ทุกวันเวลาเราขับรถไปตามเส้นทางต่างๆ ล้อและยางทั้ง 4 เส้น ถือเป็นเรื่องสำคัญต่อการขับขี่ นอกจากยางดีๆ และ การเติมลมยางบ่อยครั้งแล้ว การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ก็นับเป็นเรื่อสำคัญไม่แพ้กัน ในการดูแลรักษารถในระหว่างการใช้งาน
เราหลายคนต่างรู้จักเรื่องราวการตั้งศูนย์ถ่วงล้อกันมายาวนาน แต่น้อยคนจะรู้ว่ามันต้องทำเมื่อไร และมีความสำคัญอย่างไร รู้เพียงว่าเวลาเปลี่ยนยางใหม่ ต้องทำการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เพื่อให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ดีที่สุด ทั้งที่ควรจะทำเป็นประจำทุกปีด้วยซ้ำ
การตั้งศูนย์รถ หรือ Wheel Alignment และ การถ่วงล้อหรือ Tire Balance มีความสำคัญแตกต่างกันออกไป และแม้ว่าเวลาเราเห็นว่า 2 อย่างนี้ทำคู่กันแต่ มันกลับมีความสำคัญต่างกันโดยสิ้นเชิง
การตั้งศูนย์
การตั้งศูนย์รถ หรือ Wheel Alignment เป็นการตั้งค่าหหรือเซทค่าระบบกันสะเทือนของรถใหม่ เพื่อให้มุมต่างๆ ของระบบช่วงล่างที่เซทมาจากโรงงานอยู่ในค่าปกติถูกต้อง เพื่อทำให้การซับแรงกระแทก สะเทือนจากถนนถูกต้อง และ ยังมีผลต่อการบังคับทิศทางของรถ และทิศทางของรถในขณะวิ่งไปข้างหน้า
การตั้งศูนย์รถยนต์ ความจริงแล้วควรทำทุกปีเป็นประจำ เนื่องจากการใช้งานในทุกระยะ 20,000 กิโลเมตร หากคุณขับในสภาพถนนหลุมดาวอังคารแบบบ้านเรา ระบบกันสะเทือนที่รับภาระหนักอาจเกิดเพี้ยนค่าต่างๆได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าคุณขับบนถนนขุรขระบ่อยครั้ง หรือ เกิดไปชนกระแทกเล็กๆ น้อยก็มีผลได้เช่นกัน และเราสามารถสังเกตได้ 3 อาการ ได้แก่
1.พวงมาลัยบังคับเลี้ยวเบี้ยว ซ้ายหรือขวา หรือ บังคับตรงแล้วอาจจะอยู่ผิดตำแหน่งจากปกติ
2.เมื่อปล่อยมือจากพวงมาลัยแล้ว รถไม่วิ่งตรงไปข้างหน้า แต่มีอาการวิ่งเอียง ซ้ายหรือขวา
3.พวงมาลัยสั่นในระหว่างการขับขี่ หรือมีแรงสะท้าน เมื่อบังคับเลี้ยว
อาการทั้งหมดเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าคุณ ควรจะทำการตั้งศูนย์รถได้แล้ว โดยเฉพาะในกรณีสำคัญ เช่นคุณขับชนกระแทกฟุตบาธ หรือตกหลุม-คอสะพาน กระแทกอย่างรุนแรง ให้คิดว่า สมควรจะไปตั้งศูนย์รถได้แล้ว
ปัจจุบันการตั้งศูนย์รถมีหลายแบบ แต่ปกติที่นิยมทำกัน คือการตั้งศูนย์ 2 ล้อ หน้า นิยมใช้กับรถประเภทขับเคลื่อนล้อหน้าทั่วไป และรถที่ใช้ช่วงล่างทางด้านหลังแบบกึ่งอิสระ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเซทค่าทางด้านหลังเลย โดยเฉพาะรถที่ใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม
การตั้งศูนย์ 4 ล้อ ใช้กับรถที่เป็นระบบช่วงล่างกันสะเทือนอิสระ 4 ล้อ ซึ่งจำเป็นต้องเซทหรือตรวจสอบ มุมของระบบกันสะเทือนทั้งหมด ทั้ง 4 ด้าน
โดยกระบวนตั้งศูนย์จะตรวจดูมุมต่างๆ วัดค่าจากอุปกรณ์ที่ติดเข้ากับล้อระบบจะอ่านค่า แล้วประมวลข้อมูลให้ช่างเซทค่าตามที่กำหนดของโรงงาน ซึ่งหากรถช่วงล่างไม่มีปัญหา โดยมากก็จะสามารถเซทได้เท่าหรือใกล้เคียงค่าเดิมของรถ
โดยค่าใช้จ่ายในการตั้งศูนย์ก็อยู่ตั้งแต่ 300-700 บาท แล้วแต่ละระบบของร้านเลือกใช้ (แต่เอาจริงๆ ความสามารถในการตั้งศูนย์ล้อไม่ได้อยู่ที่เครื่องมือตั้งศูนย์ แต่อยู่ที่ช่างที่ตั้งให้เราต่างหาก)
การถ่วงล้อ
การถ่วงล้อ คือการหาสมดุลของการหมุนของล้อและยาง ซึ่งเมื่อล้อหมุนเร็วมากๆ จะมีการกระขายแรงไปในจุดที่ไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อขับเร็วๆ หรือลดความเร็ว จะเกิดการสั่นสะท้ายถึงพวงมาลัย หรือมีเสียไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้
ปกติแล้วรถยนต์จากโรงงานจะมีการถ่วงล้อมาให้แล้วเรียบร้อย และการถ่วงล้อจะเกิดขึ้นเมื่อ คุณเปลี่ยนยางชุด หรือเส้นใหม่ โดยร้านยางส่วนใหญ่จะรับผิดชอบการถ่วงล้อให้
แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่คุณจะพบว่าต้องถึงคราวถ่วงล้อไวกว่าคุณเปลี่ยนยาง เมื่อพบอาการสั่นสะท้านพวงมาลัย เมื่อวิ่งด้วยความเร็ว หรือ เบรกอย่างรุนแรง ถ้าพบอาการเหล่านี้แสดงว่ารถคุณต้องถึงเวลาถ่วงล้อ
ปัจจุบันการถ่วงล้อมี 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ 1.ถอดล้อมาถ่วงที่เครื่อง เป็นแนวทางปฏิบัติตามปกติ และ 2.การถ่วงล้อระยะประชิดหรือที่เรียกว่าจี้ล้อเหมาะแก่การถ่วงที่ต้องการแก้อาการบางอย่าง ซึ่งการถ่วงล้อปกติไม่สามารถได้
ส่วนราคาบริการถ่วงล้อจะตกที่ล้อละ 100-200 บาท แล้วแต่ค่าบริการของแต่ละร้านจะกำหนด
การตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมา หากก็ยังมีความรู้น้อยเกี่ยวกับมัน ดังนั้นถ้าสรุป คือ การตั้งศูนย์ช่วงล่าง ควรทำทุกปี เพื่อประสิทธิภาพดีที่สุด ส่วนการถ่วงล้อนั้นควรกระทำเมื่อเปลี่ยนยางหรือพบว่า มีการสั่นสะเมือนที่ล้อในระหว่างการขับขี่ครับ