ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าในตอนนี้ เหล่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ต่างสามารถบุกตลาดรถยนต์ทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพกันมาก และไม่แน่ว่าในช่วงสิ้นทศวรรษนี้ พวกเขาอาจกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของตลาดโลกที่สามารถกินส่วนแบ่งได้มากถึง 1 ใน 3
โดยในปัจจุบัน แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ทั่วโลกได้แล้วกว่า 21% แต่จากงานศึกษากลับมองว่าด้วยอัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจีนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ยอดขายรถยนต์แบรนด์จีน จะสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดในประเทศตนเองได้มากขึ้นอีก จาก 59% เป็น 72% และจะยิ่งส่งผลให้ส่วนแบ่งรวมในตลาดโลกยิ่งขยายตัวมากขึ้นไปอีก
ที่น่าหวั่นใจมากกว่านั้นสำหรับเหล่าผู้ผลิตสัญชาติยุโรปก็คือ ด้วยเหตุผลเดียวกันกับบรรทัดก่อนหน้า ทาง AlixPartners บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจ เจ้าของงานศึกษานี้ ยังระบุอีกว่าเหล่าผู้ผลิตสัญชาติจีน จะสามารถขายรถยนต์ของตนเอง นอกประเทศจีนได้มากกว่า 3 ล้านคันในปี 2024 และมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นเป็น 9 ล้านคัน ภายในสิ้นทศวรรษนี้
และแม้เหล่าผู้ผลิตสัญชาติจีน จะเจาะตลาดประเทศญี่ปุ่นได้ยาก (เพราะประเทศนี้ก็มีแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอยู่ในมือหลายราย และคนญี่ปุ่นก็มีความเป็นชาตินิยมสูงอย่างที่ทุกคนทราบกัน) เช่นเดียวกับในประเทศโซนอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีขนาดตลาดรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก แต่ก็มีทั้งนโยบายการขึ้นภาษีจากรัฐ และนโยบายสนับสนุนรถยนต์สัญชาติตนเองที่หนักแน่น
เช่นเดียวกับในยุโรปที่ตอนนี้เหล่าผู้ดูแลกฏหมายของสหภาพยุโรป ก็เริ่มขึ้นภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศจีนแล้วเช่นกัน แต่งานศึกษาก็ยังคงมองว่าเหล่าผู้ผลิตสัญชาติจีน จะยังคงสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ในยุโรปมาได้เป็น 12% ในปี 2030 และยังอาจจะสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดจาก 33% เป็น 69% ในประเทศพันธมิตรอย่างรัสเซียภายสิ้นทศวรรษนี้ได้อีก
ส่วนการชิ่งส่วนแบ่งการตลาดในตะวันออกกลาง กับแอฟริกา ก็ยังสามารถขยายฐานส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น จาก 8% เป็น 39% เช่นเดียวกับในทวีปอเมริกาใต้ ที่อาจขยายส่วนแบ่งการตลาดจาก 7% เป็น 28% ภายในช่วงเวลาเดียวกัน
โดยส่วนสำคัญที่ทำให้รถยนต์จากประเทศจีน จะสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ก็ไม่ได้มีแค่เหตุผลจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ แต่ยังเป็นเพราะเหล่าผู้ผลิตสัญชาติจีนมีวิธีการทำตลาดที่แตกต่าง และร้อนแรงกว่าผู้ผลิตสัญชาติอื่น โดยเฉพาะเรื่องของนโยบายสงครามราคา ที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่ชื่นชอบ
ไม่เพียงเท่านั้นในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เอง ผู้ผลิตสัญชาติจีนก็สามารถทำงานได้ส่วนนี้ได้อย่างรวดเร็วมากกว่าผู้ผลิตสัญชาติตะวันตกได้เป็นเท่าตัว ส่งผลให้รถยนต์ของผู้ผลิตสัญชาติจีนสามารถปรับเปลี่ยนออพชันให้ทันสมัยได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าลูกค้าย่อมต้องการรถที่มีออพชันใหม่ๆ คุ้มค่ากันอยู่แล้ว และยิ่งทำให้รถยนต์จากจีนยิ่งติดตลาดง่ายขึ้นไปอีก
“ผู้ผลิตสัญชาติจีนสามารถใส่ลูกเล่นแพงๆมาให้ลูกค้าได้ใช้งานกันจริงๆ, ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงานออกแบบ และเทคโนโลยีในห้องโดยสาร, พวกเขาให้ความสำคัญในเรื่องของการคุมความได้เปรียบจากต้นทุน ไม่เว้นแม้กระทั่งการก่อตั้งโรงงาน, และพวกเขายังสามารถตัดสินใจในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นรวมถึงเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ด้วย” Andrew Bergbuam ผู้บริหารา AlixPartner กล่าว