Ducati ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ชื่อดังระดับโลก ที่เข้ามีการเข้ามาเปิดโรงงานเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ของพวกเขาในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2011 ในฐานะ “บ้านหลังที่ 2” ของทางแบรนด์
แต่เมื่อเวลาผ่านไป โรงงานแห่งดังกล่าว กลับดูเหมือนจะไม่สามารถรองรับฐานการตลาดที่กว้างขึ้นได้ ทำให้พวกเขาตัดสินใจก่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม จริงจังกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น โดยจะเป็นโรงงานที่ก่อตั้งแทนโรงงานเดิม ในเขตนิคมอุตสาหกรรม อมตะนคร จังหวะระยอง ไม่ได้เป็นโรงงานที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยกันผลิตกับโรงงานเดิม
และแม้ในความเป็นจริงแล้ว โรงงานใหม่แห่งนี้ จะก่อตั้งขึ้นในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อมตะนครฯ ดังเดิม แต่ขนาดของพื้นที่โรงงานกลับใหญ่กว่าเดิมถึงมากกว่า 2 เท่าตัว จากเดิม 43,800 ตารางเมตร เป็น 96,288 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นมาจาก 27.375 ไร่ เป็น 60.18 ไร่
จุดที่น่าสนใจไม่แพ้กันของโรงงานแห่งนี้ ก็คือการที่มันเป็นโรงงานซึ่งทาง Ducati ไม่ได้ก่อตั้งขึ้นมา ไว้ใช้ในการประกอบตัวรถโดยอาศัยชิ้นส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื่องจากชิ้นส่วนตัวรถที่ถูกนำมาประกอบเป็นตัวรถในโรงงานแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะถูกผลิตโดยซัพพลายเออร์ในไทยอยู่แล้ว
และโรงงานแห่งนี้ ยังมีไลน์ผลิตชิ้นส่วนสำคัญๆของตัวรถรวมอยู่ด้วย ตั้งแต่ ไลน์ผลิตแชสซีย์ ด้วยกรรมวิธีการดัด-เชื่อมท่อนเหล็ก ให้ขึ้นรูปเป็นโครงเหล็กถัก พร้อมเคลือบสารกันสนิม กันร้อน และทำสีสำหรับนำไปเป็นโครงสร้างตัวรถ, ไลน์ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เช่น ฝาสูบ เสื้อสูบ ด้วยกระบวนการ CNC, งานประกอบเครื่องยนต์ด้วยมือพนักงาน หรือ ด้วยหุ่นยนต์ แล้วแต่ประเภทเครื่องยนต์ ภายในห้องกั้นฝุ่นอย่างดี เป็นต้น
โดยเครื่องจักรเกือบทั้งหมดที่ใช้ในโรงงานแห่งนี้ จะเป็นเครื่องมือแบบเดียวกันกับที่ใช้ในโรงงานที่ประเทศอิตาลี เพื่อให้มาตรฐานในการผลิตของตัวรถเป็นแบบเดียวกันไม่ว่าจะผลิตจากที่ใดก็ตาม
และด้วยความที่โรงงานแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Ducati สำหรับส่งไปวางจำหน่ายในหลายๆประเทศโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ในปัจจุบันโรงงานแห่งนี้ มีกำลังผลิตรถที่ 9,000 คัน ต่อปี และด้วยขนาดพื้นที่ และเครื่องมือที่จะถูกติดตั้งเข้ามาเพิ่มเติมอีกในอนาคต จึงคาดว่าโรงงานแห่งนี้ จะสามารถผลิตรถได้สูงสุดที่ราวๆ 30,000 คัน ต่อปี
และท้ายสุดคือ ในตอนนี้ ที่โรงงานมี พนักงานที่ทำงานอยู่ด้วยกันกว่า 253 คน แบ่งเป็นพนักงานชาย 70.8% และ หญิงอีก 29.2% ซึ่งฝ่ายหลังนี้ ไม่ได้อยู่แค่ในส่วนของงานจัดการ แต่อยู่ในส่วนงานตรวจสอบคุณภาพ และงานประกอบตัวรถ ตั้งแต่งานประกอบเครื่องยนต์อีกด้วย
มร. เคลาดิโอ โดเมนิคาลี (Claudio Domenicali) ประธานกรรมการบริหาร ดูคาติ ที่ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเป็นประธานในวันเปิดโรงงานด้วยตนเอง กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นสักขีพยานในวันสำคัญนี้ นับเป็นการเปิดบทใหม่ของดูคาติในประเทศไทย ด้วยการเปิดโรงงานผลิตอันทันสมัยแห่งนี้ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค ดูคาติได้กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเคารพอย่างสูงในเอเชีย ที่ซึ่งความหลงใหลของ Ducatisti นั้นไม่มีใครเทียบได้ เหมือนอย่างที่เราเห็นในสนามแข่งโมโตจีพี (MotoGP) หลายสนามทั่วเอเชีย
“ผมมั่นใจว่า โรงงานแห่งใหม่นี้จะยกระดับมาตรฐานของดูคาติอย่างแท้จริง และส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าผู้มากความหลงใหลของเราในภูมิภาคนี้”
ด้าน มร.อัลเบอร์โต สตราดา (Alberto Strada) กรรมการผู้จัดการ ดูคาติ มอเตอร์ ประเทศไทย ยังกล่าวเสริมอีก ว่า “หัวใจสำคัญของดูคาติคือคุณค่าอันโดดเด่นที่ผลิดอกเป็นมอเตอร์ไซค์ดีไซน์สะดุดตาและสไตล์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์มาโดยตลอด โรงงานแห่งใหม่นี้จะยกระดับ ดูคาติ มอเตอร์ ประเทศไทย ไปอีกขั้น ตั้งแต่โรงงานที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตมอเตอร์ไซค์ชั้นแนวหน้า จวบจนในวันนี้ที่เราได้ก้าวต่อไปอีกขั้น นอกจากเป็นฐานการผลิตแล้ว โรงงานแห่งใหม่นี้ยังเป็นที่ตั้งของฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายบริการหลังการขาย เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ดูคาติทั่วทั้งภูมิภาคอีกด้วย”