Home » โคตรทึ่ง Ferrari กำไรเฉลี่ยคันละ 2.4 ล้านบาท
Bust Variety

โคตรทึ่ง Ferrari กำไรเฉลี่ยคันละ 2.4 ล้านบาท

ทุกวันนี้เราหลายคนต่างรู้สึกว่าต้องมีรถยนต์ใช้งานในชีวิต หากที่เราไม่เคยทราบมาก่อน คือรถยนต์มีกำไรคันละเท่าไร กันแน่ 

มีรายงานการศึกษาที่น่าสนใจเพิ่งเปิดเผยว่า อันที่จริงแล้วรถยนต์สุดหรูที่เราดูแล้วมันแพงหูฉี่ กลับทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัทรถยนต์ชั้นนำทั้งหลาย  โดยเมื่อเร็วๆนี้มีการศึกษาในเชิงเศรษฐศาสตร์ในเยอรมัน โดยศาสตรจารย์ เฟอร์เดนัล ดูเดนฮอฟเฟอร์ เปิดเผยเรื่องที่น่าสนใจ ว่า รถยนต์ Ferrari   เป็นรถที่ทำกำไรมากที่สุดในหมู่รถยนต์ที่วางขายในปัจจุบัน และเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีกำไรสูงสุดช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ 

Ferrari

โดยรถยนต์ Ferrari   จะมีกำไรเฉลี่ยคันละ 69,000 ยูโร หรือประมาณ 80,000 ดอลล่าร์ หรือ คิดเป็นเงินไทยก็คันละ 2.4 ล้านบาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าแบรนด์หรูทุกแบรนด์ จะทำกำไรมหาศาล์ เพราะอีกด้าน  Jaguar  , Land Rover ทำกำไรเพียง 800 ยูโรต่อคัน หรือ ประมาณ 924 ดอลล่าร์ หรือประมาณคันละ 28,000 บาท  

ด้านรถยนต์จากเยอรมัน   Porsche  สามารถทำกำไรจากรถที่ขายอย่างน้อยที่สุด 17,000 ยูโร หรือ ประมาณ 648,000 บาท ต่อคัน ในกลุ่มสามทหารเสือบริษัทรถยนต์ จะมีกำไรเฉลี่ยต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน ประมาณ 9,000 ยูโร หรือ 343,000 บาท ต่อคัน และ มาเซเรตติมีกำไรเฉลี่ยคันละ 5,000 ยูโรโดยประมาณ 

Ferrari

Ferrari

Ferrari

อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีหลายค่ายทำกำไรแสนงามจากการขายรถ แต่ก็มีบางรายที่ขาดทุนทุกครั้งที่ขายรถออก เช่น   Bentley   จะขาดทุน  17,000 ยูโร ทุกครั้งที่ขายรถออก เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนอย่างหนักในรถยนต์ไฟฟ้า สถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้นกับ   Tesla   ที่จะขาดทุน 11,000 ยูโร ทุกครั้งที่ขายออก 

เมื่อปี 2017 ทาง   Bloomberg  เคยรายงานว่า   Ferrari   มีกำไรประมาณ 90,000 ดอลล่าร์ ทุกครั้งที่ขายรถออก และ Porsche  มีกำไรถึง 17,000 ดอลล่าร์ต่อคัน จากการขายรถ 

 

ที่มา  Boerse-Expert

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.