ด้วยขนาดตัวที่เล็ก จึงทำให้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ไม่สามารถใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ทำให้รถสามารถวิ่งได้ไกลเหมือนรถยนต์ได้ แต่ครั้นจะทำให้แบตเตอรี่สามารถอดเปลี่ยนได้ ก็อาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ดังนั้นทางออกจึงเป็นการร่วมมือกันระหว่างหลายๆบริษัท

จากเหตุผลในข้างต้น ทำให้ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกมอเตอร์ไซค์อย่าง Honda และ Yamaha ได้ตัดสินใจลงนามทำความร่วมมือระหว่างกันเพื่อช่วยกันผลิตรมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ออกมา โดยมีหัวใจสำคัญคือต้องการให้รถมอเตอร์ไซค์ของทั้งสองค่ายใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และสถานีสลับสับเปลี่ยนแบตเตอรีร่วมกัน

แน่นอน สิ่งที่เป็นผลดีตามมา นอกจากการลดต้นทุนในการผลิตและพัฒนาตัวรถแล้ว มันยังก่อให้เกิดการกำหนดมาตรฐานรูปแบบการสร้างแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบกลายๆ โดย 2 ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ ซึ่งหากโครงการนี้ไปได้สวย ผู้ผลิตอื่นๆก็อาจจะขอเข้าร่วมด้วยเช่นกัน เพื่อขยายฐานลูกค้าของตนเองไปในตัว (เบื้องต้นอาจเป็น Kawasaki และ Suzuki ที่อาจเข้ามาร่วมในภายหลัง เนื่องจากเคยทำสัญญาพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่สับเปลี่ยนได้ร่วมกับ Honda และ Yamaha ไว้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2019)

และสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุด ก็คือการที่ผู้ใช้รถอย่างเราๆ จะสามารถใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบถอดสลับได้อย่างสบายใจมากขึ้น เพราะไม่ว่าคุณจะใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของแบรนด์ใด หากแบตฯหมดเมื่อไหร่ ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้แบตฯที่อยู่ในสถานีสลับแบตฯได้ทันที โดยไม่ต้องดูว่าตู้ดังกล่าวเป็นของแบรนด์ใด (หรือไม่แน่ว่าทั้ง 2 แบรนด์ข้างต้น อาจทำบริษัทกลางขึ้นมา เพื่อไว้ให้บริการในส่วนนี้โดยเฉพาะก็เป็นได้)

และในเมื่อคราวนี้สถานีชาร์จถูกบริหารโดยผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ถึง 2 แบรนด์ นั่นก็หมายความว่าการกระจายตัวของสถานีสลับแบตฯก็สามารถทำได้ง่าย จากงบการพัฒนาโดยทั้ง 2 บริษัทอยู่ดี แม้ว่าพวกเขาจะเลือกตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อบริหารงานบริการในส่วนนี้ก็ตาม

กลับมาที่ตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งทาง Honda จะพัฒนาร่วมกับ Yamaha

จากการประกาศข้อมูลเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทาง Honda ระบุว่ารถมอเตอร์ไซค์ที่พวกเขาจะพัฒนาร่วมกับ Yamaha นั้น โดยหลักแล้วจะใช้พื้นฐานร่วมกันกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับคนเมืองอย่าง Honda EM1 e: และ รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากึ่งเพื่อการพานิชย์อย่าง Honda Benly e: ซึ่งอันที่จริงตัวรถรุ่นหลังก็มีให้เห็นในไทยมาสักพักใหญ่แล้ว

โดยแม้จะมีการระบุตัวรถรุ่นพื้นฐานในการพัฒนาออกมา แต่ทาง Honda และ Yamaha ก็ยังไม่มีการระบุข้อมูลอื่นใดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวรถ และยังระบุว่าตัวรถที่ถูกพัฒนาในครั้งนี้ เบื้องต้นยังคงมีไว้เพื่อให้ลูกค้าใช้ในประเทศญี่ปุ่นก่อน

แต่เนื่องจากหากเราลองวิเคราะห์กันให้ดีๆ เราก็จะพบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้น ที่ Honda ส่งรถ Benly e: (รวมถึง PCX EV) มาวิ่งทดสอบเก็บข้อมูลกับหลายหน่วยงาน อันที่จริงทางค่ายยังได้มีการส่งรถไปเก็บข้อมูลการใช้งานในประเทศอื่นๆโซนเอเชีย และทวีปยุโรปอีกด้วย แม้แต่ Yamaha เอง ก็มีการส่งรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอย่าง E01 ไปทดสอบในหลายๆประเทศ รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน แม้ว่าดั้งเดิมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่ละคันที่เราไล่เรียงมานั้นทางค่ายจะระบุว่ามีไว้ขายเฉพาะในญี่ปุ่นก็ตาม

นั่นจึงหมายความว่า แม้รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ที่ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่าง Honda และ Yamaha ครั้งนี้ จะถูกระบุว่ามีไว้แค่เพียงเพื่อให้คนญี่ปุ่นได้ซื้อหากัน แต่มันก็อาจถูกส่งมาเก็บข้อมูลการใช้งานในประเทศอื่นๆด้วย เพื่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ทั้งในส่วนขอตัวรถ และโครงข่ายสานีสลับแบตเตอรี่ จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ประเทศเหล่านั้น พร้อมสำหรับการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของพวกเขาจริงๆ