หลังจากที่ Kawasaki ZX-25R ได้ถูกเผยโฉม 2023 ในประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกับตัวรถสเป็ค “RR” ไปเมื่อต้นเดือน ตอนนี้ก็ได้มีตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Kawasaki ในไทยบางแห่งเปิดรับจองมันแล้ว พร้อมระบุราคาที่ 299,000 บาท
Kawasaki ZX-25R 2023 มาพร้อมกับงานดีไซน์เปลือกนอกต่างๆที่คล้ายเดิม ในแทบทุกรายละเอียด เว้นเพียงเฉดสีภายนอกที่ถูกปรับใหม่เล็กน้อยเพื่อให้ตัวรถดูมีความทันสมัยยิ่งขึ้น และถึงแม้กรอบไฟเลี้ยวคู่หน้าจะยังคงมีหน้าตาเหมือนเดิม แต่หลอดไฟด้านในก็มีการปรับใหม่ให้เป็นหลอด LED แล้วเรียบร้อย เช่นเดียวกับโคมไฟเลี้ยวคู่หลังที่บังโคลนท้าย
ขณะที่ชุดหน้าจอมาตรวัดสำหรับตัวรถรุ่นปี 2023 ก็มีการปรับใหม่จากแบบลูกผสมกึ่งอนาล็อค-ดิจิตอล ในคราวนี้ทาง Kawasaki ก็ได้เลือกติดตั้งหน้าจอ TFT มาให้ตั้งแต่ออกโรงงาน ซึ่งนอกจากตัวอินเตอร์เฟซการแสดงผลต่างๆของมัน จะมีรายะเอียดที่แทบไม่หนีไปจากพี่ใหญ่ ZX-10R แล้ว มันยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธได้อีกด้วย
และที่พิเศษยิ่งกว่าตัวรถปีก่อนๆก็คือ สำหรับตัวรถ ZX-25R รุ่นปีใหม่ล่าสุดนั้น จะมีรหัส ZX-25RR เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่นย่อย โดยความแตกต่างของมัน ก็ไม่ได้มีแค่เพียงชุดสีพิเศษเฉพาะรุ่น แต่ระบบกันสะเทือนหน้าหลังของมันจะได้รับการอัพเกรดใหม่ โดยโช้กหน้าแบบตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร แบบ SFF-BP ในคราวนี้ ลูกค้าจะสามารถปรับเซ็ทค่าความแข็งอ่อนที่ตัวปรับหัวโช้กได้
และในขณะเดียวกัน ตัวโช้กเดี่ยวทางด้านหลังที่ทำงานร่วมกับชุดกลไกกระเดื่องทดแรงและสวิงอาร์มอลูมิเนียมจาก Showa ก็จะถูกอัพเกรดจากโช้กน้ำมันที่สามารถปรับเซ็ทค่าพรีโหลดแบบสเต็ปล็อคได้เพียงอย่างเดียว ก็จะเปลี่ยนเป็นโช้ก BFRC ซึ่งใช้กลไกภายในหลักการเดียวกันกับโช้กที่อยู่ในพี่ใหญ่ ZX-10R/ZX-10RR และเป็นโช้กแบบมีกระปุกซับแทงค์แก๊สแยก โดยผู้ใช้สามารถปรับเซ็ทได้ทั้งความแข็งอ่อนแบบสตรัทปรับเกลียว แล้วยังสามารถปรับเซ็ทค่าความหนืดในการยืดตัว-ยุบตัว ของโช้กได้อีก หรือว่าง่ายๆก็คือสามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่าพื้นฐานนั่นเอง
นอกนั้นในส่วนรายะเอียดทางเทคนิคอื่นๆก็ยังคงเหมือนเดิมแทบทั้งหมด หากอิงโดยเทียบกันกับตัวรถสเป็คประเทศอินโดนีเซีย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอท – ทางหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกแบบโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท, ชุดล้ออัลลอยด์ รัดด้วยยางขนาด 110/70-17 กับ 150/60-17 ตามลำดับหน้า-หลัง, ชุดเฟรมแบบโครงเหล็กถัก, น้ำหนักตัวรวมของเหลว 182 กิโลกรัม ในส่วน ZX-25R STD กับ ZX-25R SE และขยับขึ้นเป็น 183 กิโลกรัม ในฝั่ง ZX-25RR (*ZX-25R 2022 สเป็คไทย มีน้ำหนักรวมของเหลว 184 กิโลกรัม)
และเครื่องยนต์ ที่แม้จะมีการเปลี่ยนรูปทรงท่อไอเสียใหม่ ให้เป็นแบบออกข้าง และมีหม้อพักปลายท่อที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อคุมให้ไอเสียที่ถูกปล่อยออกมา ผ่านมาตรฐาน Euro4 แต่มันก็ยังคงเป็นบล็อค 4 สูบเรียง ความจุ 249cc มีเรดไลน์สูงสุด 18,000 รอบ/นาที โดยที่กำลังสูงสุดยังคงเท่าเดิมคือ 50 แรงม้า PS ที่ 15,500 รอบ/นาที (ZX-25R ที่วางจำหน่ายในไทย ถูกจำกัดแรงม้าสูงสุดเอาไว้ที่ 45 PS) กับแรงบิดสูงสุด 22.9 นิวตันเมตร ที่ 14,500 รอบ/นาที และส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2 ทางขึ้น/ลง กับชุดกลไกสลิปเปอร์คลัทช์ เหมือนเดิม
และสิ่งสุดท้าย ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในตัวรถรุ่นนี้ ก็คือ เรื่องของระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มจากโหมดเครื่องยนต์ ที่จากเดิมจะมีแค่เพียง 2 ระดับ ได้แก่ Full (Power) กับ Low (Power) ในตอนนี้ ก็จะเพิ่มเป็น Sport, Road, Rain และ Rider ส่วนระบบป้องกันการลื่นไถล หรือ Traction Control ก็จะเปลี่ยนจากแค่การ เปิด/ปิด ได้ ก็จะเพิ่มความละเอียดเป็นการทำงาน 3 ระดับ และปิดได้ แทน ส่วนระบบ ABS ยังคงเดิม คือมีค่าเดียว และไม่สามารถปิดการทำงานได้
อย่างไรก็ดี สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย ตัวรถ Kawasaki ZX-25RR ที่วางจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซีย จะถูกทำตลาดในบ้านเรา ภายใต้ชื่อของ Kawasaki ZX-25R SE ใหม่ ประจำปี 2023 โดยที่ออพชันต่างๆจะยังคงจัดเต็มเช่นเดิม ทั้งหน้าจอมาตรวัดใหม่ และระบบกันสะเทือนหน้าใหม่ เว้นเพียงโช้กหลัง ที่ยังคงเป็นแบบปรับค่าแข็ง-อ่อน ได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่โช้กแก๊สปรับเซ็ทได้ทุกค่าแต่อย่างใด โดยจะมีราคาวางจำหน่ายที่ 299,000 บาท หรือเพิ่มขึ้นมาจากรถ ZX-25R SE ปี 2022 อีก 16,000 บาทนั่นเอง