หลายคนใช้รถยนต์คู่ใจมาเกินกว่า 5 ปี ซึ่งยิ่งใช้ก็ยิ่งได้ยินเสียงดังแปลกๆ จากห้องเครื่อง ว่าแต่สาเหตุของเสียงมีที่มาต่างกันอย่างไรบ้าง?
คำถามมากมายเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาเราได้ยินเสียงแปลกๆ ดังจากห้องเครื่องยนต์ อันเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ยานพาหนะขับเคลื่อนไปได้ ซึ่งสาเหตุของเสียงเหล่านั้นมีต้นเหตุต่างกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วที่มันส่งเสียงดัง เนื่องจากต้องการบอกเจ้าของรถว่า ฉันเสื่อมสภาพจนใกล้จะพังแล้วนะ เหล่านี้ล้วนเป็นนัยยะสำคัญที่เสียงดังประหลาดจากห้องเครื่องอยากบอกคุณ
1.เสียงดังจี๊ดๆ คล่อกๆ – เสียงสายพาน กับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
เริ่มต้นด้วยเสียงยอดฮิตที่มักเกิดขึ้นกับรถยนต์อายุตั้งแต่ 5 ปีเป็นต้นไป หรือบางคันก็พบเจอปัญหานี้ไม่นานนักเมื่อใช้งาน โดยพื้นฐานแล้วเสียงดังอี๊ดๆ จี๊ดๆ เวลาตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ซึ่งอุณหภูมิยังเย็นอยู่ สันนิษฐานเบื้องต้นได้หลายสาเหตุ อาทิ
- สายพานหน้าเครื่องเสื่อมสภาพ มีความหย่อนหรือตึงจนเกินไปอันเนื่องมาจากระยะเวลาการใช้งาน สภาพอากาศ และความชื้น เหล่านี้ทำให้สายพานเกิดการสึกหรอ หรือหากใช้งานไปโดยไม่เปลี่ยนสายพานอาจขาดได้
- หากเปลี่ยนสายพานใหม่แล้วเสียงยังไม่หาย ให้ตรวจสอบบริเวณพูลเลย์ว่าอยู่ในภาพสมบูรณ์หรือไม่ ต่อมาสังเกตุดูที่ตัวคอมแอร์ ไดชาร์จ และปั๊มน้ำ ว่าเสียงเกิดจากบริเวณใดกันแน่ หากไม่แน่ใจก็ให้นำรถไปหาช่างผู้ชำนาญเพื่อทำการวิเคราะห์
- ต้นเหตุของการเกิดเสียงจี๊ดๆ ลำดับสุดท้าย ก็คือ ตัวปรับความตึงสายพานอัตโนมัติเสีย โดยอาการเสียของเจ้าสิ่งนี้ส่งผลต่ออุปกรณ์อย่างสายพาน คอมแอร์ ไดชาร์จ และชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับสายพานทั้งหมด
2. เสียงดังแคล็กๆ เสียงเหมือนเหล็กกระทบกัน – วาล์วยัน วาล์วห่าง
ก่อนที่จะไปคุยกันเรื่องเสียงต้องพูดคุยให้ผู้อ่านเข้าใจก่อนว่า อาการวาล์วยัน วาล์วห่าง ทำให้คุณรู้สึกได้ถึงอะไรบ้าง โดยวาล์วยันจะทำให้รถเดินเบาสั่น กระตุก หรือบางทีก็ดับไปดื้อๆ และส่งผลถึงอัตราเร่งที่วิ่งไม่ออก เกิดขึ้นได้กับรถน้ำมันรวมถึงใช้แก๊ส และที่สำคัญคือรถกินน้ำมันมากขึ้น
ในส่วนอาการวาล์วห่างนั้น ผู้ขับขี่จะรู้สึกว่ารถเร่งไม่ค่อยไป บางครั้งอาจมีควันดำไหลออกมาจากท่อไอเสียบ้าง ซึ่งสร้างความหงุดหงิดใจให้เจ้าของรถเป็นอย่างมาก
- ส่วนใหญ่แล้วเสียงดังคล้ายเหล็กกระทบกัน หรือดังแคล็กๆ มักเกิดขึ้นกับอาการวาล์วยันมากกว่า แต่ก็มีบางกรณีที่เสียงเกิดขึ้นได้กับอาการวาล์วรั่ว อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการหาสาเหตุคือจับจากอาการที่เรากล่าวมาเบื้องต้น
เสียงในห้องเครื่องยนต์สร้างความกังวลใจให้แก่เจ้าของรถทุกคน ไม่ว่าจะดังมาก ดังน้อย หรือไม่ดังเลย แต่ก็มีเจ้าของหลายคนเกิดความวิตกจนคิดไปเอง ดังนั้นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการค้นหาต้นตอของเสียง คือการจับความรู้สึกแปลกๆ ของรถ แล้วมาวิเคราะห์พร้อมเสียงที่เกิดขึ้น
