ทุกวันนี้การจราจรติดขัดเป็นปัญหาสำคัญก่ออุปสรรคในการเดินทางมากมายนับไม่ถ้วน ปัญหาของคนกรุงที่ต้องผจญทุกวันอย่างไร้ทางแก้ ถือเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวในการใช้ชีวิต แต่ถ้าปัญหานี้มีทางออกแล้วคุณสามารถเลือกได้ว่าจะ ใช้เวลานั่งเซ็งบนรถ หรือจะใช้เวลาให้คุ้มค่าในการเดินทาง ด้วยรถมอเตอร์ไซค์สักคันที่พาคุณไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองมอเตอร์ไซค์คนจำนวนไม่น้อยคิดว่า รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาสักคันมันก็ปกติธรรมดาทั่วไป แต่วันนี้ผมมีโอกาสพบกับเนคเกทไบค์   Honda  CB300R   คู่ใจตัวจริงชีวิตคนเมือง ที่ทั้งหล่อเท่ห์ และขับสนุกสนานมากมาย

ก่อนอื่นต้องขอเท้าความก่อนว่า  Honda  CB300R  เป็นการตอบโจทย์จากฮอนด้า หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมาส่ง   Honda CB150R   เข้ามาทำตลาด กลุ่ม 150 ซีซี พร้อมด้วยทรวดทรงสไตล์การออกแบบใหม่ ที่เรียกว่า  “โมเดิร์นเรโทร” พร้อมของที่ฉกมาจากบิ๊กไบค์มากมายหลายรายการ

ตอนที่มีโอกาสสัมผัสเจ้าตัวเล็ก 150 ซีซี ยอมรับว่า เป็นรถที่มีสไตล์การออกแบบโดนใจ ขี่คล่องตัวในเมืองพอมสมควร หากเรื่องพละกำลังจากเครื่องยนต์บล็อกเล็กยังดูเหมือนจะไม่คณามือเรา และดูเชื่องช้าสักหน่อยสำหรับคนสูงใหญ่ไซส์ฝรั่ง พอได้ยินว่าทางฮอนด้า ออกรุ่น 300 ซีซีมา เราก็ไม่รอช้าที่จับรถรุ่นนี้มาขี่อีกครั้ง

เจอหน้าครั้งนี้  Honda  CB300R   ใหม่ คงตัวตนด้วยรายละเอียดในการออกแบบที่ถอดร่างเงาะมาจาก   Honda CB1000R ชายใหญ่แห่งตระกูล   Naked bike   มันให้ความรู้สึกเป็นบ๊กไบค์ตัวจริง

ด้วยไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ พร้อมเรือนร่างหน่วยก้านปราดเปรียวดูสไตล์สปอร์ต ที่ชอบที่สุด คือเจ้าการออกแบบถังน้ำมันที่ดูแปลกตาไปอีกขั้น ตัวถังที่ดูทรงประหลาดๆ กลับให้ความรู้สึกแข็งขันดูทรงพลัง  แฮนด์บาร์ขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 28.6 มม.  ให้ความรู้สึกมั่นคงแข็งแรง

เบาะนั่งสูง เพียง 799 มม. ช่วยให้เวลาขึ้นคร่อมแล้วคนตัวเล็ก-ผู้หญิง ยังยืนได้เต็มเท้า ส่วนเบาะนั่งตอนหลังจะสูงขัวกว่าผู้ขับขี่เล็กน้อย แต่เท่าที่เอาแฟนมาซ้อน ซึ่งเจ้าหล่อนสูง 174 ซ.ม. ก็มีเสียงบ่นว่า ท่านั่งออกจากชันเข่าไปหน่อย  (คงเพราะด้วยเป็นคนตัวสูง)  

บิดกุญแจพร้อมออกสตาร์ท เจ้า  CB300R   มาพร้อมหน้าปัดดิจิตอลคล้ายกับรุ่นน้องที่เราคุ้นเคยมาก่อนหน้านี้  เจ้าเรือนไมล์นี้บอกค่าค่อนข้างครบถ้วนได้ดั่งใจตามต้องการทั้งระยะทาง รวมถึงข้อมูลที่จำเป็นต่างในระหว่างการขับขี่ ไม่ว่าจะอัตราประหยัด หรือ ความเร็วเฉลี่ย การใช้งานนั้นไม่ยากใช้เพียง 2 ปุ่ม ที่ซ่อนอยู่ทางขวา ซึ่งอาจจะต้องทำความเข้าใจในช่วงแรกในการใช้งาน แต่เมื่อเข้าใจวิธีการใช้แล้วก็ไม่ยากอีกต่อไป

กดปุ่มสตาร์ท เครื่องยนต์สูบเดี่ยวขนาด  300 ซีซี เริ่มการทำงานพร้อมซุ่มเสียงดุดันราวกับคุณมีบิ๊กไบค์ย่อมๆ ในมือ ให้ความรู้สึกดุดัน และน่าเกรงขาม ปลายท่อเข้ารถคันนี้ให้ความรู้สึกเร้าอารมณ์ บ่งบอกความสามารถในด้านความเร็วที่มากกว่าน้องน้อยที่เคยผ่านมือเรา

ระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ใช้การตบขึ้นลงแลลรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ชั้นนำทั้งหลาย  เตะขาตั้งลงมาสำรวจของที่ให้มากับรถถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน

Honda  CB300R  แอบซ่อนความเป็นบิ๊กไบค์มาค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะโช๊คอัพหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง  41 มม. จานเบรกขนาดใหญ่ 296 มม. และ ปั้มเบรกหน้า 4 พอท ช่วยเพิ่มความมั่นใจ

ทางด้านหลังท่อไอเสียดูมีความเร้าใจ ใต้เรือนร่างเจ้าเนคเกทไบค์คันนี้ตอบการใช้งานด้วยโช๊คอัพ   Mono Shock   ที่สามารถปรับพรีโลดได้ถึง 7 ระดับ  

ผมกลับไปขึ้นคร่อมพลันนึกว่า นี่มันบิ๊กไบค์ดีๆ ชัดๆ ขาดเพียงเครื่องยนต์ที่มากกว่า 400 ซีซี ไม่งั้น มันจะครบเครื่องครบครันอย่างไม่ต้องสงสัย

เตะขาตั้งเข้าเกียร์ออกท่องเมืองกรุง  CB300R ตอบข้อดีในการขับขี่ด้วยน้ำหนักตัวรถที่ไม่มากมายอะไรนัก พิกัดรวม 143 กก. ถือว่าค่อนข้างเบาพอสมควร ทำให้ขี่ได้คล่องในเมือง โดยเฉพาะในยามคุณเจอรถติดมหาศาล แล้วต้องใช้วิชามารในการแทรกตัวไปตามการจราจร

เจ้าเนคเกทไบค์คันนี้ก็คุมได้ง่าย แถมด้วยขนาดตัวรถที่ไม่ยาวมาก เพียง  2,012 มม. มาพร้อมความกว้างเพียง 888 มม. ก้ช่วยให้มันขับขี่ได้ง่าย  ไม่เหนื่อยใจเวลาไปเจอบรรดาช่องแคบทั้งหลาย คุณแทบจะขี่ได้เทียบเท่ามอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก กลุ่ม 125-150 ซีซีได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ

แถมชีวิตที่เร่งรีบในเมืองเครื่องยนต์ 300 ซีซี ยังตอบโจทย์ได้ใจ อัตราเร่งเร้าอารมณ์บิดเป็นมา หมุนติดมือจะเร่งแซงรถช้าชิดขวา หรือเบียดบี้สัญญาณไฟจราจรยามขับขี่ในเมือง ก็ทำได้ตามใจต้องการ

มี  300 ซีซีที่บ้าน เชื่อว่า หลายคนคงคิดเอามันเดินทางไกลในวันว่างอยู่บ้าง ผมไม่รอช้าชวนคนที่บ้านไปเที่ยวอยุธยา อาจจไม่ขี่ไกลมากแต่พอบอกได้

เมื่อซ้อน 2 คน เจ้า   Honda  CB300R   เชื่องช้าลงเล็กน้อย แต่ด้วยเครื่องยนต์สูบเดี่ยว กระบอกสูบใหญ่ทำให้มันสามารถเร่งได้ไวเหมือนเคยแม้ความเร็วสึกจะใช้เวลานานกว่าขับคนเดียว

ผู้หญิงก็ขี่ได้นะ CB300R 

เมื่อขับนอกเมืองด้วยความเป็น Naked Bike   อาจทำให้เหนื่อยล้ากว่าปกติ เนื่องจากทรงรถที่ไม่มีอะไรมาช่วยบังลมในระหว่างการขับขี่ แต่การท้าลมท้าแดดของรถก็ให้ความรู้สึกสัมผัสในการขับขี่ดีไปอีกแบบ จะมีก็แต่คนซ้อนที่เริ่มบ่นเมื่อยสักหน่อย เนื่องจากท่านั่งชันเขา แถมเราก็เป็นห่วงกลัวสาวเจ้าจะตกไปวัดพื้น เนื่องจากรถไม่มีกันตกมาให้คนนั่งหลัง  กลายเป็นรถคู่รักต้องกอดกันไปตลอดทางแบบเราจะไม่พรากจากกัน …

ถามผม..  Honda Cb300R   เป็นเนคเกทไบค์ที่ดีเหมาะขี่ในเมืองไปทำงานในวันที่การจราจรติดขัด แต่มันยังไม่ใช้รถที่พร้อมจะพาคุณเที่ยวทางไกล จากที่ขี่ตลอดหลายวัน มันมีดีในแง่สมรรถนะที่เร่งไดไวใกล้เคียงบิ๊กไบค์ (แม้จะไม่ใช่กับการทำความเร็วปลายที่ได้สูงสุด เพียง 150 ก.ม./ช.ม.โดยประมาณ) และความประหยัด ผมเห็นตัวเลข 3.0 ลิตร/100 ก.ม.หรือ ประมาณ 33 ก.ม./ลิตร สำหรับการใช้งานในเมือง

เมื่อนับว่ามันประหยัด และคุณเสียเวลาน้อยลง ผมว่า มันเป็นตัวเลือกที่ดีในการเดินทางไม่น้อย  มันคุ้มค่าครบเครื่องครบครัน  ทั้งยังมีสไตล์ เทียบกับราคาจำหน่าย  149,800 บาท ถือว่าไม่แพงจนเกินงาม สำหรับคนต้องการรถเดินทางมีสไตล์ และครบเครื่องสไตล์บิ๊กไบค์

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”616″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_imagebrowser” ajax_pagination=”0″ order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com