เข้าสู่ช่วงเทศกาลจ่ายเงินก้อนโตช่วงสิ้นปี ที่หลายคนเริ่มมองหายานพาหนะคันใหม่ ว่าแต่ถ้ามีเงิน 2 ล้านบาท จะซื้อรถซีดานกลางคันไหนกันดี?
ก่อนอื่นเลยต้องสวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ เราเข้าใจดีว่าหลายคนที่มีกำลังซื้อระดับ 2 ล้านบาท บางทีก็เกิดอาการสมองตื้อ คิดไม่ว่าจะไปสู่ขอรถซีดานกลางคันไหนมาไว้ใช้งานประจำบ้านดี ด้วยเหตุนี้เราจึงขันอาสามาพาผู้อ่าน ไปรู้จักกับรถที่น่าสนใจซึ่งเราจะมานำเสนอกันให้ทราบ ณ บัดนี้
Toyota Camry = ซีดานกลางโมเดลฮิต ยิ่งตัวใหม่ขับสปอร์ตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เวลาเราไปร้านอาหารตามสั่งแล้วนึกไม่ออกว่าจะกินอะไร เมนูที่โผล่ขึ้นในหัวคงเป็นพวก ข้าวกระเพราxx + ไข่ดาว หรือข้าวผัดสารพัดเนื้อสัตว์ เช่นเดียวกัน เหมือนช่วงที่เรากำลังคิดจะซื้อรถอันบ่งบอกความภูมิฐานในราคาไม่ทำให้กระเป๋าฉีกนัก Toyota Camry ก็จัดเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่คนทั่วไปนึกถึง
จริงอยู่ที่ว่าแคมรี่เจนฯ เก่าๆ ที่มีจำหน่ายมาหลายสิบปี จะมีรูปลักษณ์ออกไปทางแนวหรู ขับขี่นุ่มนวลสะดวกสบาย แต่นั่นหาใช่ตัวตนของ Toyota Camry 2018 ที่สร้างบนพื้นฐาน TNGA แม้ว่าหน้าตาจะคงทิศทางสไตล์ภูมิฐานมีระดับ ทว่าประเด็นการขับขี่นี่จัดว่าดีงามกว่าเดิมอย่างมาก เรียกว่าใครที่เคยบ่นว่าแคมรี่ขับโยน ไม่สนุก ขาดความมั่นคง คราวนี้มันถูกลบข้อด้อยดังกล่าวออกไปหมด เหลือไว้เพียงความสบายยามขับขี่ กับเสริมด้วยอาการช่วงล่างแน่นหนึบ ยังคับได้เฉียบคมขึ้นมาก
ยิ่งไปกว่าการขับขี่ที่พลิกเปลี่ยนไปในทางที่ดี ขุมพลังเบนซินไฮบริด 2.5 ลิตร กับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Dynamic Force กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดลูกใหม่ ส่งผลให้สมรรถนะกับความประหยัดน้ำมันทำได้ดีสมส่วนกัน ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องความทนทานระยะยาว ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน และปริมาณศูนย์บริการ ยิ่งทำให้ Camry โฉมใหม่เป็นตัวเลือกที่มองข้ามไม่ได้
หากถามเราว่า Toyota Camry รุ่นย่อยไหนน่าสนใจคุ้มเงินที่สุด เรามีให้คุณเลือกต่ออีก 2 แบบ ได้แก่ Toyota Camry 2.5G กับ Toyota Camry Hybrid 2.5 HV Premium ราคา
1,589,000-1,799,000 บาท เนื่องจากถ้าใครเน้นความประหยัดกับข้าวของครบถ้วน ก็ให้ไปเล่นตัวท็อปสุดเครื่องไฮบริดแล้วจะจบสิ้นทุกอย่าง ส่วนใครไม่ชอบมอเตอร์ไฟฟ้ายังคลั่งใคล้ขุมพลังสันดาปอยู่รุ่น 2.5G จัดเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ด้อยกว่าเท่าไหร่เลย
Honda Accord = รอปีหน้าค่อยซื้อใช้ ถ้าปีนี้เอาตัว 2.0 ลิตร
คู่ปรับตลอดกาลของ Toyota Camry อย่าง Honda Accord อาจยังไม่ค่อยน่าซื้อมาใช้ในปีนี้สักเท่าไหร่ เราอยากให้รอปีหน้าในวันที่แอคคอร์ดโฉมใหม่เปิดตัวมาสู้กับแคมรี่ แต่ถ้าใครชื่นชอบในรูปลักษณ์ กับการอัดโปรโมชั่นที่จัดหนักเพื่อปล่อยรถในสต็อกของดีลเลอร์ทั้งหลาย เราก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด
ถ้าถามว่ารุ่นย่อยใดของ Honda Accord โฉมปัจจุบันคุ้มค่ามากที่สุด เราตอบว่ารุ่น 2.0 EL ราคา 1,445,000 บาท เหตุเพราะมันใช้ขุมพลังเบนซินบล็อก 2.0 ลิตร ที่ลากยาวขายนานมาหลายปี จริงอยู่ถ้าดูผ่านๆ มันอาจเป็นข้อเสีย แต่ถ้ามองกลับกัน เจ้าแอคคอร์ด 2.0 ลิตร จัดว่าเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้ซีดานกลางทรงสปอร์ต ซึ่งมีจุดเดือนเรื่องความสวยงาม ขับดีสมตัว ภายในนั่งสบาย และเสถียรภาพความทนทานตัวรถโดยรวมดี
นอกเหนือจากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ประเด็นราคาขายต่อมือสองในอนาคต กับการตามหากอะไหล่จากร้านค้าหรืออู่นอก ฮอนด้าก็ยังมีคะแนนใกล้เคียงกับโตโยต้า รวมไปถึงเรื่องค่าภาษีประจำปีของเครื่อง 2.0 ลิตร ที่สบายกระเป๋า ควบคู่กับไปกับการเข้ารับบริการตามศูนย์ซ่อมบำรุงรถ เช่น B-Quik หรืออู่นอกที่เชี่ยวชาญได้ทุกที่
Nissan Teana = อยากเล่นให้เลือกรุ่น 2.0 XL
เรียกว่าสร้างกระแสฮือฮาต่อวงการยานยนต์เมืองไทยไม่น้อย สำหรับการเปิดตัวของ Nissan Teana 2018 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ทำเอาคอรถยนต์คนไทยบ่นอุบไปตามกัน ว่าทำไมไม่เอารุ่นใหม่โมเดลเชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่อเมริกามาขาย แต่เอาเถอะ รุ่นไมเนอร์ฯ ที่ขายบ้านเราก็มีจุดดีอยู่เหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่โฉมใหม่หมดกับเครื่องเทอร์โบตัวใหม่ก็ตามที
จากการอ่านรายการอุปกรณ์มาตรฐานของ Teana แต่ละรุ่นย่อย แล้วนำมาประมวลผล ทำให้เรากล้าฟันธงว่า Nissan Teana 2.0 XL คือซีดานกลางที่คุ้มค่าไม่แพ้ใครในตลาด ณ เวลานี้ เพราะมันเพิ่งได้รับการปรับโฉมเสริมหล่อ อัดอุปกรณ์ต่างๆ มาเต็มคัน ในราคาเพียง 1,426,000 บาท เท่านั้น
เรียกว่าหากคุณอยากได้ซีดานกลางที่มีข้าวของเหมือนรถคู่แข่งระดับบนๆ แต่จ่ายไม่ถึง 1.5 ล้านบาท Nissan Teana 2.0 XL คือตัวเลือกที่มองข้ามไม่ได้ เอาเป็นว่าเราจะไล่เรียงข้าวของที่จัดมา มีตั้งแต่ ล้อ 18 นิ้ว, หลังคาซันรูฟ, เครื่องเสียง BOSE Premium Audio พร้อมซัฟวูฟเฟอร์กับแอมปลิไฟเออร์, กล้องมองภาพรอบทิศทาง และอื่นๆ อีกมากมาย
หากคุณไม่ซีเรียสเรื่องการที่จะต้องคบหารถเปลี่ยนโฉมใหม่หมด ไม่แคร์เสียงคนรอบข้างที่มากระแนะกระแหนว่าทำไมไม่เอา Camry หรือรอ Accord คำตอบอย่าง Nissan Teana 2.0 XL จัดว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง แต่ก็ต้องทำใจบ้างเรื่องศูนย์บริการที่มีเยอะไม่เท่ารายใหญ่ รวมถึงอะไหล่ต่างๆ ซึ่งอาจหาในตลาดทั่วไปได้ลำบากกว่าซักหน่อย
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com