ในงาน EICMA Show 2024 ทาง Honda ได้มีการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่มาเปิดตัวหลากหลายรุ่นด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือ 2025 Honda ADV350 ที่คาดว่าจะเป็นโมเดลซึ่งถูกนำมาเปิดตัวในไทยก่อนใครด้วย
Honda ADV350 ถือว่าเป็นรถสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา และในปี 2025 มันก็ได้รับการปรับโฉมใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ตัวรถดูมีความทันสมัยมากขึ้น
โดยความเปลี่ยนแปลงของตัวรถในครั้งนี้ หากมองเพียงผ่านตา หลายคนอาจจะเข้าใจว่าตัวรถแค่เปลี่ยนเฉดสีภายนอกใหม่เท่านั้น เพราะชุดแฟริ่งรอบคันของมันยังคงดูเหมือนเดิมทุกประการ ทั้ง ชิวหน้าปรับระดับสูง-ต่ำ ได้ 4 ระดับด้วยมือ, ไฟหน้า LED โคมคู่, ไฟท้าย LED, และ ไฟเลี้ยว LED
รวมถึงลูกเล่นจำพวกกุญแจ Keyless, พอร์ทชาร์จ USB-C ในช่องเก็บถุงมือด้านซ้ายของคอนโซลหน้า, ช่องเก็บของใต้เบาะความจุ 48 ลิตร ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ 2 ใบ ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ
ถึงกระนั้น ชุดหน้าจอมาตรวัดของตัวรถ ก็ได้ถูกเปลี่ยนใหม่ จากแบบจอ LCD Full Digital Backlight เป็นจอ TFT Full Digital ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถแสดงสีสัน และเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชัน Honda RoadSync เพื่อแสดงผลข้อมูลระบบนำทาง, ข้อความเข้า, สายโทรเข้า, ชื่อเพลง, ระดับเสียงเพลงได้ จากเดิมที่เคยสามารถเชื่อมต่อและสามารถแสดงข้อมูลได้เพียงสัญลักษณ์เล็กๆบนจอเท่านั้น
นอกจากนี้ ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ข้างต้นเข้ามา ทำให้ทาง Honda ต้องจัดการเปลี่ยนชุดประกับแฮนด์ใหม่ โดยในฝั่งด้านขวา จะมีการย้ายปุ่มไฟผ่าหมากมาไว้ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างปุ่ม Kill-Switch และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
ส่วนประกับซ้ายปรับปุ่มจอยสติ๊กใหม่ให้เล็กลง แต่ใช้งานง่ายขึ้น เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆที่ใช้ชุดจอแบบเดียวกัน, ปรับขนาดปุ่มเปิด-ปิด ระบบ HSTC ที่สามารถปรับระดับการทำงานได้อีก 2 ระดับ ให้เล็กลง เพื่อขยายขนาดปุ่มแตรให้ใหญ่ขึ้น นอกนั้นปุ่มไฟเลี้ยว และปุ่มควบคุมไฟหน้าสูง-ต่ำ หรือกระพริบไฟยังคงเหมือนเดิม
นอกนั้นในด้านชิ้นส่วนโครงสร้างตัวรถ ยังคงเดิมเช่นกัน ทั้งชุดเฟรมแบบ Tubular steel underbone ซึ่งให้ความแข็งแกร่ง รองรับการใช้งานสมบุกสมบันได้ดีกว่าของ Honda Forza 350 ที่เป็นโมเดลคู่ขนานกัน, ระบบเบรก ด้านหน้าดิสก์เบรกขนาด 256 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 2 พอท – ด้านหลังดิสก์เบรกขนาด 240 มิลลิเมตร ทำงานร่วมปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท, ชุดล้ออัลลอยด์รัดด้วยยางกึ่งหนามขนาด 120/70-15 และ 140/70-14 ตามลำดับหน้า-หลัง
ขณะเดียวกัน ในฝั่งระบบกันสะเทือน ยังคงคล้ายเดิมเกือบ 100% นั่นคือ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบโช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 37 มิลลิเมตร จาก Show พร้อมช่วงยุบเยอะกว่า 125 มิลลิเมตร ยึดกับชุดเฟรมด้วยแผงคอ 2 ชั้น และ ระบบกันสะเทือนด้านหลังโช้กอัพแก๊สคู่จาก Showa เช่นกัน พร้อมช่วงยุบ 130 มิลลิเมตร
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ตัวโช้กอัพแก๊สคู่หลังที่ว่านั้น ในคราวนี้ได้รับการปรับเซ็ทไส้ในใหม่เล็กน้อย และมีการเพิ่มวงแหวนปรับระดับความแข็ง-อ่อนสปริงเข้ามา
ด้านขุมกำลังตัวรถ ก็ยังคงเป็นเครื่องยนต์ eSP+ สูบเดียว SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 330cc ดังเดิม แต่มีการปรับจูนกล่อง ECU ใหม่ และออกแบบชุดท่อไอเสียใหม่ ปรับปรุงชุดเซนเซอร์ O2 ใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์ปล่อยไอเสียที่มีมลพิษต่ำลง
โดยที่พละกำลังสูงสุดยังคงเท่าเดิม คือ 29.23 PS ที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอีก 31.5 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบ/นาที ส่งกำลังไปยังชุดล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์ CVT ดังเดิม ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอัตราทดใหม่ใดๆทั้งสิ้น และยังคงเคลมอัตราสิ้นเปลืองเท่าเดิมกับโฉมก่อนหน้า ที่ 28.6 กิโลเมตร/ลิตร หากอิงตามข้อมูลตัวรถสเป็คยุโรปที่เปิดตัวออกมา
เช่นเดียวกันในด้านตัวเลขมิติต่างๆของตัวรถ ก็ยังคงเดิม ทั้ง ความยาว 2,200 มิลลิเมตร x ความสูง 895 มิลลิเมตร x ความสูง 1,295 มิลลิเมตร (เมื่อกดชิลด์หน้าต่ำสุด), ระยะฐานล้อ 1,520 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 145 มิลลิเมตร, ความสูงเบาะ 795 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวรวมของเหลวและน้ำมันในถังขนาด 11.7 ลิตร อีก 90% ที่ 186 กิโลกรัม
ทั้งนี้ แม้ตัวรถจะถูกเปิดตัวครั้งแรกในยุโรป แต่สุดท้ายแล้ว Honda ADV350 ก็มีฐานการผลิตเพียงแห่งเดียวเท่านั้น นั่นคือในประเทศไทยของเรา จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากที่เราอาจจะได้ใช้ตัวรถโมเดลปี 2025 นี้ก่อนใคร โดยกำหนดการเปิดตัวมันอาจเกิดขึ้นภายในช่วงสิ้นเดือนนี้ ที่งาน Motor Expo 2024 นั่นเอง