Home » All-New Honda Forza 750 ปรับโฉมใหญ่ ใส่ออพชันเต็มขึ้น
คอมอเตอร์ไซค์

All-New Honda Forza 750 ปรับโฉมใหญ่ ใส่ออพชันเต็มขึ้น

ขณะที่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่าง 100% ว่ามันจะเข้ามาทำตลาดในบ้านเราหรือไม่ แต่ล่าสุด Honda Europe ก็ได้มีการเผยโฉมร่างใหม่ของ Honda Forza 750 รุ่นปี 2025 ออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย

2025 Honda Forza 750 มาพร้อมกับการปรับโฉมใหญ่ ใหม่หมดแทบทั้งคันเมื่อเทียบกับโฉมก่อนหน้าที่เปิดตัวออกมาครั้งแรกเมื่อปี 2020 โดยเริ่มจากงานออกแบบภายนอกใหม่เกือบทุกจุด ตั้งแต่ชุดแฟริ่งหน้าที่ถูกปรับให้ดูใหญ่โตยิ่งขึ้นเพื่อการแหวกลมออกจากตัวผู้ขี่ทางด้านข้างที่ดีกว่า แต่เส้นสายโดยรวมยังคงดูโฉบเฉี่ยวเช่นเดิม และไม่ลืมที่จะใส่เอกลักษณ์ชายแฟริ่งใต้ไฟหน้าแบบครีบยื่นจากแนวแฟริ่งหน้าให้ดุดันกว่าใคร แล้วเสริมด้วยชุดโคมไฟหน้าแบบใหม่ ซึ่งนอกจากจะกว้างกว่าเดิมแล้ว ยังมาพร้อมกับแถบไฟ DRL ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นไฟเลี้ยวได้ในตัวแบบเดียวกับคู่แฝดร่างเผื่อลุยอย่าง X-ADV 750 ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้

ไม่เพียงเท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งที่เคยถูกมองว่ากั๊กไว้ทำไม ? ในรุ่นก่อน อย่างระบบวินชิลด์ไฟฟ้า ซึ่งมีแค่เฉพาะในรุ่นน้องอย่าง Forza 350 ล่าสุดก็ได้ถูกใส่เข้ามาในพี่ใหญ่รหัส 750 แล้วเป็นที่เรียบร้อย และยังมีการเพิ่มฟังก์ชันการลดระดับเก็บลงต่ำสุดอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์ โดยสามารถเพิ่มความสูงเองอัตโนมัติเพื่อกลับไปยังต่ำแหน่งล่าสุด ที่ผู้ขี่เซ็ทเอาไว้ก่อนดับเครื่องได้ เมื่อมีการขี่รถที่ความเร็วเกิน 5 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไปด้วย

และเนื่องจากตัวชิลด์สามารถปรับตำแหน่งสูง-ต่ำ เป็นระยะ 120 มิลลิเมตรได้แล้ว จากที่ไม่สามารถปรับอะไรได้เลยในโฉมก่อน จึงทำให้รูปทรงชิลด์หน้าได้ถูกปรับใหม่ โดยลดความสูงลงให้อยู่ในระดับแค่จำเป็น และไม่บดบังลมด้านบนมากเกินไปสำหรับการใช้งานในเมืองด้วยความเร็วต่ำ แต่จะกว้างกว่าเดิมราว 100 มิลลิเมตร รวมถึงมีการปรับองศาให้ตั้งขึ้นอีก 10 องศา เพื่อปรับทิศทางลม ให้สามารถเชิดผ่านแนวศรีษะและลำตัวด้านข้างได้ดีขณะขับขี่ด้วยความเร็วเดินทางถึงความเร็วสูงแม้ปรับตำแหน่งชิวต่ำสุด

นอกนั้นในส่วนของชุดบังโคลนหน้า ยังคงเป็นชิ้นงานดีไซน์เดิมกับโฉมก่อนหน้า เช่นเดียวกับชิ้นแฟริ่งอกล่าง ซึ่งทาง Honda ระบุว่าพวกเขาแค่ทำการปรับองศาและระยะพื้นที่วางเท้าใหม่เล็กน้อยเท่านั้น ส่วนแฟริ่งท้ายก็มีการปรับงานออกแบบชิ้นหลักใหม่เล็กน้อย เพื่อให้องศาของสันด้านข้างรับกับชิ้นแฟริ่งหน้าอย่างลงตัวเพียงเท่านั้น

และเช่นเดียวกันกับคู่แฝด X-ADV 750 ชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็นงานวัสดุพลาสติกดำด้าน ก็จะถูกขึ้นรูปโดยการใช้วัสดุชีวภาพ Bio-based DurabioTM ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ ไม่เป็นขยะที่สร้างมลพิษกับสิ่งแวดล้อม

ขณะที่ตัวเบาะนั่ง แม้จะยังคงมีความสูงเท่าเดิม ที่ 790 มิลลิเมตร แต่ทาง Honda ก็ได้มีการปรับรูปทรงเบาะใหม่เล็กน้อย โดยเฉพาะการเพิ่มพนักหลังสำหรับผู้ขี่เข้ามา ซึ่งแน่นอนว่ามันก็จะสามารถกลายเป็นตัวกันไหล(มาด้านหน้า)ขณะเบรกของผู้โดยสารได้ไปในตัว

ส่วนใต้เบาะรถเอง ก็ยังมีช่องเก็บของขนาด 22 ลิตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ 1 ใบ และตัวรถยังมีช่องเก็บถุงมือทางด้านหน้า รวมถึงมีการย้ายพอทชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบ USB Type-C มาไว้ที่แฮนด์บาร์ จากที่เคยติดตั้งไว้ใต้เบาะนั่ง

นอกจากนี้ สำหรับการเปิดเบาะนั่ง เปิดฝาถังน้ำมันขนาด 13.2 ลิตร และเปิดระบบรถสำหรับสตาร์ทใช้งาน ทั้งหมดล้วนเป็นการสั่งเปิดได้ด้วยปุ่มและลูกบิดตรงกลางคอนโซลหน้ารถเพียงชุดเดียว ซึ่งมันจะเชื่อมต่อกับระบบกุญแจคีย์เลสอีกทีหนึ่ง

และสิ่งอำนวยความสะดวกกลุ่มท้ายที่มีการปรับเปลี่ยน หรือปรับปรุงเพิ่มเข้ามา ก็คือการเพิ่มระบบควบคุมความเร็ว หรือ Cruise Control, ปรับปรุงระบบกระพริบไฟเลี้ยวเมื่อมีการเบรกฉุกเฉินให้สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น, เพิ่มระบบยกเลิกไฟเลี้ยวอัตโนมัติ, และท้ายสุดคือการปรับเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลมาตรวัดขนาด 5 นิ้วใหม่ ให้สามารถแสดงผลได้ดีขึ้นในที่แสงจ้า ลดการสะท้อนแสง โดยที่ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลข้อมูล รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธและแอพลิเคชัน Honda RoadSync ได้ดังเดิม

ขุมกำลังของตัวรถ ยังเป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง SOHC UniCam 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 745cc ลูกเดิม และให้กำลังสูงสุด 58.6 PS ที่ 6,750 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 69 Nm ที่ 4,750 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์ลูกนี้เดิมที่ก็ถือว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ให้กำลังได้ดีในช่วงรอบต่ำ-กลางอยู่แล้ว และใช้รอบในการขับเคลื่อนช่วงความเร็วเดินทางที่ต่ำมากเครื่องหนึ่ง จนสามารถให้เลขอัตราสิ้นเปลืองตามเคลมได้ 28.3 กิโลเมตร/ลิตร

และเช่นเดียวกันกับ X-ADV 750 รุ่นล่าสุด ฝั่ง Forza 750 เอง ก็ได้รับการปรับปรุงระบบเกียร์ DCT ใหม่เช่นกัน โดยเน้นไปที่การเพิ่มความนุ่มนวลในการทำงานของระบบคลัทช์ช่วงความเร็วต่ำกว่า 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อการคุมการทรงตัวของรถขณะยูเทิร์น หรือมุดซอกแซกการจราจรในช่วงความเร็วดังกล่าวที่ไหลลื่นและเรียบเนียนมากกว่า

โดยที่ฟังก์ชันการปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยปลายนิ้ว ทั้งแบบ Semi-Auto หรือ Manual ยังคงมีให้เลือกดังเดิม และการปรับระดับความดุดันของการเปลี่ยนเกียร์ก็ยังคงสามารถทำได้ 4 ระดับเช่นเดิม (X-ADV 750 ทำได้ 5 ระดับ)

นอกนั้นในส่วนระบบคันเร่งไฟฟ้าเอง ก็แน่นอนว่าต้องมีการปรับปรุงใหม่ เพื่อให้รับกับการทำงานของระบบคลัทช์ที่เปลี่ยนไป และยังคงมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 5 แบบดังเดิม ได้แก่ 3 แบบพื้นฐาน Standard, Sport, Rain, และอีก 1 โหมดสำหรับการปรับเซ็ทค่าการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งในส่วนของ อัตราการตอบสนองต่อคันเร่งและกำลังเครื่อง “P”, ความหนักของแรงหน่วงเครื่องยนต์ “EB” และระบบ HSTC อีก 4 ระดับ (รวมปิด) ด้วยตนเองอีก 1 โหมด

ด้านชิ้นส่วนโครงสร้างตัวรถ ก็ยังคงอ้างอิงพื้นฐานเดียวกันกับตัวรถโฉมก่อนหน้าเช่นเดิม ทั้งโครงสร้างแบบโครงเหล็ก Diamond Frame มาพร้อมกับระยะฐานล้อ 1,580 มิลลิเมตร กับองศาแผงคอ 27 องศาพร้อมระยะเทรลอีก 104 มิลลิเมตร

ระบบกันสะเทือนด้านหน้ายังคงเป็นโช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 41 มิลลิเมตร พร้อมช่วงยุบ 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลัง เป็นโช้กเดี่ยว ปรับค่าพรีโหลดได้ พร้อมช่วงยุบ 120 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่ และระบบกลไกกระเดื่องทดแรง Pro-Link

ชุดล้อที่ให้มา ยังคงเป็นแบบล้อแบบซี่ลวดทูบเลส ขนาด 17 นิ้ว ด้านหน้า และ 15 นิ้วทางด้านหลัง รัดด้วยยางเรเดียล ขนาด 120/70-17 และ 160/60-15 ตามลำดับ ทำงานร่วมกับระบบเบรกดิสก์หน้าคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร และคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรกโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอท สำหรับการหยุดตัวรถน้ำหนัก 236 กิโลกรัม รวมของเหลวพร้อมขี่ แต่ยังไม่รวมน้ำหนักสัมภาระและตัวผู้ขี่และผู้ซ้อน ซึ่งมากกว่าตัวก่อนหน้าขึ้นมาอีก 1 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ทาง Honda Europe ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ 2025 Honda Forza 750 ออกมา และดูเหมือนว่าในช่วงนี้จะมีข่าวลือหนาหูกันเหลือเกินว่ามันอาจจะถูกนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วย หลังจากที่โฉมแรกของมัน ทาง Thai Honda ไม่มีแผนจะนำเข้ามาทำตลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งเรื่องราวจะเป็นเช่นนั้นอีกหรือไม่ ? ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.