Home » Cold Start  …. รู้จักไว้ ตัวการทำเครื่องยนต์สึกหรอทุกเช้า
Engine-12-15-Compare (5)
เคล็ดลับขับรถ เคล็ดลับเรื่องรถ

Cold Start  …. รู้จักไว้ ตัวการทำเครื่องยนต์สึกหรอทุกเช้า

ในบรรดารถยนต์ที่เราใช้กันเป็นประจำ โดยเฉพาะรถที่ใช้เมือง มักมีคำกล่าวถึงรถดีใช้น้อย สภาพนางฟ้าเจ้าของรถขับในระยะทางไม่ไกลจากบ้าน คำพูดลักษณะนี้ เชื่อว่าจะเจอบ่อย เมื่อคุณมองหารถมือสองสภาพเยี่ยมสักคัน แต่ทราบหรือไม่ว่า รถใช้งานในเมืองมีภัยเงียบ และเป็นตัวการสำคัญ ทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ  มากกว่าที่เรารู้เสียอีก

การสตาร์ทขณะเครื่องยนต์เย็น หรือ   Cold Start  คือ การเริ่มต้นทำงานเครื่องยนต์ในภาวะที่เครื่องยนต์มีความเย็นจับตัว เนื่องจากไม่ได้เริ่มทำงานเป็นเวลานาน ทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ไม่เหมาะสม และ ยังขาดการหล่อลื่นชิ้นส่วนโดยทั่วถึง ตลอดจน อากาศที่มีความเย็น อาจทำให้ค่าส่วนผสมผิดเพี้ยนในช่วงแรก หรือ อาจจะเย็นจนจุดระเบิดยาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัด

  มันอาจไม่ใช่ภัยเงียบเสียทีเดียว แต่มันเป็นเรื่องที่เชื่อว่าน้อยคนจะใส่ใจกับมันนัก เนื่องจากคนส่วนใหญ่มองว่า รถยนต์ไม่ว่าจะภาวะใด ถ้าเครื่องยนต์ทำงานได้เดินเรียบสมบูรณ์ ก็ถือว่ายังอยู่ในสภาพเยี่ยมเหมือนๆ กัน ทั้งที่เครื่องยนต์ในรถของพวกเรา ต้องทำงานในภาวะที่เหมาะสมอุณหภูมิที่เหมาะสม เครื่องยนต์ไม่ควรจะร้อนหรือเย็นเกินไป และต้องได้รับการหล่อลื่น อย่างทั่วถึง จุดระเบิดตามค่าส่วนผสมที่ถูกต้อง

Engine-12-15-Compare (5)

การ   Cold Start   โดยมากจะเกิดขึ้นทุกครั้งในตอนเช้าของทุกวัน คุณอาจสังเกตว่า การสตาร์ทในตอนเช้าเครื่องยนต์จะมีอาการเสียงดังกว่าปกติ (สังเกตได้ชัดในภาวะอากาศเย็น) อันมาจากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เริ่มทำงาน ในภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าที่วิศวกรกำหนด ที่มาของเสียงต่างเหล่านี้ มาจากอุณหภูมิเครื่องยนต์ที่ยังไม่เหมาะสม และการหล่อลื่นเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันเครื่อง อาจยังทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ไหลเวียนไม่เต็มระบบ หรือยังไม่เคลือบชิ้นส่วนเคลื่อนไหวต่างๆ อย่างทั่วถึง 

นั่นจึงเป็นที่มาของการวอร์มเครื่องยนต์ หรือ   Engine warm  Up   ให้นึกถึงเวลาเราออกร่างกาย ถ้าเรานั่งในห้องแอร์หลายชั่วโมง อยู่ดีจะออกวิ่งมาราธอนทันที คงจะรู้สึกว่ายังวิ่งไม่ออก เครื่องยนต์ก็เช่นกัน เราจำเป็นต้องวอร์มอัพการทำงานเครื่องยนต์ก่อนที่จะใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

โดยมากบริษัทรถยนต์จะใช้วิธีการเซทรอบเครื่องยนต์ช่วงแรกให้สูง เพื่อให้ถึงอุณหภูมิเหมาะสมในการทำงานอย่างรวดเร็ว รวมถึง ติดตั้งตัวช่วยให้ความร้อนแก่เครื่องยนต์ อย่างวาล์วน้ำ  ซึ่งจะกักน้ำไว้จนกว่าจะถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม ก่อนจะถ่ายเทความร้อน

Nissan-note-review-ridebuster (8)

เช่นเดียวกันปัจจุบันรถยนต์หลายรุ่นจะมีไฟแสดงเตือนว่า เครื่องยนต์ยังอยู่ในภาวะเครื่องยนต์เย็น หรือภาวะ  Cold Start  และไฟจะดับไปเมื่ออุณหภูมิอยู่ในช่วงที่เหมาะสมการทำงาน

อย่างไรก็ดีภาวะ   Cold Start  ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เครื่องยนต์ยังไม่พร้อมทำงาน และเป็นจังหวะที่เครื่องยนต์มีโอกาสเกิดการสึกหรอมากกว่า จากการเสียดสีของชิ้นส่วน และการหล่อลื่นยังไม่ทั่วถึง

ถึงเราจะพูดแบบนั้น และฟังดูร้ายแรง วิธีแก้เคล็ดเรื่องนี้ ก็คือการวอร์มเครื่องยนต์ ก่อนใช้งาน หลักการวอร์มเครื่องยนต์ก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรนัก เพียงอย่าใช้รอบเครื่องสูงในช่วง cold Start   คุณสามารถขับรถได้ปกติในความเร็วต่ำๆ เช่นออกจากบ้าน -หมู่บ้าน ออกจากซอย  ซึ่งโดยมาก ก็จะใช้เวลา 3-5 นาที ก็จะเข้าสู่ช่วงอุณหภูมิเหมาะสม แล้วแต่อุณหภูมิที่ทางวิศวกรกำหนดเอาไว้

ถ้ารถคุณไม่มีไฟเตือน สังเกตได้จากเสียงเครื่องยนต์ที่เหมือนโลหะกระทบจะหายไป รวมถึงการตอบนองคันเร่งจะดีขึ้นด้วย เนื่องจากชิ้นส่วนถูกหล่อลื่น

ส่วนว่า ทำไมรถใช้ในเมืองสึกหรอจากการ สตาร์ทเย็นมากกว่า ก็มาจากพฤติกรรมการใช้รถนั่นเอง เช้าขับรถจากบ้านไปที่ทำงาน จากนั้นทิ้งรถจอดแช่อย่างนั้น วันละ 7-8 ชั่วโมง บางคนอาจจะมากกว่านั้น แล้วมาสตาร์ทขับกลับบ้าน ซึ่งโดยมากเพียงจอดทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง รถก็จะกลับมาอยู่ในภาวะเครื่องเย็นอีกครั้ง

ในทางกลับกัน ถ้าเป็นรถที่เดินทางไกลบ่อยๆ การสตาร์ทเย็นจะเกิดขึ้นแค่วันละครั้งเดียวโดยส่วนใหญ่ คือ สตาร์ทรถขับเดินทาง แล้วดับเครื่องยนต์เมื่อถึงที่หมายปลายทาง และจะสตาร์ทอีกทีอาจจะเป็นวันถัดไปเลยก็ได้

หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า แล้วการทำงานของระบบหยุดเครื่องยนต์ชั่วคราว ถือเป็น   Cold Start   ไหม คำตอบคือไม่ครับ เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์อยู่ในช่วงเหมาะสม จะไม่ถือว่าเป็นการสตาร์ทเย็น นั่นหมายความว่าถ้าวอร์มเครื่องยนต์แล้ว จะสตาร์ทอีกกี่รอบก็ไม่มีปัญหา ตราบใดที่น้ำหล่อเย็นและอุณหภูมิเครื่องยนต์อยู่ในภาวะที่เหมาะสมนั่นเอง

Cold Start   ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากนัก และน้อยคนจะรู้ถึงการสึกหรอที่แผงในทุกการสตาร์ทในตอนเช้า มันไม่ได้เป็นการสึกหรอที่ร้ายแรงนัก แต่ถ้าการสึกหรอนี้สะสมไปเป็นเวลานาน ๆ ใครจะรู้ว่า ข้างในเครื่องยนต์คุณจะสภาพเป็นอย่างไรบ้าง

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.