การซื้อรถยนต์สักคัน เชื่อว่าทุกคนคงต้องการรถยนต์ที่เหมาะกัยการใช้งานของตัวเองมากที่สุด รถยนต์ที่มีราคาถูกและดีที่สุดในวันนี้ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า มันคือรถยนต์อีโค่คาร์ เจ้าน้องน้อยกลอยใจ ของค่ายรถยนต์ชั้นนำทุกราย หากวันนี้เราจะมาบอกเพื่อนๆ หลายคนที่มองหารถยนต์คันใหม่ว่า รถยนต์อีโค่คาร์ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสียทุกครั้งไป และนี่คือเหตุผลว่าทำไมกัน
1.คุณเดินทางไกลบ่อย
รถยนต์อีโค่คาร์สามารถเดินทางไกลได้ แต่ถ้าคุณเป็นพวกนักขับบาทาโหด รถยนต์อีโค่คาร์ก็มิอาจจะทานทนความต้องการได้ในรถยะยาว เครื่องยนต์ขนาดเล็กเมื่อวิ่งด้วยความเร็วบ่อยๆ มันจะโทรมไว และ ด้วยขนาดร่างที่เล็กขิงมัน ทำให้รถจะนั่งไม่สบายนัก ถ้าคุณต้องเดินทางไกล หรือขับติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก ดังนั้นถ้ามีงบประมาณมากและไม่กระเบียดกระเสียนนัก คุณน่าจะซื้อรถรุ่นอื่นๆดีกว่า อาทิ รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ก็มีราคาแพงกว่าไม่มาก
2.เดินทางหลายคนบ่อยๆ
ถ้าบ้านคุณเป็นบ้านที่ต้องไปไหน แล้วต้องไปกันยกครัวบ่อยครั้ง รถยนต์อีโค่คาร์อาจะไม่เหมาะเสียทีเดียว ยกเว้นอีโค่คาร์บางรุ่นที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่กว่าปกติ อาทิ Nissan Note และ Suzuki Ciaz
การออกแบบรถยนต์นั่งขนาดเล็กในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ออกแบบให้มีที่นั่งในรูปแบบ 2+2 หรือ โดยสารเต็มที่ 4ที่นั่ง และอีโค่คาร์ส่วนใหญ่เป็นรถที่มีพื้นที่ห้องโดยสารไม่ใหญ่นัก การนั่งสี่คน สามารถใช้งานได้จริง แต่จะมีความรู้สึกคับแคบบ้าง ยิ่งถ้าบ้านคุณเกิดมาเป็นคนร่างยักษ์ไซส์ใหญ่ทั้งครอบครัว ควรจะมองหาตัวเลือกอื่น
3.เป็นคนตัวใหญ่
การเกิดเป็นคนตัวใหญ่ ไม่ได้ผิดอะไร ถ้าใจคุณรักรถอีโค่คาร์ แต่ก็ต้องดูด้วยว่า คุณนั่งมันได้หรือไม่ วิวัฒนาการของเบาะและการออกแบบภายในห้องโดยสารในปัจจุบัน สามารถบรรจุคนตัวใหญ่ลงในรถเล็กได้ไม่น่าเชื่อ แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้งานบางประการอยู่บ้าง เช่นการออกแบบ ช่วงประตู การขึ้นลงรถ หรือ ความสูงของหลังคา ถ้าให้ดีและมีงบประมาณขยับได้อีกหน่อย สมควรจะเลือกรถที่ใหญ่กว่า น่าจะดีกว่า
4.วิ่งขึ้นเขาบ่อยครั้ง หรืออาศัยบนดอย
เครื่องยนต์ขนาดเล็กมีดีเรื่องความประหยัด แต่ถ้าเกิดว่าคุณอยู่ตามต่างจังหวัด และต้องขึ้นเขาบ่อยครั้ง รถอีโค่คาร์ อาจไม่ตอบโจทย์คุณเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ทำให้แรงบิดน้อย การเอาชนะเนินที่มีความชันมากๆ จะกินกำลังเครื่องยนต์ค่อนข้างมาก และเราไม่นับว่ายิ่งคุณเร่งเครื่องมากความประหยัดที่เคยได้ก็ยิ่งหดหาย
นี่เรายังไม่นับพวกน้ำหนักจากคุณ และสัมภาระที่ขนไปด้วย ถ้าคุณขับผ่านเนินชันบ่อยครั้ง เราแนะนำว่าเปลี่ยนไปใช้รถที่มีกำลังแรงบิดดี จะเหมาะสมมากกว่า
5.มันไม่นุ่มนวล
ขนาดมีผลต่อการขับขี่มาก รถยนต์ขนาดเล็กส่วนใหญ่ รวมถึงอีโค่คาร์ มักจะไม่ใช่รถที่มีความนิ่มนวลในการขับขี่ เนื่องจากขนาดโครงสร้างเล็กทำให้มีความยืดหยุ่นเชิงโครงสร้างน้อย รวมถึงด้วยการถูกบีบคั้นทางด้านการต้องทำราคาขายให้ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ชุดโช๊คจึงออกแบบมาเท่าที่พอใช้ ส่วนใหญ่ จะเป็นโช๊คระยะยืดช่วงสั้น หรือ Short Stroke ทำให้ เรารู้สึกถูกแรงกระแทกจากพื้นมากกว่าปกติ แล้วอาศัยแก้มยางหนาในการซับแรงกระแทกแทน ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าคุณเปลี่ยนล้อและยางแล้วพบว่าช่วงล่างอีโค่คาร์บางรุ่นจะแข็งกระด้างทันที
ดังนั้นถ้าคิดว่าจะหารถที่นั่งสบายนิ่มนวลในการขับขี่ประดุจพรหมวิเศษ มองข้ามพวกมันไปจะดีกว่าครับ โดยเฉพาะใครที่ต้องเอาผู้สูงอายุเดินทางด้วยบ่อยครั้ง วัยชราจะแฮปปี้มาก
6.จิตตกเรื่องความดูดี
คนจำนวนไม่น้อยต้องการใช้รถที่รู้สึกว่าจะต้องดูดีตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาขับไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือ เวลาที่นั่งเฉิดฉายในรถ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก อย่าง “อีโค่คาร” มักจะไม่ได้มีภาพที่หวือหวาในการใช้งานมากกว่ารถธรรมดา ๆ 1 คัน ที่สามารถขับใช้งานได้อย่างประหยัด และถ้าคุณคิดว่าต้องการรถที่บ่งตัวคุณ จงมองรถอื่นๆ จะดีกว่า
7.คุณบ้าความเร็ว
ถ้าคุณเป็นพวกชอบขับรถเร็ว บอกเลยว่า อย่าซื้ออีโค่คาร์ รถอีโค่คาร์เป็นรถที่เน้นการใช้งานประหยัด บางรุ่นอาจใส่ความสนุกสนานในการขับขี่มาบ้าง แต่มันไม่ใช่รถที่เหมาะสำหรับจะออกตัวล้อฟรี ขับด้วยความเร็วจากบ้านจนถึงที่ทำงานหรือมหาวิทยาลัย รถพวกนี้ทำความเร็วได้เต็มที่ 170 ก.ม./ช.ม. (ตามหน้าปัดบางรุ่นอาจได้มากกว่านี้บ้างเล็กน้อย) แต่พวกมันไม่ได้เกิดมาเพื่อทำความเร็วตลอดทุกครั้งทีออกเดินทาง พวกมันออกแบบมาให้ขับประหยัดรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่รถซิ่ง
ถ้าคุณคิดว่านั่นไม่สำคัญ ลองมองเรื่องความปลอดภัย หากคุณพลาดท่าเสียทีเกิดการชนกับรถคนอื่น หรือไปคุยกับคอนกรีตกลางถนน คงจะจินตนาการไม่ออกว่า เราจะรอดตายได้อย่างไร แม้ว่ารถอีโค่คาร์สมัยนี้จะมีการพัฒนาความปลอดภัยเชิงโครงสร้างให้มีความสามารถในการปกป้องดีขึ้น แต่ในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ใครจะกล้ารับประกันให้คุณ