ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ทุกวันนี้รถยนต์ที่เราใข้ส่วนใหญ่ พวกมันล้วนแต่เป็นชุดเกียร์ออโต้ ระบบเกียร์แบบนี้คนรุ่นใหม่ชินชากับการใช้งาน และคิกว่ารู้เกี่ยวกับพวกมัน หากความจริงอันน้อยนิดที่ถูกกล่าวถึงกลับกลายเป็นเพียงเศษเสี้ยวของเรื่องราวมหากาพย์ ของระบบเกียร์ออโต้เท่านั้น
ชุดเกียร์อัตโนมัติ หรือ ที่เราเรียกกันอย่างติดปากว่า “เกียร์ออโต้” ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการยานยนต์ระบบเกียร์ที่สามารถขับได้อย่างต่อเนื่องเองได้ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลในการใช้งานโดยเฉพาะจังหวะการเปลี่ยนเกียร์หรือเหยียบคลัทช์อันวุ่นวายพัฒนายาวนานหลายสิบปแล้ว
ความต้องการหลักๆ ของเกียร์อัตโนมัติ คือเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย ยิ่งกับคนที่ส่วนใหญ่ที่อาจอยากใช้รถได้สบายใจขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่า วันดีคืนดีจะชักคลัทช์เข้าเกียร์ผิด ระบบเกียร์ออโต้เลยกลายเป็นนวัตกรรมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้วงการยานยนต์กลายเป็นที่แพร่หลาย รถยนต์สมัยนี้ใครก็ขับได้ ถ้ารู้ว่าต้องดันคันเกียร์ไปตำแหน่งไหนทีเหลือที่ควรเข้าใจ เป็นเพียงเบรก และคันเร่ง นั่นคงไม่ยากเกินไปนัก
ระบบเกียร์ออโต้มีกี่แบบ
ปัจจุบันระบบเกียร์อัตโนมัติ แม้นพูดแล้วฟัง ดูจะเหมือนกัน คือ พวกมันตอบโจทน์การขับขี่ให้เอง ผู้ขับขี่มีหน้าที่เหยียบเบรกและคันเร่ง รวมถึงคุมพวงมาลัยไปตามทิศทางที่ต้องการ หากความจริงแล้วระบบเกีบร์ออโต้ ก็มีรูปแบบต่างกันอย่างที่คุณคาดไม่ถึง
ระบบเกียร์ที่แบบแรกเริ่มของเกียร์ธรรมดา เรียกว่า Robotized Manual Transmission อันที่จริง เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักมันดีกว่าในชื่อ เกียร์กึ่งอัตโนมัติ
เกียร์กึ่งอัตโนมัติเกิดขึ้นเพื่อสนองตอบการขับขี่ช่วยคนขับเข้าคลัทช์แทนการเหยียบแป้นคลัทช์แบบดั้งเดิม ทำให้รถขับง่ายขึ้นในยุคที่รถเกียร์ธรรมดายังนิยม แต่แนวทางดังกล่าวก็ยังหลงเหลือมาจนปัจจุบันบ้าง เช่นระบบเกียร์ selematic ในรถยนต์ MG3 ก่อนเปลี่ยนเป็นระบบเกียร์ออโต้เต็มระบบแบบปัจจุบัน
เกียร์ออโต้จริงๆ ถ้าถามว่าเริ่มต้นที่ไหน คงต้องตอบว่าเริ่มระบบเกียร์ออโต้แบบ Step AT เป็นระบบเกียร์ออโต้สมบูรณ์แบบระบบแรกที่เกิดขึ้น โดยใช้การควบคุมภายในชุดเกียร์ด้วยน้ำมันไฮโดรลิก หรือคนทั่วปอาจจะรู้จักในนาม น้ำมันเกียร์ออโต้ มาควบคุมจังหวะการทำงานของชุดเฟืองเกียร์โคจรที่จะทำงานในแต่ละตำแหน่ง ตามจังหวะที่เห็นสมควรโดยการโปรแกรมเกียร์จากทีมวิศวกร
ระบบเกียร์แบบนี้เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยในยุคเริ่มแรกพวกมันมีเกียร์เพียง 3 จังหวะ ก่อนเปลี่ยนมาเป็น 4 จังหวะ และเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ จนมีมากถึง 10 จังหวะในปัจจุบัน
นอกจากเฟืองเกียร์โคจรแล้ว ชุดเกียร์ออโต้แบบนี้ยังประกอบด้วยชุดรับแรง หรือ Torque Convertor ทำหน้าที่แทนคลัทช์ เพื่อไม่ให้เครื่องสะดุดจนดับไป ตัวชุดรับแรงนี้ใช้การไหลเวียนของน้ำมันไฮโดรลิกเข้าช่วย ทำให้ตอนเร่งจะต้องใช้เวลามากกว่าการเข้าคลัทช์ปกติดั้งเดิม
ปัญหาหนึ่งของระบบเกียร์ออโต้ในอดีตคือพวกมันเข้าเกียร์ช้า ทำให้ไม่ทันใจบรรดานักขับพันธุ์ดุทั้งหลาย ทีมวิศวกรรถยนต์จึงคิดระบบเกียร์ใหม่ เน้นการตอบสนองรวดเร็วมากขึ้น นั่นเป็นที่มาของระบบเกียร์คลัทช์คู่ หรือ Dual clutch Transmission
ระบบเกียร์แบบนี้ไม่ว่าจากแบรนด์ไหน มันหมายถึงการมีชุดคลัชท์ในเกียร์ 2 ตำแหน่ง แยกกันในการต่อกำลังเกียร์คู่และเกียร์คี่ ทำให้เวลาเกียร์ทำงานสามารถตอบสนองได้ไวกว่าเกียรืธรรมดาดั้งเดิม แต่ก็มาพร้อมความซับซ้อนในการทำงานมากขึ้น และพวกมันไม่เหมาะกับการขับขี่ในบางรูปแบบเช่นขับๆ เบรก ในเมือง ด้วยชุมเกียร์อาจจะเลือกการตอบสนองไม่ถูก และทำให้พังในระยะยาว คล้ายกับที่บ้านเราเคยเจอ
ท้ายสุดระบบเกียร์ CVT หรือ Continuous Variable Transmission ระบบเกียร์นี้บ้างก็เรียกกันว่า เกียร์สายพาน เนื่องจากในชุดเกียร์จะไม่มีชุดฟันเฟืองอัตราทดเกียร์ หากใช้การเคลื่อนไหวของพูลเลย์ในเกียร์ช่วยในการสร้างอัตราทด ทำให้ระบบเกียร์แบบนี้ทำงานได้ต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่มีอาการกระตุกระหว่างต่อเกียร์ และทำให้ประหยัดน้ำมันเนื่องจากมีแรงเสียดทานในการขับขี่ต่ำมาก ทำให้เวลาเราขับขี่เกียร์แบบนี้จะรู้สึกว่า รถเคลื่อนตัวนุ่มนวล มีความประหยัด และนั่งสบายตลอดการเดินทาง
เกียร์หลายอัตราทดมีประโยชน์อย่างไร
ปัจจุบัน เราเห็นได้ว่าเกียร์มีหลายอัตราทดมากขึ้น เพื่อตอบสนองในการขับขี่ จนคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าอย่างไรเสียเกียร์ที่มีอัตราทดเยอะกว่าย่อมตอบสนองในการขับขี่ดีกว่า
เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่สามารถปกฺเสธได้ แต่วิศวกรคิดระบบเกียร์ที่มีอัตราทดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะระบบเกียร์อัตโนมัติ Step AT ก็เพื่อทำให้สามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์มากขึ้น ในแง่มุมของการตอบสนองของเครื่องยนต์ในช่วงรอบกำลัง ตลอดจนการทำให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในรอบต่ำเหมาะสมต่อการขับขี่
อีกเหตุผลที่เกียร์ออโต้ปัจจุบันมีอัตราทดมากขึ้นจนมีอัตราทดสูงสุดถึง 10 สปีด อาทิในรถ Ford Ranger เนื่องจากเครื่องยนต์มีขนาดเล็กลง แม้จะให้กำลังและแรงบิดสูงขึ้น แต่ก็ต้องการอัตราทดช่วยในการขับขี่เพื่อให้ได้ความเร็วตามที่ลูกค้าปรารถนา การเพิ่มอัตราทดเกียร์มากขึ้น ทำให้สามารถถ่ายทดกำลังทำความเร็วเพิ่มขึ้นได้ไม่มากก็น้อย รวมถึงบางครั้งยังมีจุดประสงค์ในการรีดแรงบิดตอบสนองได้ดี และลดอาการเกียร์กระตุกระหว่างการต่อเกียร์ในแต่ละตำแหน่งด้วย
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในรถยนต์นั่งขนาดเล็กชั้นนำทั้งหลาย เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตมองว่ามันเน้นใช้งานในเมือง ไม่ได้มีความจำเป็จะต้องใช้เกียร์ที่มีหลายอัตราทด แถมยังมีต้นทุนราคาขายถูกด้วย แถมยังไม่มีปัญหาในการใช้งานในบางภาวะเช่นเกียร์ CVT จะตอบสนองไม่ดีถ้าขึ้นทางชันมากๆ เคียงข้างเกียร์หลายอัตราทดเราจึงยังเห็นเกียร์ออโต้ 4 สปีด ลอยหน้าลอยตาในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดีในรถธรรมดาทั่วไป ปัจจุบันในประเทศไทย เราจะพบว่ารถเกียร์อัตโนมัติระบบ CVT เป็นที่นิยมมากทั้งในรถยนต์นั่งขนาดเล็กไปจนถึงกลุ่มคอมแพ็คคาร์ทั้งหลาย รวมถึงรถยนต์อเนกประสงค์หลายรุ่นที่ไม่ได้เน้นขู่เข็ญใช้กำลังในการขับเคลื่อนนัก
เช่นเดียวกันยังมีรถอีกกระหยิบมือที่ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ในการขับเคลื่อน แต่ส่วนใหญ่เกียร์ Step AT นั้น มุ่งไปสู่อัตราทด 6 ไปจนถึง 10 สปีด ตามแต่ที่ผู้ผลิตจะแนะนำเรียบร้อยแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเห็นว่าอยู่ในรถที่ต้องมีการรีดกำลังอย่างมาก เช่นรถกระบะ ,รถอเนกประสงค์จากกระบะ เป็นต้น
ดังนั้น ถ้ากล่าวโดยสรุปว่าเกียร์ สำคัญ อย่างไร ..!!
อาจะกล่าวได้ว่า เกียร์ เป็นผู้ช่วยเครื่องยนต์ในการถ่ายทอดกำลังไปสู่ล้อเพื่อการขับเคลื่อน ซึ่งเกียร์แต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไปตามแต่ละความต้องการในการใช้งาน
เกียร์ออโต้ทั่วไป Step AT ไม่ว่ากี่สปีดก็ตาม มีข้อดี คือความทนทาน ใช้งานง่าย เนื่องจากชุดเกียร์แบบนี้เป็นที่คุ้นเคยกันมายาวนานในวงการรถยนต์ ยิ่งเกียร์เยอะก็หมายความถึงการให้ความเร็วและการตอบสนองยิ่งดี แถมยังนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้นตามไปด้วย
ส่วนเกียร์ CVT ชุดเกียร์สายพานเป็นชุดเกียร์ที่มีการตอบสนองดี ขับประหยัด และรีสมรรถนะเยี่ยม หากอาจจะรู้สึกว่ารถดูไร้ความรู้สึกในการขับขี่ไปบ้าง เนื่องจากไม่มีอาการต่อเกียร์ ระหว่างการขับขี่ทำให้คนบางำนวกอาจไม่ค่อยชอบใจมัน แถมยังไม่เหมาะต่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน เช่นการกระชากคันเร่ง ขับด้วยความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ รวมถึงมีปัญหาถ้าขึ้นทางลาดชันที่มีความสูงมากๆ
แต่สำหรับเกียร์คลัทช์คู่จะได้ข้อดีของเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติปกติเข้ามารวมไว้ด้วยกัน เพิ่มเติมด้วยชุดคลัทช์สองชุดทำให้การทำงานเร็วขึ้นเมื่อต้องต่อเกียร์ระหว่างการขับขี่ เหมาะแก่การขับด้วยความเร็วต้องการตอบสนองอย่างรวดเร็ว รถเกียร์คลัทช์คู่ส่วนใหญ่จึงอยู่ในรถ
เกียร์อัตโนมัติ แม้จะเป็นที่คุ้นชินกันในปัจจุบัน ทว่าพวกเรากับเรียนรู้เกี่ยวกับพวกมันน้อยมาก แม้ว่าในความเป็นจริงการขับขี่เกียร์ดูจะไม่สำคัญเท่าเครื่องยนต์ในแง่ของพละกำลังและการตอบสนอง หากการเลือกรถให้คุ้มค่าเหมาะสม การเลือกใช้เกียร์ออโต้เหมาะกับคุณก็พอจะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการซื้อได้บ้างไม่มากก็น้อย