ทุกวันนี้เวลาเราซื้อรถยนต์คันใหม่มาครอบครอง นอกจากสมรรถนะรถยนต์ที่เหนือชั้น การออกแบบที่งดงามแล้ว เราหลายคนคงจะเห็นเซลล์ขายรถยนต์ เขียนของแถมมากมายจนมือระวิง และหนึ่งในนั้นคือ การรับประกันคุณภาพรถยนต์ 3 หรือ 5 ปะ พร้อมระยะทางตามที่ทางผู้ผลิตกำหนด ว่ามันจะครอบคลุมการใช้งาน จนลูกค้ามั่นใจ หรือ ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนคันใหม่กับพวกเขา
การรับประกันคุณภาพรถยนต์ เป็นยุทธศาสตร์การตลาดแบบใหม่ เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 1998 เริ่มจากในอเมริกา ยุคนั้น เป็นช่วงที่ฮุนได ต้องการเข้าไปทำตลาดในอเมริกา แต่ลูกค้าไม่ค่อยเชื่อมั่นว่ารถยนต์จากเกาหลีจะทนทาน ทางบริษัทจึงผุดแนวคิดการตลาดใหม่ด้วยการใส่ความมั่นใจในการใช้งานไปในรถใหม่ทุกคัน แนวคิดการรับประกันคุณภาพจึงเริ่มเกิดขึ้น
คำพูดสวยหรูจากบรรดาพนักงานขายรถยนต์ว่า “รับประกัน 3 ปี 100,000 กิโลเมตร” ในวันนี้ทำให้หลายคนรู้สึกสบายใจในการใช้งานอย่างมั่นใจในทันที แต่น้อยคนจะรู้จักการรับประกันคุณภาพจริงๆ และคนจำนวนมากคิดเพียงว่า จะขับรถอย่างไรก็ได้ ถ้ารถพังก็นำเข้าศูนย์บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากผู้ผลิตรับประกันมาแล้ว ทั้งคุณควรเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ มากกว่านี้ และทางผู้ผลิตเอง ควรมีหนังสือชี้แจ้งการรับประกันลักษณะนี้แยกออกมา เพื่อความชัดเจนกับลูกค้ามากขึ้น
ก่อนจะว่ากันไปไกล คุณสงสัยไหมครับว่า การรับประกันคุณภาพรถยนต์เริ่มขึ้นเมื่อไรกัน …
การรับประกันคุณภาพรถยนต์ จะเริ่มขึ้นเมื่อคุณลงนามรับรถคันนั้นไว้ครอบครองแล้ว ตอนที่คุณเซ็งเอกสารก่อนรับรถยนต์ที่โชว์ ที่คุณไปสั่งซื้อรถไว้ แม้ว่ารถคันนั้นจะจอดนอนรอคุณมาจับจองเป็นเจ้าของนานเท่าไรก็ตาม มันไม่สำคัญเพราะทันทีที่คุณยอมรับการเป็นเจ้าของ มีการลงในสมุดคู่มือประจำรถนั่นแหละ จะเป็นเวลาที่เริ่มต้นของการรับประกันคุณภาพรถใหม่ทันที
แนวทางการรับประกันคุณภาพรถใหม่ หลายคนมักเข้าใจผิดๆ ว่า ทุกชิ้นส่วนภายในรถยนต์นั้นรับประกัน 3ปี ทุกชิ้น แต่ความจริงแล้ว ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นนั้นรับประกันไม่เท่ากัน ด้วยความทนทานในการใช้งานแตกต่างกัน บ้างอาจจะเสื่อสภาพไวหรือช้า ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถเอง
แต่การรับประคุณภาพรถใหม่ มีเงื่อนไขที่เหมือนกันทุกบริษัทรถยนต์ คือ
1.การเสื่อมคุณภาพหรือทำงานบกพร่องต้องการเกิดจากการใช้ทั่วไปของลูกค้าเท่านั้น
2.ลูกค้าต้องดัดแปลงปรับแต่งชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพ หรือ กระทำการซ่อมแซมใดๆ โดยทีมช่างที่ไม่ใช่ศูนย์บริการรถยนต์
3.ชิ้นส่วนรถจะต้องไม่เคยถูกถอดประกบ ก่อนนำมาถึงมือช่างเทคนิคที่รับผิดชอบ
4.ลูกค้าจะต้องใช้ศูนย์บริการในการซ่อมบำรุงรถยนต์เป็นประจำเท่านั้น
ทราบเงื่อนไขในการรับประกันคุณภาพรถใหม่ไปแล้ว หลายคนชอบคิดว่า ขับอย่างไรก็ได้ เข้าศูนย์บริการ ทุกชิ้นส่วนถ้าพังใน 3 ปี จะเปลี่ยนหรือซ่อมฟรีทันที
แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เรารู้ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะถึงจะพูดว่า 3 หรือ 100,000 กิโลเมตร ในการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ที่คุณใช้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกชิ้นส่วนอย่างที่เราเข้าใจกัน
1.ไม่รับประกันอะไหล่สิ้นเปลือง …. อะไหล่สิ้นเปลือง หลายคนฟังแล้วงง แต่อะไหลิ้นเปลือง คือชิ้นส่วนหรืออะไหล่ในรถยนต์อะไรก็ตามที่ใช้แล้วหมดไป หรือ เสื่อมสภาพได้จากการใช้งาน ซึ่งอะไหล่ประเภทนี้ จะครอบคลุมในการรับประกันคุณภาพเพียงการเสียหายจากการใช้งาน เช่น ยางรถยนต์บวมระหว่างการใช้งาน , หรือ ผ้าเบรกร้าวในการใช้งาน เป็นต้น
2.การรับประกันจากผู้ผลิตชิ้นส่วน เป็นการรับประกันอะไหล่ที่มาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับทางบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง โดยใช้เงื่อนไขที่ทางผู้ผลิตรับประกันอยู่แล้วเข้ามาครอบคลุม ในกรณี โดยมากจะเป็นชิ้นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ อาจจะเป็นส่วนควบอื่น อาทิ แบตเตอร์รี่ จะมีการรับประกันทั้ง 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่คุณ เริ่มใช้รถ หรือรถบางยี่ห้ออาจจะใช้ระบบเครื่องเสียงภายในรถจากผู้ผลิตรายอื่น ก็จะอยู่ในการรับประกันลักษณะนี้ด้วย
แบตเตอร์รี่เป็นชิ้นส่วนที่รับประกันโดยผู้ผิตชิ้นส่วน ถ้าเกินกว่า การรับประกันผู้ลิต จะเคลมไม่ได้
3.การรับประกันจากผู้ผลิตรถยนต์ การรับประกันในกลุ่มนี้ โดยมากจะครอบคลุมระบบสำคัญของตัวรถทั้งหมด อาทิ เครื่องยนต์ , เกียร์ ,ช่วงล่าง ,ระบบไฟฟ้า
หลายคนมักเข้าใจว่า การรับประกันนี้หมายถึงพวกเครื่องยนต์ ชุดเกียร์เท่านั้น ทั้งที่ยังครอบคลุมถึงหายส่วนสำคัญ เช่น เพลาขับเฟืองท้าย ชิ้นส่วนสำคัญย่อยๆ อื่นๆ อีกมาก อย่างระบบเครื่องยนต์ไฮบริด จะรับประกันถึงสวนควบการใช้งานต่างๆ ของระบบ ไม่เพียงแค่มอเตอร์ไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์เท่านั้น
นอกจากนี้ ที่หลายคนมักลืมคิดไปเสียสนิทคือโครงสร้างตัวรถในภาพรวมจะยังอยู่ภายใต้เงื่อนไจการรับประกัน หากไม่เคยถูกชน หรือ โดนซ่อมโดยอู่ข้างนอก ตัวถังจะถูกรับประกัน เรื่องการไร้สนิมเป็นระยะเวลานานเท่ากับ การรับประกันคุณภาพของตัวรถ
ปัจจุบันการรับประกันคุณภาพรถใหม่ กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว แต่ยังมีคนจำนวนน้อยนักที่เข้าใจวิธีการรับประกันตัวรถ ว่ามันรับประกันอย่างไรบ้าง บางทีอาจจะถึงเวลาที่สมควรศึกษาในสมุดคู่มือประจำรถ ว่าอะไรรับประกันแบบไหน