ทราบหรือไม่ว่า.. ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจ คุณควรจะรู้ว่า PDSA หรือหลักความปลอดภัยพื้นฐาน 10 ข้อ ที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอมีอะไรบ้าง
ทุกวันนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนของประเทศไทย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างทวีคูณตามอัตราการเติบโตของตลาดมอเตอร์ไซค์ ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการขับขี่ปลอดภัยอีกมาก ทั้งด้านทักษะ ความรู้ทางกฏหมาย รวมถึงความเข้าใจในตัวรถมอเตอร์ไซค์ โดยวันนี้ RideBuster มีบทความเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยมาฝากกันครับ
PDSA คือหลักการขับขี่ 10 ประการ ที่เราสามารถสำรวจตัวเองก่อนขี่รถออกจากบ้าน ทั้งการเตรียมคน เตรียมรถ ซึ่งนี้เป็นพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับการขับขี่ปลอดภัย ที่แม้ว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่มีโอกาสฝึกฝนเรื่องทักษะการขับขี่ แต่ PDSA นั้นสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพื่อลดอัตราเสี่ยงที่ก่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
1.สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง
หมวกกันน็อคนั้นเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากเสื้อแจ็ตเก็ตแขนยาว กางเกงยีน (กางเกงผ้าหนา) ถุงมือ และรองเท้าหุ้มส้น เพราะยามที่เกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะด้านใด ศรีษะเป็นจุดศูนย์รวมประสาทที่สำคัญ หากได้รับการกระแทกมีโอกาสเป็นเจ้าชายนิทราได้สูง หรือร้ายแรงก็เสียชีวิต ดังนั้นหมวกกันน็อคควรใช้แบบเต็มใบจึงจะปลอดภัยที่สุด
2.ตรวจเช็คสภาพยาง,เบรคและระบบส่องสว่าง
ระบบที่สำคัญที่สุดของมอตอร์ไซค์นั้นมิใช่เครื่องยนต์ แต่เป็นระบบเบรคต่างหาก เพราะเครื่องยนต์เสียกลางทางนั้น เราก็แค่จอดรอการซ่อม แต่ถ้าหากเบรคเสียหรือเบรคแตกระหว่างการขับขี่นี่สิ น่ากลัวกว่าเครื่องยนต์เสียมาก เราจึงต้องตรวจสภาพเบรค เช็คระดับน้ำมัน รวมถึงความหนาของผ้าเบรคเป็นประจำ
อีกทั้งตรวจเช็คลมยางและสภาพของยาง ว่ายังมีสภาพที่ดี ไม่แตกลายงา หรือเสือมสภาพจากอายุการใช้งาน ซึ่งเราสามารถตรวจสภาพยางได้ง่ายๆ ด้วยการใช้กุญแจรถ กดไปที่หน้ายาง ถ้าหากยางยังมีคุณภาพที่ดี เมื่อกดแล้วจะให้ความรู้สึกที่ยืดหยุ่นและนิ่มให้ตัว แต่หากยางเสื่อมสภาพกดแล้วจะแข็ง
นอกจากนี้ จะต้องตรวจระบบไฟส่องสว่าง สัญญาณไฟเลี้ยว แตร รวมถึงเชื้อเพลิงทุกครั้ง ว่ามีความพร้อมและเพียงพอต่อการใช้งาน
3.มองสัญญาณไฟ
ก่อนถึงแยกทาง,เปลี่ยนช่องทาง เราควรมองกระจกข้างและให้สัญญาณไฟเลี้ยวทุกครั้ง
4.การให้สัญญาณจราจร
ป้ายบอกทางต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ริมทาง เป็นสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ที่ดี ก่อนเราไปถึงจุดหมายปลายทางข้างหน้า เราควรศึกษาป้ายสัญญาณการจราจรให้ดีอย่างถ้วนถี่ เพราะนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องของกฎพื้นฐานความปลอดภัย ที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะละเลยและไม่ใส่ใจไม่ได้
5.อย่าขับสวนทาง
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะอุบัติเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความมักง่ายของผู้ขับขี่เอง ที่เห็นทางว่าระยะทางใกล้ๆ ย้อนศรไปนิดเดียวเดี๋ยวก็ถึง แต่ความจริงแล้วอันตรายมาก เพราะหากเจอรถที่แซงซ้าย หรือมีรถขับออกจากหน้าปากซอย ซึ่งจะมองทางขวาเป็นหลักอยู่แล้ว เมื่อย้อนศรและเกิดอุบัติเหตุมาเราก็ผิดเต็มๆ ไม่ต้องอ้างอะไรทั้งสิ้น
6.ระวังสภาพพื้นถนน
สำหรับสภาพพื้นถนนในบ้านเรา ส่วนใหญ่ไม่เอื้อต่อการขับขี่มอเตอร์ไซค์นัก เพราะเต็มไปด้วยหลุมบ่อ หรือบางเส้นทางนั้นราบเรียบก็จริง แต่เรียบแบบพื้นขัดมัน เหมือนพื้นสถานีบริการน้ำมันบางรายที่นิยมให้พื้นเรียบแต่ลื่น ซี่งพื้นถนนนี้มีผลต่อยางโดยตรง เพราะต่อให้ใส่ยางคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถนนกลับลื่นเปียก และขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ จะทำให้รถเสียหลักได้ง่าย
7.อย่าขับเร็ว
ตามกฏหมายได้ระบบเอาไว้ถึงความเร็วในเขตเทศบาล ว่าไม่ควรขี่เกิน 80 กม./ชม. และ 90 กม./ชม. สำหรับทางหลวงออกต่างจังหวัด รวมถึงความเร็วในตรอกซอกซอยนั้นจะยิ่งช้าไปกว่านี้อีกไม่เกิน 40 กม./ชม. การขับขี่ด้วยความเร็วเป็นสาเหตุใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้นขอให้ทุกคนขี่ตามกฏหมาย สามารถผ่อนจากหนักให้เป็นเบาได้ จากตายเหลือพิการ จากพอการเหลือกระดูกหัก จากหักเหลือฟกช้ำ ขอให้คำนึงเสมอว่า ถึงช้าไม่เป็นไร ดีกว่ารีบไปแล้วไปไม่ถึง
8.อย่าดื่มเหล้า
การดื่มเหล้านอกจากจะลดทอนสติปัญญาแล้ว ยังผิดต่อกฏหมายหากฝ่าฝืนมาขับขี่รถหรือมอเตอร์ไซค์ และอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ยังติดชาร์จเป็นอันดับที่ 2 รองจากการขี่รถเร็วอีกด้วย ดังนั้นดื่มแล้วไม่ควรขับหรือขี่รถประเภทใดทั้งสิ้น เพราะหากเกิดอุบัติเหตุแล้ว อาจมีคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่อง ต้องมาพลอยรับกรรมจากการเมาแล้วขับของเราอีกก็ได้
9.ระวังเมื่อขับทางแยก
ก่อนถึงทางแยกทุกครั้ง ควรลดความเร็วลงให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ไม่ควรขับผ่านทางแยกทุกชนิดทั้งที่มีสัญญาณหรือไม่มีด้วยความเร็วสูง เพราะอาจมีรถที่พุ่งออกมาจากแยกมาในระยะกระชั้นชิด จนอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
10.ถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง
ในบางครั้งเราต้องขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านถนนที่ไม่มีไฟส่องสว่าง ทัศนะวิสัยการขับขี่จึงลดน้อยลงไปกว่าการขับขี่กลางวัน ดังนั้นไฟหน้าจึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุด แต่เราก็จะมองได้เพียงบริเวณที่ไฟส่องไปได้ถึงเท่านั้น ดังนั้นการลดความเร็วลงให้ต่ำกว่าการขับขี่ในช่วงกลางวัน ก็มีความจำเป็นๆอย่างยิ่ง
ผ่านไปแล้วสำหรับหลักพื้นฐานของการขับขี่ปลอดภัย 10 ประการ จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความเข้าใจ หากนำไปปฎิบัติตาม จะช่วยให้รถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย และห่างไกลอุบัติเหตุมากขึ้น เพื่อให้เราตั้งมั่นอยู่ในกฎความปลอดภัย เพราะอะไหล่รถนั้นเปลี่ยนได้ แต่อะไหล่คนไม่มีเปลี่ยนนะครับ
เขียนโดย อาร์ม Ridebuster
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com