ช่วงปลายปีแบบนี้นอกจากฤดูกาลจะเปลี่ยนผันมีลมหนาวพัดโบก มันเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการซื้อรถคันใหม่อย่างที่สุด เหตุผลง่ายๆ มาจากการที่มีงานมหกรรมขายรถแห่งชาติเช่นงาน Motor Expo ที่จัดประจำทุกปีราวเดือนธันวาคม แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เราจะพูด หากแต่จะมาตีแผ่ 4 ความเชื่อเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถยนต์ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันมานานให้ได้กระจ่างกัน
1.รถสมัยก่อนแข็งแกร่งกว่ารถสมัยนี้
ความเชื่อ
เริ่มด้วยความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมายาวนาน อย่างความคิดที่ว่ารถสมัยก่อนนั้นแข็งแกร่งทุกส่วน ชนนิดหน่อยก็ไม่มีการบุบหรือแตกสลายง่ายเหมือนรถสมัยนี้ เวลาเกิดอุบัติเหตุรถรุ่นใหม่ชนกันทีไรหน้ายับเยินกว่ามาก แล้วแบบนี้จะสามารถป้องกันคนขับและผู้โดยสารให้ปลอดภัยได้อย่างไร?
ความจริง
จริงอยู่ที่รถยนต์รุ่นเก่าใช้เหล็กกล้าหรือวัสดุที่ทนทานต่อแรงกระแทกและการชนมากกว่ารถในยุคปัจจุบัน แต่ความแข็งแกร่งใช้ว่าจะมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอไป เพราะรถยุคปัจจุบันมีการออกแบบโครงสร้างให้กระจายแรงตามทุกส่วนของรถ ซึ่งผลที่ได้คือห้องโดยสารจะยังคงรูปร่างเดิมแถมผู้ที่โดยสารภายในได้รับความปลอดภัยสูงสุด ในประเด็นการชนเล็กน้อยแล้วรถสมัยใหม่บุบหรือเสียหายมาก นั่นเป็นความต้องการของผู้ออกแบบที่จะลดการบาดเจ็บเมื่อรถเกิดไปชนกับคนเดินถนน รวมถึงหากชนไม่มากก็สามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้ง่ายและมีราคาไม่แพงนัก
2.รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เสียการทรงตัวยากกว่ารถขับ 2 ล้อ
ความเชื่อ
อีกหนึ่งความเชื่อที่สืบทอดมายาวนานไม่แพ้กันอย่างคำพูดที่ว่า รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เกาะถนนและทรงตัวดีกว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยบางทีเพื่อนหรือคนรอบข้างคุณอาจบอกว่า ถ้าขับรถไปแล้วเจอฝนตกหนักก็ให้เปิดโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4H ลุยไปเลย รับรองไม่ต้องกังวลว่าจะเสียการทรงตัว ว่าแต่ความเชื่อแบบนี้ถูกหรือผิด?
ความจริง
ถูกต้องครับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ยึดเกาะถนนได้ดีกว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ ในแง่ของสมรรถนะแล้วรถ 4WD หรือ AWD สามารถขับขี่ได้มั่นคงกว่าในทุกสถานการณ์ แต่กรณีที่ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วมากเกินไปขณะเข้าโค้ง หรือใช้ความเร็วสูงขณะขับบนถนนที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ ด้วยปัจจัยที่กล่าวมารถขับเคลื่อน 4 ล้อก็ไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไปถ้าขาดระบบช่วยเหลือการทรงตัว เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ดังนั้นการซื้อรถใหม่จำเป็นต้องดูระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่กล่าวมาให้ครบ เพราะถ้ามีระบบพวกนั้นต่อให้รถขับ 2 หรือ 4 คุณก็จะได้รับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
3.รถแรงม้ามากเข้าไว้ ขับดีเร่งเร็วแน่นอน
ความเชื่อ
ยอดความเชื่ออัมตะตลอดกาลตั้งแต่ที่ผู้เขียนเติบโตจากเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ไม่ว่ายุคสมัยใดเวลารถเปิดตัวใหม่ก็ต้องถามก่อนเลยว่า “กี่แรงม้า” เหตุผลง่ายๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจก็คือ แรงม้ามีมากๆ ช่วยให้รถเร่งแซงได้ทันใจ ขับขี่แล้วเร่งได้แรงกว่ารถที่มีแรงม้าน้อยกว่า จะว่าไปแล้วความเชื่อนี้ก็อาจเป็นจริงนะ…
ความจริง
หากถามว่าการมีแรงม้ามากในเครื่องยนต์ช่วยให้รถแรงจริงไหม? เราตอบได้เลยว่าจริงครับ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะเราต้องคำนึงถึงแรงม้า แรงบิด และน้ำหนักตัวรถ แม้ว่ารถคันหนึ่งจะมีแรงม้ามากถึง 200 ตัว แต่แรงบิดสูงสุดอยู่เพียง 220 นิวตันเมตรแถมมาที่รอบสูงถึง 4,500 รอบต่อนาที รถคันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเร่งได้เร็วกว่ารถที่มีม้า 175 ตัว แต่แรงบิดสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตรตั้งแต่ 2,000 รอบต่อนาทีเป็นต้นมา
ผลลัพธ์คือ ถ้ารถมีน้ำหนักต่างกันไม่มากนัก แต่คันหนึ่งมีแรงบิดสูงสุดมาที่รอบต่ำกว่า รถคันนั้นมีแนวโน้มเร่งแซงได้เร็วกว่า ยิ่งไปกว่านั้นรถที่ีแรงบิดสูงแถมมา
รอบต่ำ มันสามารถแบกน้ำหนักบรรทุกจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลดีอย่างมากหากคุณขับรถเดินทางไกลพร้อมผู้โดยสาร เพราะคุณจะเร่งแซงได้ทันใจและประหยัดน้ำมันมากกว่ารถที่มีแรงม้ามาก ทว่าแรงบิดต่ำกว่าและมาในรอบสูง
4.เกียร์ต้องสปีดมากเข้าไว้
ความเชื่อ
ยุคปัจจุบันโลกยานยนต์ก้าวไปไกลกว่าเมื่อก่อนมาก โดยหัวข้อที่พูดถึงกันเมื่อมีรถเปิดตัวใหม่ก็คือ เกียร์กี่สปีด? ถ้าบอกไปกว่า 4 หรือ 5 หลายคนก็คงบ่นอุบอิบว่าน้อยไปหรือเปล่า สมัยนี้ต้อง 6 สปีดขึ้นไปแล้ว ใส่เกียร์สปีดน้อยมารถก็เร่งไม่ออกกันพอดี
ความจริง
ไม่จริงครับ การที่รถติดตั้งเกียร์อัตโนมัติสปีดเยอะๆ ตั้งแต่ 6-7-8 หรือ 9 สปีดมานั้น ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้รถเร่งได้เร็วกว่าเสมอไป โดยสาเหตุที่ผู้ผลิตติดตั้งเกียร์หลายสปีดมาให้ก็มีหลายประเด็น ตั้งแต่ ความนุ่มนวลขณะขับขี่ ความประหยัดน้ำมัน หรือเพื่อรองรับความแรงของเครื่องที่มีแรงม้าสูง ซึ่งถ้ารถคันใหม่ที่คุณจะซื้อมีขนาดเครื่องเพียง 1.5 ลิตร พร้อมกับติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดให้มาก็ไม่ต้องร้องยี้หรือส่ายหน้าหนี
ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ต้องหันหน้าหนี? คำตอบคือเครื่องที่มีแรงม้าน้อยและติดตั้งเกียร์อัตโนมัติสปีดเยอะๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้รถแรงขึ้นเสมอไป เพราะแค่เกียร์ 4
สปีดแต่ปรับแต่งอัตราทดให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวก็ใช้ได้แล้ว อย่าลืมว่าแรงบิดสูงสุดของรถเบนซินเครื่องเล็กอยู่ระหว่าง 150-170 นิวตันเมตร อีกทั้งมาในรอบสูงถึง 4,500 รอบต่อนาที ดังนั้นการที่มีเกียร์เพียง 4 สปีดจึงช่วยรีดเค้นแรงบิดได้ยืดหยุ่นกว่าในทุกสถานการณ์
ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา
