Home » ทุกคนรู้ “วิ่งไหล่ทาง” ไปเร็วกว่าแต่เดือดร้อนส่วนรวม
4 พฤติกรรมสุดทนที่พบท้องถนนช่วงวันหยุดยาว
Bust topic

ทุกคนรู้ “วิ่งไหล่ทาง” ไปเร็วกว่าแต่เดือดร้อนส่วนรวม

สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่าน เรารู้ว่าหลายคนช่วงหยุดยาวที่ผ่านมาอาจขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัด หรือไม่ก็พาครอบครัวไปเที่ยวสัมผัสลมหนาวบนยอดดอยแถบภาคเหนือ โดยตอนที่ขับรถขึ้นไปเที่ยวรวมถึงตอนกลับบ้าน ท่านคงสังเกตุเห็นว่าการจราจรนั้นหนาแน่นชนิดที่ว่าขยับตัวได้ช้ามาก เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงมีผู้ขับขี่หลายคนใจร้อนหักรถเลี้ยวไปวิ่งไหล่ทางซ้ายสุด ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้พวกเขาไปได้เร็วกว่าก็จริง ทว่าผลที่ตามมากลับทำให้ภาพรวมบนถนนยย่ำแย่ไปอีก…

 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าตัวผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่เคยขับรถบนไหล่ทาง แต่หลังจากที่ได้คิดไตร่ตรองถึงผลที่ตามมาของการกระทำดังกล่าว จึงคิดได้ว่ามันไม่ดีต่อส่วนรวมเอาเสียเลย ถ้าถามว่าข้อดีของการวิ่งไหล่ทางคืออะไรก็บอกได้แค่ว่า ‘คุณจะไปได้เร็วกว่าเพื่อนร่วมทางบนถนนคันอื่น’ นอกเหนือจากนั้นคือผลเสียที่คุณได้มอบแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นแบบไม่รู้เหนือรู้ตัว โดยหากคุณยังไม่เข้าใจว่าเสียอย่างไร? เราจะบอกให้ได้รู้เพื่อส่งข้อมูลต่อเพื่อน ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานให้ปรับปรุงแก้ไข เพราะถ้าเราทุกคนเลิกวิ่งไหล่ทางการจราจรคงไม่ติดขัดอย่างทุกวันนี้

 

 

1.รถติดกว่าเดิม

 

เรารู้ว่าหลายท่านรวมถึงตัวผู้เขียนเองก็เคยวิ่งรถบนไหล่ทางมาก่อน แน่นอนว่ารถสามารถไหลไปข้างหน้าได้เร็วกว่า เพราะช่องซ้ายสุดมักมีปั๊มน้ำมันรวมถึงทางออกคู่ขนานที่มีรถแล่นออกอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามถ้าคุณขับไปแล้วเจอทางบีบแคบลง ไม่ก็เจอรถจอดเสียหรือหยุดพักฉุกเฉิน นั่นแหละปัญหาของการวิ่งไหล่ทางจะส่งผลถึงผู้ใช้รถคนอื่นแบบโดมิโน่เลยทีเดียว เนื่องจากเมื่อคุณไปต่อบนไหล่ทางไม่ได้ คนจะพยายามเบียดเข้าสู่เลนซ้ายจนรถที่วิ่งในช่องทางปกติต้องเบรกชะลอความเร็ว นั่นแหละจึงทำให้เกิดปัญหารถติดที่เรียกกันดีกว่า ‘คอขวด‘ กลับกันหากทุกคนไม่วิ่งรถบนไหล่ทาง การจราจรโดยรวมถึงแม้จะติดขัดแต่ก็วิ่งไหลไปได้เรื่อยๆ เรียกว่าวิ่งช้าแต่ไม่สะดุดเพราะโดนเบียด ปาด แทรก

 

 

2.เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

 

ขอยกเหตุผลจากข้อก่อนที่บอกไปว่าหากวิ่งไหล่ทางแล้วเจอสิ่งกีดขวางหรือรถจอดอยู่ แน่นอนว่าคุณต้องพยายามเบียดเข้าช่องจราจรปกติ และในบางครั้งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้รถที่ขับในเลนปกติเบรกไม่ทันจนรถชนกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากรถที่ขับตามหลังมาไม่ได้ระมัดระวังก็ยิ่งเสี่ยงเกิดอุุบัติเหตุต่อกันเป็นทอดๆ เพราะจากเดิมที่รถวิ่งกันอยู่แน่นหนาบนถนนปกติอยู่แล้ว ยิ่งเจอการเบรกกะทันหันบ่อยๆ ความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้นจากผู้ที่วิ่งรถบนไหล่ตามเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

 

 

3.ไม่มีช่องจอดฉุกเฉิน

 

‘ไหล่ทาง’ ทุกคนทราบดีว่าจุดประสงค์ของการมีสิ่งนี้คืออะไร อย่างแรกมันมีไว้เพื่อการจอดรถฉุกเฉินเมื่อเกิดเสีย หรือเป็นจุดจอดของรถที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุเพื่อไม่ให้รถคันตามหลังมาชนท้าย บางครั้งถ้าถนนเส้นนั้นเป็นทางเลนสวน เจ้าไหล่ทางก็จะกลายเป็่นช่องทางวิ่งของรถจักรยานยนต์ที่แล่นช้ากว่ารถยนต์ค่อนข้างมาก แต่ทุกสิ่งจะหายไปทันทีถ้าเกิดมีใครสักคนเริ่มขับรถบนไหล่ทางเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งเรามองว่าการวิ่งบนทางปกติถึงจจไหลได้ช้ากว่านิดหน่อย แต่ภาพรวมการจราจรก็ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติโดยที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นบนท้องถนน

สุดท้ายก่อนจากกันเราบอกกับทุกท่านว่า หากเป็นไปได้ให้เริ่มปรับปรุงจากตัวเราก่อน จากนั้นจึงบอกต่อและเผยแพร่ความรู้เหล่านี้แก่คนที่ยังทำไม่ถูกต้อง เราเชื่อว่าทุกคนมีความคิดดี สามารถคิดได้ว่าการกระทำอะไรส่งผลเสียถึงสังคมโดยรวม แต่บางครั้งพวกเขาก็นึกไม่ถึงว่าการทำสิ่งที่คิดว่าเล็กน้อย ทว่าความจริงแล้วถ้าทุกคนทำเหมือนๆ กัน มันก็ยิ่งก่อให้เกิดปัญหาใหญ่โตตามมาอย่างไม่คาดคิด

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.