Home » เครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง เหตุใด จึงขึ้นชื่อเป็น ขุมพลังดีที่สุด ในสายซิ่ง
Bust Technic

เครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง เหตุใด จึงขึ้นชื่อเป็น ขุมพลังดีที่สุด ในสายซิ่ง

จะมองไปทางไหน ในรถสปอร์ตชั้นนำ หลายรุ่น ต่างเคยผ่านหรือ ยังใช้ เครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง ตอบสนองความแรง

เครื่องยนต์แบบนี้ เป็นที่ขึ้นชื่อว่า มีศักยภาพที่สุดแบบหนึ่งในตลาด แม้ว่าวันนี้ พวกมัน จะเริ่มถูกถอดออกไปจากรถที่เราคุ้นเคยบ้าง ทว่า หลายคน ก็ยังยอมรับว่า นี่คือสุดยอด เครื่องยนต์ ที่เคยทำออกมาขาย และยังไม่เสื่อมคลาย แม้กับยุคปัจจุบัน

สร้างง่าย

จุดเริ่มต้น ของเครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง หรือ Inline 6 Cylinder อยู่ที่การพัฒนาที่ง่ายดายมาก ที่จริงแล้ว มันเหมือน ขึ้นต่อไปของเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่เราคุ้นเคยและ รู้จักกันเป็นอย่างดี

สิ่งที่วิศวกร ต้องทำ คือการเพิ่มอีก 2 สูบ เข้าไปในบล็อกการออกแบบ รวมถึง เพิ่มหัวฉีด ,​หัวเทียน , ปรับ จังหวะการทำงาน แล้ว บูม !!! คุณได้เครื่องยนต์ที่ใหญ่ ขึ้นทรงพลังมากขึ้น อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างหนึ่ง ที่มีความชัดเจน คือ เครื่องยนต์ 2 JZ ของ โตโยต้า มี ขนาดกระบอก และช่วงชัด 86 มม.X 86 มม. ถ้ามันันมี 6 สูบ ก็จะมีขนาด 2,997 ซีซี หรือ เป้นคลาสเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี นั่นเอง

แต่ คุณทราบไหมว่า ถ้าเราหั่น 2 สูบ ทิ้งไป จะพบว่า ขนาดเครื่องยนต์ จะลดลง เหลือเพียง 1,998 ซีซี หรือ 2.0 ลิตร และเป็นขนาดเดียวกับท่ีใช้ใน เครื่องยนต์รหัส 3S

ในแง่การพัฒนา และวิศวกรรม จึง ค่อนข้างง่าย เป็นเหตุให้ มันได้รับความนิยม พอสมควร

สมดุล ดี

เครื่องยนต์ สี่ สูบ เป็นเครื่องยนต์ ที่พัฒนาให้ตรงกับ จังหวะ จุดระเบิดตามวัฏจักรในการทำงานของเครื่องยนต์

ในภาพจำ เครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง อาจจะเสมือน เครื่องยนต์ 2 สูบ 2 ตัว มาวางต่อกัน แต่ว่า เจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้ ดันมีดีในเรื่องการสร้างสมดุลในการทำงาน ตามธรรมชาติ จึงเป็นหนึ่งในสุดยอดเครื่องยนต์ ที่ทุกค่ายรถให้ความนิยม

สมดุล ดังกล่าว เกิดจาก ลำดับการจุดระเบิด โดยจะจุดระเบิด 1-5-3-6-2-4 (ดูภาพประกอบ) นั่นทำให้ เครื่องมีการสร้างสมดุลเอง ในการเลื่อนลูกสูบขึ้น-ลง ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างนุ่มนวล ในทุกช่วงรอบเครื่อง

แง่การขับขี่ สมดุลนี้ ทำให้ขับขี่ง่าย เวลาเดินคันเร่ง ด้วยเหตุนี้ ในยุค 90 มาจนปัจุจับน เครื่องยนต์แบบนี้จึงได้รับการพัมนาขึ้นมาสำหรับรถ ในกลุ่ม ที่ต้องการสมรรถนะการขับขี่ หรือ ความนิ่มนวล ในการเดินทาง จึงไม่แปลก ที่จะพบมันอยู่ ในรถหรู ชั้น รวมถึง รถสปอรืต บ้าง ก็อาจจะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน หรือ มีรหัสเดียวกัน

อาทิ RB20DE ใน Nissan Cefiro A31 เป็นตัวอย่างหนึ่ง ซึ่ง มันมีพื้นฐานเดียวกับ RB25 และ 26 ใน Nissan skyline ในยุคเดียวกัน

2jz-vvti

แรงบิดดี

เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ว่ าเครื่องยนต์ 6 สูบ เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดดี แม้ว่าอาจจะไม่ที่สุดในมวลหมู่เครื่องยนต์ก็ตาม

สาเหตุที่เครื่องยนต์แบบนี้ มีแรงบิดดี ประกอบด้วยหลายปปัจจัยสำคัญ อย่างแรง ก็คือ จำนวนสูบที่เยอะกว่า และ ข้อต่อมา มันจุดระเบิดต่อเนื่อง ของมัน

แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า สรุป มันแรงบิดดีกว่ าเครื่องยนต์ ประเภท V หรือ เปล่า ด้วยความจริงว่า แรงบืด มีผลจาก กระบอกสูบ และช่วงชักในเครื่องยนต์นั่นเอง

แต่ที่ยอมรับวกัน คือ เครื่องยนต์ 6 สูบ สามารถสร้างแรงบิดต่อเนื่องในช่วงกว้างดีกว่า เครื่อง V ที่สามารถลดลงไป ตามรอบเครื่อง ในช่วงรอบความเร็วสูง

จึงอาจจะเป็นเหตุผล ที่คุณ รู้สึกดี เวลาขับ เครื่องยนต์ 6 สูบ

โมง่าย

ก็ต้องยอมรับ กันอย่างเปิดอก ว่า เครื่องยนต์ 6 สูบ นั้น เป็นเครื่องที่โมง่ายปรับแต่งได้ง่าย มาก

ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นที่นิยม ของนักแข่ง​, นักซิ่ง เนื่องจาก ช่างเชี่ยวชาญมีเยอะ และ ทำแรงได้ง่ายมาก

อาจจะด้วยความจริงว่า พื้นฐานของมัน เหมือนกับ เครื่อง 4 สูบ ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก หรือ ถ้าจะต้องเล่นแรง ก็ไม่ต้องมานั่งใช้วิชาขั้นสูง เหมือนเครื่อง V ในการโมดิฟาย

บำรุงรักษาง่ายกว่า

เป็นที่ยอมรับว่า ถ้าคุณจะต้องดูแลเครื่องยนต์บ่อยๆ เช่นการใช้รถเพื่อซิ่ง การดูแลเครื่องยนต์ 6 สูบจะง่ายกว่า แม้ว่า เครื่อง 8 สูบ หรือ สูงกว่านั้น อาจจะตอบสนองดีกว่า แต่ถ้าในระดับ 300-500 ม้า

การดูแลเครื่องที่มี 6 สูบเท่านั้น กับ เครื่องที่มีสูบมากวก่านี้ เราต้องยอมรับว่า ค่าแรงช่าง , ค่าของ รวมถึงอะไหล่ จะถูกกว่าในภาพรวม

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน เครื่องยนต์ 6 สูบ แถวเรียง เริ่มจางหายไปในรถหลายรุ่น ที่เหลือๆ ก็เป็นรถที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่อย่างแท้จริง ซึ่งเครื่องแบบนี้เริ่มกลับมาในรถบางรุ่น เนื่องจากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป เช่นมาสด้า เตรียมขายเครื่องยนต์แบบนี้ในรถยนต์มาสด้า รุ่นใหม่ ๆ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.