“เครื่องเทอร์โบ” กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ในรถยนต์นัวนันี้ พวกมันได้รับความนิยมจากบริษัทรถยนต์มากขึ้น เนื่องจากเทอร์โบให้กำลังในการขับขี่มากขึ้น ไปพร้อมกับตอบโจทย์เรื่องการลดการปล่อยไอเสียมากขึ้นตามไปด้วย กลายเป็นเรื่องตรงใจทั้งลูกค้า และผู้ผลิต
เครื่องยนต์เทอร์โบ ทำงานโดยอาศัยระบบเทอร์โบชาร์จเข้าช่วยตอบโจทย์ในการขับขี่ มันมีกำลังเพิ่มเติมจากแรงดันอากาศ ซึ่งถูกเรียกว่า “บูสต์” เจ้าแรงดันนี้มีดีก็มีเสียเช่นกัน มันเพิ่มกำลังอัดเครื่องยนต์ทำให้กำลังมากขึ้น พร้อมกัน มาพร้อมกับความร้อนมากขึ้น หลายคนจึงมักพบว่าเครื่องยนต์เทอร์โบไม่ค่อยทนทานเท่าที่ควร และวันนี้เราจะบอกวิธีการขับรถเครื่องเทอร์โบให้ทนทาน
1.วอร์มอัพเสมอ
เครื่องยนต์ทุกตัวมีอุณหภูมิในการทำงานที่เหมาะสม ตั้งแต่ 85-92 องศาเซลเซียส การวอร์มอัพจากภาวะเครื่องเย็น หรือ Cold Start เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเครื่องยนต์ทุกประเภท โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์เทอร์โบ เนื่องจากส่วนประกอบควบกล้ำเทอร์โบชาร์จ ก็อาศัยน้ำมันเครื่องยนต์ไปหล่อเย็นกังหันเทอร์โบ บ้างก็ใช้น้ำหล่อเย็นร่วมด้วย
ดังนั้นการวอร์มอัพเครื่องยนต์จึงช่วยให้การไหลเวียนทั้งน้ำและน้ำมันเครื่องสะดวกขึ้นในหล่อลื่น หรือ นำพาความร้อน และมันใช้เวลาเพียง 3-5 นาที ทนั้นในการวอร์มอัพเครื่องยนต์
2.ไม่ดับเครื่องยนต์ทันทีที่คุณขับมาเร็วๆ
ในหลายโอกาสเร่งรีบในชีวิต คุณอาจฮ้อ เครื่องยนต์เทอร์โบด้วยความเร็ว แล้วความเร่งรีบเราเลยรีบดับเครื่องยนต์ทันที โดยไม่ยี่หระถึงปัญหาที่ตามมา
เมื่อมีการวอร์มอัพ ก็มีการวอร์มดาวน์ การปรับอุณหภูมเครื่องยนต์ก่อนจอดเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากการหล่อเย็นเทอร์โบด้วยน้ำมันเครื่องยนต์จะมีการไหลเวียนแตกต่างกันระหว่างรอบเครื่องยนต์ต่ำ และสูง การนำพาความร้อนออกจากแนเทอร์ดบจึงมีค่าต่างกัน
ถ้าคุณขับรถมาเร็วๆ แล้ว ดับเครื่องเทอร์โบทันที สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความร้อนจะยังไม่ถูกนำพาออกไปมากนัก และสร้างปัญหาให้กับชิ้นส่วนแกนเทอร์โบได้ในระยะยาว แถมความร้อนน้ำมันก็ยังมีอุณหภูมิสูงด้วย
ดังนั้นรถซิ่งเครื่องเทอร์โบส่วนใหญ่ จึงมีอุปกรณ์เฉพาะ ที่เรียกว่า ตัวตั้งเวลาเทอร์โบ หรือ Turbo Timer ซึ่งมันทำงานง่ายมาก คือ ตั้งเวลาดับเครื่องยนต์ภายหลังคุณบิดสวิทช์กุญแจปิดดับเครื่องยนต์ไปแล้ว
สำหรับบริษัทรถยนต์พวกเขาไม่มองว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ เวลาเราขับด้วยความเร้ว ถ้าเราใช้ความเร็วต่ำช่วงหนึ่ง จะมีการวอร์มดาวน์ เวลาใช้ความเร็วต่ำ แต่ถ้าคุณตีนผี ขับรีบเร่งจริงๆ มันก็จำเป็นที่ต้องให้เวลาวอร์มดาวน์เครื่องยนต์สักหน่อย
3.ไม่ถมบูสต์ในรอบต่ำ
การถมบูสต์ในรอบต่ำ เป็นเรื่องที่หลายคนชอบทำ โดยเฉพาะรถเครื่องเทอร์โบดีเซลสมัยใหม่ เพราะเข้าใจว่า มันสร้างความประหยัดกว่า ไม่จำเป็นต้องสับเกียร์เพิ่ม
การถมบูสต์ในรอบต่ำ คือ พฤติกรรมที่คุณเหยียบคันเร่งเต็ม 100% เพื่อทำให้เทอร์โบบูสต์เต้มที่ ในจณะที่รอบเครื่องยนต์ยังอยุ่ในช่วงรอบความเร็วต่ำ ตั้งแต่ 2- 3 พันรอบต่อนาที
พฤติกรรมดังกล่าว จะไม่มีผลในการระยะแรกเริ่ม แต่จะส่งผลต่อชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในระยะยาว ด้วยบูสต์อากาศมากขึ้นสร้างแรงเครียดต่อชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หัวเทียน , ลูกสูบ ,แหวนลูกสูบ ด้วยแรงดันอากาศที่มีความร้อน เข้ามามากกว่า ส่วนผสมน้ำมันที่อาจจะยังฉีดจ่ายได้ไม่ทันกับแรงดันจากเทอร์โบ
ในระยะแรกเริ่มจึงมักก่อให้เกิดอาการส่วนผสมบาง สามารถสังเกตได้ว่า เหยียบคันเร่งแล้ว แต่เครื่องยนต์ยังไม่ค่อยอยากจะเร่งให้เราเท่าไร กลับกัน ถ้าคุณสับเกียร์ลดลง ให้รอบเครื่องยนต์สูง แล้วเหยียบคันเร่งพร้อมกัน จะพบว่าการตอบสนองนั้นดีกว่ามาก
4.ควรใช้น้ำมันออกเทนสูง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม้แต่ผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญมากๆ น้ำมันเชื้อเพลิงออกเทนสูง ช่วยลดในการชิงจุดระเบิด ซึ่งอาจเกิดได้ในบางภาวะของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรอบเครื่องยนต์สูงๆ หรือกับเครื่องยนต์ที่มีการปรับแต่งมากๆ
ขุมพลังเทอร์โบชาร์จ ควรใช้นำมันที่ดี เราจึงมักพบว่า มันไม่สามารถใช้น้ำมันพลังงานทางเลือกได้มากมายนัก ซึ่งจะว่าเป้นข้อด้อยสำคัญข้อหนึ่งเลยก้ว่าได้
สำหรับผู้ใช้เครื่องเทอร์โบ หากเป็นไปได้ ควรเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงออกเทนสูง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญป้องกันเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดการชิงจุดระเบิดได้ง่าย
5.ไม่เหยียบคันเร่งสุ่มสี่สุ่มห้า เมื่อเข้าโค้ง
การเข้าโค้งสำหรับรถเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จไม่ได้ต่างรถยนต์ปกตินัก แต่พึงจำไว้ว่า เครื่องยนต์เทอร์โบสามารถสร้างแรงบิดได้มากกว่าเครื่องยนต์ปกติ นั่นทำให้คุณต้องระวังเอาไว้
เมื่อเข้าโค้งควรเข้าช้าๆ แล้วกดคันเร่งออกจากโค้งอย่างรวดเร็ว เป็นหลักที่ควรจดจำในเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเอาไว้!! เวลาเข้าโค้งจะมีมุมลื่นไถล (Slip Angle – มุมเกิดขึ้นระหว่างขับขี่ อยู่ระหว่าง มุมที่เราหักเลี้ยวให้หน้ารถหัน กับล้อเดินทางจริงๆ)
มันเกิดขึ้นตลอดเวลาเมื่อเราเข้าโค้ง การหันหน้ารถในเครื่องยนต์ปกติ ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเครื่องยนต์ไม่ได้มีแรงบิดเยอะมากมายนัก
กลับกันในรถเทอร์โบ ทั้งขับหน้าและขับหลัง Slip Angle อาจถูกเปลี่ยนได้จากกำลังเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเวลาคุณกดออกจากโค้งหรือหักเลี้ยว โดยเฉพาะรถที่มีกำลังเยอะใช้เทอร์โบขนาดใหญ่
ยกตัวอย่างรถขับหลังคุณเข้าโค้งขวา คุณหักเลี้ยวเนียนๆ พอถึงกลางโค้ง คุณกดคันเร่งมากไป แรงบิดจากเครื่องยนต์มหาศาลจะทำให้ล้อเกิดการลื่นไถลได้ มันเกิดอาการท้ายปัดได้ง่าย โดยเฉพาะกับถนนที่มีพื้นผิวลื่น
ทำนองเดียวกันในรถยนต์ขับหน้า มันทำให้รถสามารถอาการหน้าดื้อหน้าตึงได้ง่าย และควบคุมยากในบางสถานการณ์
ดังนั้น วิธีขับรถเครื่องเทอร์โบ เข้าโค้ง จึงต้องใส่ใจต่อการเดินคันเร่งมากกว่ารถเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป อย่าผลีผลามเดินคันเร่ง มันอาจจบไม่สวยเท่าไรนัก