Home » น้ำหนักบรรทุกกับความประหยัดน้ำมัน มีผลสัมพันธ์ขนาดไหน?
เคล็ดลับขับรถ

น้ำหนักบรรทุกกับความประหยัดน้ำมัน มีผลสัมพันธ์ขนาดไหน?

รถยนต์แต่ละคันมีเจ้าของนิสัยต่างกัน บ้างก็ยัดข้าวของจำนวนมากใส่ไว้ในรถ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มส่งผลมากขนาดไหนต่อความประหยัดน้ำมัน?

รถยนต์สมัยใหม่มีการพัฒนาขุมพลัง โครงสร้าง ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยเพิ่มสมรรถนะกับความประหยัดน้ำมัน โดยประเด็นที่กล่าวมาเป็นในแง่มุมฝั่งบริษัทรถยนต์ แต่กับฝากของผู้บริโภคล่ะ เราสามารถทำอะไรเพื่อเชฟเงินค่าเชื้อเพลิงที่ต้องจ่ายได้บ้าง?

น้ำหนักบรรทุก คำนี้ไม่ได้หมายถึงข้าวของที่ใส่ไว้ในท้ายรถเพียงอย่างเดียว หากรวมถึงผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร กับทุกสิ่งที่ไม่ได้ผูกติดตั้งถาวรประจำรถ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลสมรรถนะกับความประหยัดน้ำมันทั้งสิ้น ว่าแต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาส่งผลถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันขนาดไหนล่ะ…

จากรายงานของ ECCJ (Energy Conservation Center) ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการศึกษาว่ารถยนต์จะมีอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นเท่าใดเมื่อมีน้ำหนักบรรทุกในปริมาณต่างกัน โดยการทดสอบได้นำรถยนต์นั่งซีดานเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มาทำการทดสอบหาอัตราสิ้นเปลืองพลังงานจากน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น ในเรท (ซีซี/กิโลเมตร) ได้ผลดังนี้

 

・ ชานเมือง
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 110 กิโลกรัม (เทียบเท่าผู้ใหญ่ 2 คน) = 3.4%
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 270 กิโลกรัม (เทียบเท่าผู้ใหญ่ 5 คน) = 8.3%

・ ในเมือง
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 110 กิโลกรัม = 5.4%
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 270 กิโลกรัม = 10.6%

・ ทางไกล
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 110 กิโลกรัม = 3.3%
น้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น 270 กิโลกรัม = 6.2%

ตัวเลขที่ปรากฏพอทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า คุณผู้หญิงที่ชอบเอาเสื้อผ้า รองเท้า ชุดเครื่องสำอางค์ไว้ในรถยนต์ หรือจะเป็นผู้ชายที่รักการออกกำลังกายมักใส่จักรยานไว้ในรถยนต์เสมอ รถยนต์ของเธอและเขาจะไม่กินน้ำมันเพิ่มมากนัก เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจอยู่ในช่วง 5-30 กิโลกรัม เมื่อคิดออกมาแล้วจะทำให้รถสิ้นเปลืองเพิ่มไม่กี่เปอร์เซนต์เท่านั้น

สำหรับในต่างประเทศได้มีการพูดถึงน้ำหนักรถแปรผันกับความประหยัดน้ำมัน โดยหากดูตามค่ามาตรฐานที่กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้กำหนดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันมาตรฐานของรถที่มีน้ำหนักแต่ละช่วงเอาไว้ เพื่อเป็นเป้าหมายให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต้องทำตามไว้ดังนี้

  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักระหว่าง 971 ถึง 1,080 กิโลกรัม ทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.4 กิโลเมตรต่อลิตร
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักระหว่าง 1,421 ถึง 1,530 กิโลกรัม ทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักระหว่าง 1,991 ถึง 2,100 กิโลกรัม ทำอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 12.7 กิโลเมตรต่อลิตร

จริงอยู่ว่าน้ำหนักข้าวของจิปาถะที่พวกเราท่านใส่รถเอาไว้อาจมีผลต่อความประหยัดน้ำมันนิดหน่อย แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ก็ควรจัดเก็บสิ่งของให้เรียบร้อย รวมถึงเลือกเฉพาะของที่จำเป็นต้องใช้ใส่ไว้ในรถอยู่เสมอ เผื่อมีใครขอติดโดยสารขึ้นมาคุณจะได้ไม่… นะครับ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.