Home » “น้ำยาหล่อเย็น” ทำความรู้จักให้เข้าใจและดูแลอย่างถูกต้อง
Bust Technic

“น้ำยาหล่อเย็น” ทำความรู้จักให้เข้าใจและดูแลอย่างถูกต้อง

วันนี้เราพาผู้อ่านมาทำความเข้าใจกับระบบหล่อเย็น ที่มีน้ำยาหล่อเย็นทำหน้าที่ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ หากวันใดที่ระบบทำงานผิดปกติหรือเกิดเสียขึ้นมา วันนั้นคุณจะต้องเสียทั้งเงินและเวลาอย่างมหาศาล จะดีกว่าหรือไม่หากคุณรู้ถึงวิธีการตรวจน้ำยาหล่อเย็น รวมถึงระบบระบายความร้อนให้อยู่ในสภาพปกติพร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ

 

ทุกครั้งที่รถยนต์ทำงานไม่ว่าจะแค่เดินเบาหรือเร่งเครื่อง ผลพลอยได้นอกจากกำลังเครื่องที่ทำให้รถแล่นได้ก็ยังมีพลังงานความร้อน นั่นทำให้รถทุกคันต้องมีหม้อน้ำกับน้ำยาหล่อเย็นไว้คอยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ แต่หากวันใดที่ระบบระบายความร้อนเกิดผิดปกติ วันนั้นอาจทำให้คุณเสียทั้งเวลา และเสียเงินในการซ่อม อย่างไรก็ตามหากคุณดูแลระบบหล่อเย็นให้สมบูรณ์อยู่เสมอ ปัญหาเรื่องความร้อนก็จะไม่ย่ำกรายให้คุณต้องปวดหัว และต่อจากนี้คือข้อควรรู้เกี่ยวกับวิธีตรวจเช็คน้ำยาหล่อเย็น

 

 

น้ำยาหล่อเย็น
น้ำยาหล่อเย็นชนิดผสมเสร็จขนาด 1 ลิตร เป็นสิ่งที่คุณควรมีติดรถอยู่เสมอ

 

น้ำยาหล่อเย็นมีกี่ประเภท?

 

หลายคนคงยังไม่รู้ว่าน้ำยาหล่อเย็นหลากสีสันนั้นจริงๆ แล้วมีกี่ประเภท ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ แบบผสมเสร็จพร้อมใช้งาน กับแบบเข้มข้นต้องผสมน้ำก่อนใช้ โดยแบบผสมเสร็จนั้นเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งจากศูนย์บริการและผู้ใช้งานทั่วไป เนื่องจากสามารถใช้งานง่ายเพียงเติมเข้าสู่หม้อพักน้ำให้ได้ระดับตามปกติ ในขณะที่แบบเข้มข้นจะต้องผสมน้ำยาหล่อเย็นกับน้ำดื่มในอัตราที่กำหนดไว้ข้างบรรจุภัณฑ์ เช่น น้ำยาหล่อเย็น 1 ลิตรผสมกับน้ำดื่ม 1 ลิตร อย่างไรก็ตามเราแนะนำว่าหากเป็นไปได้ให้ท่านเลือกซื้อน้ำยาหล่อเย็นแบบผสมเสร็จมาใช้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าน้ำยาหล่อเย็นเดิมในรถของท่านเป็นแบบไหน ถ้าเติมสูตรที่แตกต่างกันจะส่งผลเสียต่อระบบระบายความร้อนได้

 

น้ำยาหล่อเย็น
น้ำยาหล่อเย็นชนิดเข้มข้นจำเป็นต้องผสมน้ำดื่มในอัตราส่วนที่ระบุไว้ก่อนใช้งาน ซึ่งหลายคนมีความกังวลใจว่าจะเติมผิดสัดส่วน
น้ำยาหล่อเย็น
ส่วนใหญ่แล้วน้ำยาหล่อเย็นชนิดเข้มข้นจะต้องผสมน้ำดื่มในอัตราส่วน 50:50 เช่น น้ำยา 1 ลิตร กับน้ำดื่ม 1 ลิตร

 

เติมน้ำเปล่าแทนได้หรือไม่?

 

ข้อนี้ดูเหมือนว่าหลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันออกไป ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าควรเติมน้ำเปล่าผสมกับน้ำยาหล่อเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยากัดชิ้นส่วนต่างๆ เช่น หม้อน้ำ วาล์วน้ำ ส่วนอีกฝั่งก็บอกว่าไม่ควรเติมน้ำเปล่า ให้หาซื้อน้ำยาหล่อเย็นชนิดเดียวกับที่อยู่ในรถมาเติมเท่านั้น ซึ่งหากจะให้เราตัดสินว่าความคิดเห็นใดกันถูกต้องที่สุด ก็คงบอกได้ว่าการเติมน้ำยาหล่อเย็นเพียงอย่างเดียวนั้นดีที่สุดต่อระบบระบายความร้อน เนื่องจากการเติมน้ำเปล่าลงไปผสมกับน้ำยาหล่อเย็นทำให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนด้อยประสิทธิภาพ แต่หากฉุกเฉินจริงๆ ก็สามารถเติมน้ำดื่มผสมเข้าไปได้ แนะนำว่าห้ามเติมน้ำประปาเข้าสู่ระบบระบายความร้อนโดยเด็ดขาด เพราะในระยะยาวจะทำให้เกิดสนิม รวมถึงเป็นต้นเหตุให้วาล์วน้ำตายจนไม่สามารถระบายน้ำได้ตามปกติ

 

น้ำยาหล่อเย็น
รถเก่าๆ หลายคันเจ้าของมักเติมเพียงน้ำเปล่าลงในระบบระบายความร้อน นั่นเป็นสาเหตุร้ายแรงที่ทำให้เกิดการเป็นสนิมและรั่วซึ่ม
น้ำยาหล่อเย็น
ในภาพคือปั๊มน้ำที่เป็นสนิมจนไม่สามารถไหลเวียนน้ำในระบบหล่อเย็นได้เต็มประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้น้ำยาหล่อเย็นยังมีจุดเดือดสูงกว่าน้ำเปล่าอยู่มาก กล่าวคือมันมีจุดเดือดอยู่ที่ 120 องศาเซลเซียสขึ้นไป ต่างจากน้ำเปล่าที่มีจุดเดือดเพียง 100 องศาเซลเซียส แม้ว่าน้ำหล่อเย็ยในระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิทำงานราว 80-90 องศาเซลเซียส แต่ในบางจังหวะเช่นตอนที่รถเร่งแซงด้วยรอบสูง หรือขับขึ้นเขาเป็นเวลานานๆ อุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็นจะพุ่งสูงเกิน 100 องศาเซลเซียส แน่นอนว่ารถคันใดที่เติมน้ำเปล่ามันก็จะระเหยเดือดกลายเป็นไอ ต่างจากน้ำยาหล่อเย็นที่มีจุดเดือดสูงกว่าที่ยังคงสภาพเป็นของเหลวนำพาความร้อนออกจากเครื่อง

 

น้ำยาหล่อเย็น
น้ำยาหล่อเย็นมีจุดเดือดสูงกว่าน้ำเปล่า คืออยู่ที่ 120 องศาเซลเซียสขึ้นไป

 

น้ำยาหล่อเย็นลดลง…มันหายไปไหน?

 

สาเหตุการหายไปของน้ำยาหล่อเย็นมีอยู่หลายประเด็น จากเบาสุดก็อาจเกิดจากระยะการใช้งานที่ยาวนานมาก (5 ปีขึ้น) เพราะตามปกติแล้วน้ำยาหล่อเย็นจะไม่ลดลงถ้าระบบยังปกติอยู่ ส่วนสาเหตุต่อมาคือเกิดการร่วมซึมจากข้อต่อท่อยาง เช่น ท่อน้ำเข้าระบบฮีทเตอร์ ท่อน้ำเข้าวาล์วน้ำ ท่อน้ำเข้าหม้อน้ำ และรั่วที่ปั๊มน้ำ ซึ่งหากรั่วบริเวณที่กล่าวมาเรายังสามารถสังเกตุเห็นได้ง่ายด้วยตาเปล่าจากคราบน้ำยาที่ไหลออกมา ระดับต่อมาคือการรั่วจากหม้อน้ำที่มักเกินขึ้นจากการใช้งานยาวนาน ไปจนถึงการที่ครีบระบายความร้อนหม้อน้ำเกิดโดนหินกระเด็นมาชนจนมีรอยรั่ว ท้ายสุดคือการรั่วภายในเครื่องยนต์ ที่อาจมีน้ำไหลเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้หรือที่อ่างน้ำมันเครื่อง ซึ่งผลที่ตามมาจะร้ายแรงกว่าประเด็นอื่นๆ

 

น้ำยาหล่อเย็น
ผู้ใช้รถทุกคนควรเติมน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในระดับสูงสุดเสมอ

 

ท้ายที่สุดการรักษาระบบระบายความร้อนให้มีความสมบูรณ์อยู่เสมอเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่เจ้าของรถเปิดฝาประโปรงดูระดับน้ำหล่อเย็นให้เต็มอยู่เสมอ หรือถ้าพบว่าระดับน้ำลดลงก็ลองใช้ไฟฉายตรวจสอบตามบริเวณต่างๆ ที่กล่าวมา ท่านก็จะหาต้นตอที่ทำให้น้ำยาหล่อเย็นหายไปได้ไม่ยาก

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.