Home » “Flat Torque”  เร้าใจต่อเนื่อง ในขุมพลังยุคใหม่
Bust Technic เคล็ดลับเรื่องรถ

“Flat Torque”  เร้าใจต่อเนื่อง ในขุมพลังยุคใหม่

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์สันดาปภายในมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจนมีความสามารถมากขึ้น ทางด้านกำลังหากเทียบสมัยก่อนกับปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้มันมีความสามารถใหม่ และระยะหลัง ผมเชื่อว่าเราน่าจะได้ยินคำว่า  “Flat torque”  จากบรรดาบริษัทรถยนต์มากขึ้น และด้วยความที่คนไทยสนิทกับภาษาอังกฤษมาก เราจึงยังไม่ค่อยเข้าใจมันมากนัก

Flat Torque   หากแปลเป็นภาษาไทยฟังเข้าใจง่ายก็น่าจะต้องพูดว่า “แรงบิดต่อเนื่อง” เป็นการบัญญัติความหมายการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายในบางรุ่น ที่มีความสามารถพิเศษปลดปล่อยแรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ออกมาในช่วงการทำงานรอบเครื่องจังหวะหนึ่ง

testdrive-focus-ecoboost-130

ส่งผลให้ทุกครั้งที่ผู้ใช้ขับขี่รถยนต์ที่มีแรงบิดระนาบต่อเนื่อง รถจะตอบสนองต่อการเร่งแซงอย่างมาก แถมในรถยนตืบางรุ่นที่มีการเซทอัพอย่างดี หมายถึงการประหยัดน้ำมันมากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากจังหวะแรงบิดสูงสุด ทำให้รถหรือคุณไม่จำเป็นต้องลดเกียร์ต่ำลงเพื่อหาจังหวะทำกำลังสูงสุด เพื่อใช้จังหวะแรงบิดต่ำกว่าในรอบสูงในการเร่งแซง ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องได้แม้จะขับในเกียร์ที่มีอัตราทดต่ำก็ตาม

ไอเดียแรงบิดระนาบต่อเนื่องเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับยุคเครื่องยนต์สันดาปภายในติดตั้งระบบอัดอากาศในโลกยุคใหม่ ด้วยความสามารถในการผลักอากาศเข้าห้องเผาไหม้จากระบบเทอร์โบชาร์จหรือซุปเปอร์ชาร์จ โดยเครื่องยนต์ไม่ต้องออกแรงซดอากาศด้วยตัวเอง ทำให้ความคิดดังกล่าวเป็นไปได้ และเราเริ่มเห็นมากขึ้นในหมู่เครื่องยนต์ดีเซลสมัยใหม่ พวกมันมักมาพร้อม   Flat Torque   ช่วงสั้นๆ  ในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ช่วงใช้งาน เพื่อให้รถตอบสนองเวลาเร่งแซงได้โดยไม่ต้องกระทืบคันเร่งมากมายให้เปลืองน้ำมัน

แต่ในระยะหลัง แรงบิดระนาบต่อเนื่องดูจะเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าในเครื่องยนต์เบนซินยุคใหม่หลายรุ่น ที่เริ่มติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จเข้ามาตอบสนองการขับขี่ ยกตัวอย่างเช่นเครื่องยนต์   Ford Ecoboost 1.0 เครื่องยนต์รุ่นนี้ทำกำลังสูงสุด 123 แรงม้า แต่ให้แรงบิด 170 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,400-4,000 รอบต่อนาที ทำให้มันเป็นเครื่องยนต์ที่ขับสนุกและตอบสนองดีทุกรอบเร่ง

Review-Honda-Civic-hatchback (15)

ทำนองเดียวกันในรถยนต์   Honda  Civic  ใหม่ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ มันทำกำลัง 173 แรงม้า ให้แรงบิด 220 นิวตันเมตร ตั้งแต่  1,700-5,500 รอบต่อนาที การมีแรงบิดสูงสุดต่อเนื่องทำให้รถตอบสนองในการขับขี่ดี รวดเร็วเร้าใจทุกครั้งที่ได้ขับ มันให้ความรู้สึกที่ดีแก่ลูกค้า

ถึงรถอาจจะไม่ได้ออกตัวล้อฟรี ทำให้ดูซ่ากลางที่สาธารณะ หากยามขับขี่แล้วมันกลับจะเป็นที่ประทับใจ ด้วยแรงบิดที่ดีต่อเนื่อง ทำให้รถตอบสนองตามความต้องการ ในระหว่างการเดินทางมากขึ้น

“แรงบิดต่อเนื่อง” หรือ  Flat Torque   ดูจะเป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่งในรถยนต์ยุคใหม่ที่สามารถสร้างกำลังที่จำเป็นในการขับขี่ได้ตลอดเวลา การมีพละกำลังอยู่เสมอตลอดการเดินทาง นอกจากมันจะตอบสนองดีแล้วในแง่หนึ่งยังช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยทุกครั้งที่คุณกดคันเร่งรถก็พร้อมจะทะยานไปกับคุณเสมอ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.