ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าแบรนด์รถยนต์ชั้นนำต่างลงมาทำตลาดรถยนต์ซีดานกลางมากขึ้น ด้วยค่ายหนึ่งถึงเวลาจะต้องปรับรุ่นปรุงโฉม ส่วนอีกค่ายก็รีบตอบโจทย์ทันควันประมือเอาใจลูกค้า เผื่อเป็นทางเลือก
แม้ว่าทั้ง 2 ค่ายจะมาพร้อมใจสมัครสมานสามัคคีในการเริ่มกลับมาฟื้นตลาดรถยนต์ซีดานกลางให้อยู่รอดในไทยต่อไปในอนาคต และยังมีแววว่าค่ายชั้นนำอีกค่ายจะเปิดในปีหน้า รวมถึงม้ามืดฮิโรชิม่าจะลงมาเอี่ยวด้วยกับ Mazda 6 แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นในใจคนซื้อรถคือ ความคุ้มค่า ว่ารถยนต์ทั้ง 2 แบบนี้อะไรซื้อแล้วดูคุ้มค่ากว่ากัน
โจทย์คนซื้อ … ดูดี และเพื่อครอบครัว
ถ้าคุณซื้อรถราคาตั้งแต่ 1.2 ล้านบาทขึ้นไป แน่นอนว่า คุณต้องซื้อรถคันนี้เป้นคันที่ 2-3 แล้วในชีวิต โจทย์นี้โดยมากจะเกิดขึ้นเพื่อแสดงสถานะทางสังคม รวมถึงยังอาจใช้งานตามความจำเป็นเพื่อครอบครัว อาจจะเพิ่มเริ่มมีลูก และยังต้องเน้นรถที่ใช้งานได้ทุกวันพร้อมความดูดีด้วยในคันเดียว
ในอดีตย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว รถยนต์ซีดานกลางถือเป็นรถที่เกิดมากเพื่อการตอบโจทย์คนที่ต้องการเฟ้นหาความหรูหราจากบริษัทรถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่น ในยุคนั้นไม่มีรถยนต์จากค่ายยุโรปรายไหนี่มีราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท เหมือนในปัจจุบัน ทำให้รถยนต์จากญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ สมรรถนะดีขายดิบขายดีจากรุ่นสู่รุ่น
รถอย่าง Nissan Teana, Honda Accord ไปจนถึง Toyota Camry ได้รับความนิยมมาก แม้ว่าข้อเท็จจริงคอพวกมันไม่ใช่แบรนด์ยุโรป แต่ก็ไม่ใช่รถที่คนธรรมดาทั่วไปจะหาซื้อมาใช้กันได้ง่ายๆ ตลาดนี้ไม่ใช่ตลาดใหญ่แต่เป็นตลาดที่มีกำลังซื้อ
จนกระทั่งมาถึงยุครถยนต์อเนกประสงค์เริ่มบูม คนจึงเริ่มผละจากรถเก๋งซีดานกลาง ทำให้ยอดขายลดลงจนเหลือตลาดรวมเพียงเดือนละ 300-500 คันในปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ Headlightmag.com
อเนกประสงค์ตอบโจทย์กว่า …. จริงหรือไม่
ภาพหนึ่งที่ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์เข้ามาอยู่ในใจคนจำนวนไม่น้อยก็เนื่องมาจากความเหมาะสมในการใช้งานจากมุมมองและสภาพถนนในไทย ที่ไม่รู้ว่าวันใดคุณจะไปพบหลุมบ่อโดยบังเอิญ หรืออาจจะต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนักน้ำท่วมในซอยบ้าน
ถ้าเป็นรถเก๋งก็คงต้องดำน้ำกันไป แต่ถ้าคุณซื้อรถยนต์อเนกประสงคืที่มีการยกสูงจากพื้นมากกว่า แม้ไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาให้ใช้ลุย อย่างน้อยที่สุดก็จะผ่านระดับน้ำที่สูงกว่าได้
ข้อดีดังกล่าวทำให้คนเริ่มตระหนักในการซื้อรถยนต์อเนกประสงค์มากขึ้น ประกอบกับการออกแบบรถยนต์อเนกประสงค์ยุคใหม่ถือว่าไม่ขี้เหร่มีความสปอร์ความงามในการโดยสารไม่ย่อหย่อนกว่ารถเก๋งในปัจจุบัน
โดยเฉพาะกลุ่มครอสโอเวอร์มีพัฒนาการอย่างมากในตลาดหลายปีที่ผ่านมา และ ปัจจุบันรถอเนกประสงคืยังให้ที่นั่งสูงสุดถึง 7 ที่นั่งอีกด้วย
แค่ 7 ที่นั่งและลุยน้ำได้ รวมถึงไม่ต้องระวังหลุมบ่อในการขับขี่ แค่นี้คนส่วนใหญ่ก็แฮปปี้แล้ว
หากข้อเท็จจริงหนึ่งที่หลายคนลืมตระหนัก คือรถยนต์อเนกประสงค์ราคา 1.2 ล้าน ไปถึง 1.8 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.รถอเนกประสงค์ขนาดย่อม หรือ Compact Crossover และ 2.รถอเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะ หรือ SUV แต่ในไทยชอบเรียกกันว่า Pick Up Passenger Vehicle หรือ PPV
รถทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันในกลุ่ม compact Crossover คือ รถยนต์อเนกประสงค์ที่พัฒนาจากพื้นฐานรถเก๋ง แค่มีขนาดไม่เกิน 4.6 เมตร เท่ากับรถเก๋งประเภทคอมแพ็คคาร์
ในความเป็นจริงมันมีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก และการออกแบบก็ยังไม่ได้ถึงขนาดว่าหรูหรามีระดับอะไรกันมากมาย มันเป็นรถที่เน้นคยวามกลางๆ ในการออกแบแต่ใช้งานได้ดีหรือผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ เรียกว่า Functional
และข้อเท็จจริงของการมีที่นั่งได้สูงสุด 7 ที่นั่ง คือเป็นการออกแบบที่นั่งในลักษณะ 5+2 กล่าวคือคุณจะนั่งสบายจริงๆ คือ 5 ที่นั่ง และ มี 2 ที่นั่งซ่อนไว้ถ้าจำเป็นจะต้องโดยสาร
เรื่องการขับขี่ได้ความนิ่มนวลแบบรถเก๋ง และด้วยความสุงกว่าทำให้มีทัศนวิสัยดีกว่า แต่ความสูงนำมาซึ่งข้อเสียเปรียบสำคัญคือรถมีอาการโยนตัวมากกว่าเวลาเข้าโค้ง หรือขับเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง จะมีการให้ตัวมากกว่ารถเก๋งในระดับหนึ่ง รวมถึงด้วยการออกแบบเป็นรถกึ่งลุยจึงจะมักเซทช่วงล่างแข็งกว่าเก๋งทั่วไปอีกด้วย
ด้านรถอเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะยิ่งแล้วกัน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานจากกระบะแล้ววางตัวถังใหม่เป็นอเนกประสงค์ ทำให้โดยส่วนใหญ่แล้วรถยนต์อเนกประสงค์จากกระบะนั้นมีความกระด้างในการขับขี่มาก แต่ข้อดีคือคุณก็จะได้ความสามารถในการบุตะลุยมากขึ้น
รถแบบ PPV มีข้อดีเดียวที่เราเห็นคือได้ตัวถังขนาดใหญ่ ปัจจุบันในประเทศไทยถ้ามองหารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางหรือ Mid-size SUV ก็จะมีแต่รถกลุ่มนี้เท่านั้น แน่นอนที่นั่งในการโดยสารสบายขึ้น เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ด้วยความเป็นรถยนต์จากพื้นฐานกระบะทำให้ความกระโดกกระเดกของมันเป็นหอกข้างแคร่เวลาขับขี่
แถมรถกลุ่มนี้มีให้เลือกแต่เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งก็ไม่ได้ประหยัดน้ำมันเท่าไรนัก พวกมันเป็นรถที่เหมาะสำหรับเดินทางไปยังต่างจังหวัดมากกว่า ใช้งานในเมืองยังไม่โดนเท่าไร และที่สำคัญไม่มีรุ่นไหนในปัจจุบันที่พอจะเข้าใกล้คำว่า ความหรูหราได้เลย
ดังนั้นถ้าสรุปแล้ว รถอเนกประสงค์มีดีเรื่องฟังชั่นใช้งานและเพียบพร้อมกว่าเมื่อต้องเจออุปสรรคระหว่างทามากกว่ารถเก๋ง
ซีดานกลางยังได้ใจ ครอบครัวก็ใช่ดูดีก็ได้
กว่าหลายปีที่คนจำนวนไม่น้อยผละจากเก๋งซีดานกลางหารถอเนกประสงค์ด้วยการมองความคุ้มค่าต่างออกไป มันไม่แปลกที่ของใหม่ย่อมจะถูกนึกว่ามันดีกว่าเก่าเสมอ แต่รถเก๋งขนาดใหญ่เหล่านี้ก็มีดีเช่นกัน
แน่นอนด้วยการถ่ายทอดความเป็นรถยนต์นั่งสุดหรูจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้รถซีดานกลางหลายรุ่นพกพาความหรูหราในการออกแบบมาด้วยเป็นทุนเดิมที่รถยนต์อเนกประสงค์ก็ยังไม่มีใครเทียบเคียงได้
นอกจากนี้ด้วยการวางหมากให้เป็นรถยนต์ที่มีความภูมิฐานทำให้รถถูกออกแบบให้มีการตอบสนองในการโดยสารนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ รถยนต์อย่าง Nissan Teana เป็นรถยนต์เก๋งที่มีความนุ่มนวลที่สุดในคลาส และซีดานกลางรุ่นอื่นๆ ก็มีความนั่งสบายไม่แพ้กันด้วย
ตลอดจนในเรื่องของการออกแบบและจัดวางพื้นที่โดยสาร ก็เรียกว่ามีมาให้นั่งสบายตลอดการเดินทาง แม้ว่าจะนั่งโดยสารสุงสุดเพียง 5 ที่นั่ง แต่ก็เป็นรถที่ให้ความสบายสูงสุดที่สุด โดยที่คุณไม่ต้องไปหาซื้อรถยุโรปที่มีราคาแพงกว่า และดูแลรักษายากกว่าให้มากความ
ไม่เพียงแค่ที่กล่าวมา รถเก๋งซีดานกลางในปัจจุบันหลายผู้ผลิตยังเพิ่มรุ่นไฮบริดดเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการรถที่สามารถใช้งานได้ทั้งขับในเมืองและนอกเมือง มีความประหยัดในการขับขี่สูงสุด และรวมถึงเมื่อเปรียบเทียบทางด้านการออกแบบที่มีความเตี้ยและลู่ลมกว่าจากโครงสร้าง รถซีดานกลางจะมีความประหยัดกว่ารถอเนกประสงค์พอสมควร
ดังนั้นถ้าสรุปแล้ว รถซีดานกลางมีข้อดีกว่าในเรื่องความประหยัด และความสบายในการโดยสาร รวมถึงยังได้ภาพลักษณ์ความหรูหรา จะขับเองก็ได้ จะให้คนขับให้นั่งก็ดี ประหยัดกว่า
แต่มันดีไม่เท่ารถอเนกประสงค์ชั้นนำตรง ความสามารถในการลุยทางสมบุกสมบัน ที่นั่ง จำนวน 7 ที่ ซึ่ง 2 ตอนหลังก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ใหญ่ ก็เท่านั้นเอง
สรุป ซื้ออะไรดีกว่ากัน อเนกประสงค์ VS. ซีดานกลาง
ในที่สุดก็มาถึงบทสรุปเสียที
มาถึงตรงนี้ผมเชื่อว่า เพื่อนๆ คงเข้าใจทั้งรถยนต์ซีดานกลาง และรถยนต์อเนกประสงค์ที่ขายในตลาดมากขึ้น กันพอสมควร ทว่าแต่ละคนก็มีความต้องการในการใช้รถ และวัตถุประสงค์ในการซื้อรถไม่เหมือนกัน ซึ่งการตัดสินใจใดๆ ควรจะดูที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
ถ้าคุณต้องการรถยนต์ที่เน้นลุยได้ ผ่านถนนที่สมบุกสมบันได้ มีที่นั่ง 7 ที่ และไม่ได้ลุยมากมายแบบโหดหินอะไร Crossover หรือรถอเนกประสงค์คอมแพ็ค เช่น Nissan X Trail , Subaru XV – Subaru Forester ถือเป็นคำตอบ
แต่ถ้าต้องการรถใหญ่ขึ้นมาหน่อย และมีความสามารถในการลุยมากกว่าดีพอจะพาคุณเข้าป่าเข้าพงได้สบาย ต้องหนีไปรถยนต์อเนกประสงค์จากพื้นฐานกระบะ PPV จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
กลับกันรถยนต์ซีดานกลาง เป็นรถที่ออกแบบมาให้นั่งดีที่สุดในวันนี้ถ้าคุณไม่ได้ฝันถึงรถยนต์จากยุโรปชั้นนำ รถกลุ่มนี้ไม่ได้เน้นลุยหรืออะไร แต่เป้นรถในสไตล์มาดดีครอบครัวก็ได้ เน้นนั่งสบาย ขับเองก็ได้ มีคนขับก็ดี ถ้าในงบประมาณไม่เกิน 2 ล้านบาท แล้วยังต้องการความประหยัด ซีดานกลางจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น ถือเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
การตอบโจทย์ในการซื้อรถมีความแตกต่างกันออกไป ไม่แปลกใจนัก ถ้าคุณจะมองหารถยนต์ตามแต่ละคนต้องการแตกต่างกัน ถ้าวันนี้คุณต้องการรถยนต์นั่งสักคันไม่ว่าจะด้วยอะไร ลองตีโจทย์ความต้องการดี กว่าอเนกประสงค์หรือซีดานกลางเหมาะกว่ากัน ถ้าจะซื้อรถราคา 1.3 ล้านบาทขึ้นไป