท ยังให้ยางที่เป็นขนาดหายากไม่ค่อยใช้งานในบ้าน รวมถึงการเปลี่ยนล้อแม็กและยางชุดใหม่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน และการเบรกดีขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่จะต้องเปลี่ยนขนาดที่ใหญ่

คนในบ้านเราจำนวนมากจึงเปลี่ยนล้อบ่อยมาก และเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งรถแรกๆ 

5.กระจกหลังตัดแสง

กระจกมองหลังตัดแสงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ทุกวันนี้  แต่เห็นคนใช้เจ้ากระจกตัดแสงที่ช่วยลดแสงไฟจากรถคันหลังที่ส่องผ่านกระจกข้างหลังเข้ามาน้อยมาก เว้นแต่เป็นกระจกตัดแสงออโต้ นี่ก็ว่าไปอีกเรื่อง

การใช้กระจกตัดแสงในการขับขี่ยามค่ำคืนช่วยได้มากในการขับขี่ เนื่องจากกระจกจะลดไฟรถคันหลังที่ส่องสว่างเข้ามา โดยเฉพาะพวกที่ทะเล่อเปิดไฟสูงขับตลอดทางหรือ  พวกที่ขับรถอเนกประสงคืที่มีความสูงกว่าและอาจจะส่องไฟหน้าสาดเข้ารถคุณเต็มๆ

การใช้กระจกตัดแสงง่ายนิดเดีย วแต่หลายคนไม่รู้ คือ มันจะมีก้านดึงอยู่ใต้กระจก เพียงดึงก้านนั้น ตัวกระจกจะปรับมุมหลบเล็กน้อย แต่ยังคงสามารถสะท้อนการมองเห็นได้อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มากๆ โดยเฉพาะ ถ้าต้องขับรถทางไกล แสงจากกระจกหลังช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เข้าจัดมาให้แล้วก็อย่าลืมใช้เสียล่ะ!!

ทุกวันนี้ออพชั่นในรถยนต์เยอะขึ้นก็จริง แต่ขณะที่มันเยอะขึ้น พวกเราก็ต่างจะละเลยมัน ด้วยความไม่รู้วิธีการใช้งาน หรือบ้างก็ใช้งานไม่ถูกต้อง ผมว่าบางทีเราเริ่มต้นลองใช้งานออพชั่นต่างๆที่มีให้มาอย่างครบครัน กล้าพูดเลยว่า แม้แต่รถอีโค่คาร์ก็ยังปลอดภัย 

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com