ในบรรดาจักรยานยนต์กลุ่ม 300 ซีซี ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมในตรกูลสปอร์ต เชื่อเลยว่า Yamaha  R3   ต้องอยู่ในใจใครหลายคนที่มองหามอเตอร์ไซค์ทรงสปอรืตคู่ใจควบซิ่งขี่ในเมืองหรือจะใช้มันออกทริปวันว่างก็พอไหว

การขายมากว่า 4 ปี ของรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 300 ซีซีของยามาฮ่า มาถึงจุดเปลี่ยนก่อนช่วงสุดสัปดาหืทีผ่านมา โดยอาศัยวาระครบรอบ 20 ปี ของยามาฮ่า อาร์วัน เจ้าตำนานความเร็วในสนามมาพลิกผันตัวตนของมัน นำไปสู่ก้าวใหม่ที่ย่อส่วนจากพี่ใหญ่และพกสมรรถนะในการขับขี่สำหรับคนที่อยากจะชิมลางสปอร์ตเริ่มต้น

หลังจากเปิดตัว  Yamaha  ก็ไม่รอช้าที่จะให้เรามีโอกาสสัมผัส   Yamaha R3   ใหม่ เป็นครั้งแรกท่ามกลางอากาศร้อนระอุในเมืองไทย

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 -4 ปีที่แล้ว ตอนเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่บ้านเรา   Yamaha  R3   เป็นรถที่สร้างความฮือฮาได้ไม่หยอก ด้วยการแนะนำเส้นสายความสปอรืตเล็กให้ลูกค้าที่มองหารถจักรยานยนต์ใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน และขับมันเฉิดฉาดไปซิ่งในสนามได้วันว่าง จุดประสงค์นี้ยังสืบทอดมายังรุ่นใหม่ กับการเป็นรถสปอร์ตที่ขับได้ทุกวันไม่เคยเบื่อ

ตอนที่เปิดตัวครั้งแรกสิ่งที่ผมติฉินเจ้ายามาฮ่า อาร์ 3 ในเวลานั้น คือมันออกแบบมาเพื่อคนไซส์เอเชียเท่านั้น การที่คนสูง 180 จะมาขี่รถ 300 ซีซี มันดูยังไงชอบกล ตอนถ่ายรูปมายังรู้สึกว่าดูตลกอยู่เลย

3ปีผ่านมา อะไรๆก็เปลี่ยนไปเยอะ ที่แน่ๆ ผมน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาหลายกิโลกรัม เสียจนตอนนี้ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร จะลดน้ำหนักให้กลับไปหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวเหมือนเดิม สำหรับทางด้านดจ้าสปอร์ตเอนทรี่ไบคืจากยามาฮ่า พวกเขาคงซึ่งในรสการทำตลาดแล้วว่า สาวกค่ายสีน้ำเงินชอบความสปอร์ตจริงจัง และความใฝ่ฝันการมี Yamaha  R1   หนึ่งเดียวความสปอร์ตมาครอบครอง ก็เป็นสิ่งที่สาวกคิดกันเอาไว้

การเปลี่ยนแปลง ยามาอ่า อาร์ 3 ใหม่ จึงเริ่มด้วยกาผ่าตัดครั้งใหญ่ อย่างที่เห็นได้ ทั้งหมดเกิดขึ้นทางด้านหน้าของตัวรถ ด้วยการปรับหน้าทาปากใหม่ ด้วยโจทย์ง่ายๆว่า “ยืมพี่มาหล่อแล้วกัน”

อย่างที่เห็นหน้าตาใหม่รุรุ่นนี้ออกมาในทาง   Yamaha  R1   ย่อส่วนเสียมาก บางคนบอกว่ามันดูเหมือน   Yamaha R6   มากกว่า อันนั้นก็ไม่ว่ากันตามแต่ความคิดของแต่ละคนไม่ผิดอะไร

หน้าตาที่เปลี่ยนไปมาพร้อมไฟหน้า LED  ตรงกลางเว้นไว้ให้มีที่ตักดักอากาศเข้าไประบายความร้อน เทียบกับรุ่นเดิมรถมีความกว้างเพิ่มขึ้น 10 มม. และสูงขึ้น อีก 5 มม.ฟังๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนเยอะมาก ระดับหน่อยมิลลิเมตรไม่น่าจะมีผลมากมาย แถมช่วงท้ายก็ไม่ได้เปลี่ยน ยามาฮ่าบอกก็มันหล่อดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม … ส่วนด้านข้างให้เส้นสายที่เรียกว่า   Cross Layer Wing   คล้ายกับพี่ใหญ่เช่นกัน ถ้าให้ฟันองค์รวมรถคันนี้ดูคล้ายจะถอดแบบออกมาจากยามาฮ่า อาร์วันให้เป็นฝันเล็กๆ รางวัลคอความเร็วงบน้อย

ขึ้นคร่อม .. ใจนึก เอาละเว้ย!! เดี่ยวได้รู้กัน มันจะรู้สึกเล็กหรือไม่ ยิ่งความเป็นคนตัวใหญ่บวกเสื้อการ์ด และหมวกกันน๊อกเข้าไปอีก ยิ่งทำให้ดูร่างยักษ์เข้าไปอีก

ฟาดเท้าขึ้นคร่อมจับแฮนด์ เฮ้ย!! ดีงาม แม้จะแค่พิกัด 300 ซีซี ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเล็กแล้วงวดนี้ แฟรริ่งข้างที่ขยายออกมา ทำให้ได้ความรู้สึกพอดีกับร่างใหญ่ขายาวมากขึ้น ก้าวเท้าหนึ่งขึ้นบนรถรู้สึกถึงความแนบชิด แถมท่านั่งดูจะสปอร์กว่าเดิมอีกเล็กน้อยด้วย

ก็ไม่น่าแปลกใจนัก ด้วยทางยามาฮ่าบอกว่า พวกเขาปรับองศาท่านั่งใหม่ให้ตอบความเป้นสายซิ่งมากขึ้น ที่แน่ๆ แฮนด์บาร์ลดต่ำลงมาอีก 22 มม.ทำให้คุณต้องโค้งไปข้างหน้ามากขึ้นและทำให้เข่าเอียงลงเล็กน้อยเมื่อเหยียบเป็กพักเท้า 

ในท่าหมอบ คนตัวใหญ่หมอบได้เต็ม เมื่อคางเกยถังตามสูตรความลู่ลมสูงสุด ชิวหน้าที่ปรับสูงขึ้นจะพอดีกับหมวกของเรา ให้การลู่ลมสูงสุดในยามทำความเร็ว แถมหน้าตาใหม่ยังมีค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศดีขึ้น หมายถึงรถคันนี้เร่งได้พริ้วขึ้น และทางยามาอ่าการันตีว่าความเร้วปลายเพิ่มขึ้นอีก 8 ก.ม./ช.ม. จากหน้าตาใหม่ของมัน

ใต้ร่างสปอร์ตเต็มพิกัดยามาฮ่า อาร์3 ยังติดตั้งเครื่องยนต์ 2 สูบเจ้าเดิม ขนาด 321 ซีซี รายละเอียดทางเทคนิคไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมให้กำลัง 42 แรงม้า ที่ 10,750 รอบต่อนาที  ทำแรงบิด 29.6 นิวตันเมตรที่ 9,000 รอบต่อนาที ขับกำลังลงเกียร์ 6 จังหวะ

รายละเอียดเชิงเทคนิคส่วนใหญ่ไม่ต่างจากรุ่นเดิม ตามสไตล์เปลี่ยนร่างให้โดนใจ ไม่ว่าจะโช๊คหัวกลับ 37 มม. ,เบรกหน้าสูบคู่พร้อมดิสก์เบรกแบบ   Floating Disc   หรือจะเป็นโช๊คหลัง   Mono  Cross  ปรับได้ 7 ระดับ ทั้งหมดยังประทับคงเดิมในรถคันนี้

สตารืทเครืองยนต์เตรียมลองขี่ เสียงเครื่องนุ่มนวล 2 สูบยังทำให้จดจำคืนวันเดิม   Yamaha  R3   หน้าใหม่ จะเป็นอย่างไร เราจะได้รู้ไม่กี่อึดใจ บีบคลัทช์กระดิกเกียร์ ตามองข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น ธงเขียวสะบัด ผมปล่อยคลัทช์ออกตัว มือขวาบิกคันเร่ง ยามาฮ่า อาร์ 3พาออกทะยานใช้ความเร็วในสนามทดสอบจำลองที่ยามาฮ่าวางเอาไว้

ถึงโค้งแรกผมกระชากรถเอนตัวลงเข้าโค้งเล็กน้อยรู้สึกถึงความง่ายในการควบคุมมากขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะตอนบินมาถึงสถานีสลาลอม การเอี้ยวรถผ่านช่วงแคบๆ ดูจะง่ายกว่าเดิมสักหน่อย เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

รอบที่เหลือผมใส่เต็มที่บิดเต็มคันเร่งในช่วงทางตรง ความแรงของรถรุ่นนี้เหมือนเดอม ผมยังไม่มีโอกาสบิดไปถึงหมื่นรอบ เพราะทางตรงสนามทดสอบสั้นมาก แต่ในยามที่คุณเบรกรุนแรงพบว่า อาหารสะบัดตัวรถมีบ้างนิดหน่อย อาจจะด้วยการเซทโช๊คใหม่ที่ต้องการให้ขี่สบายขึ้น ถ้าปกติมันปรับระดับ 4 คุณอาจจะลองปรับมากกว่านี้ถ้าชอบการเบรกแรงๆ เข้าโค้งแรงๆ แบนแบบโมโตจีพี

อรรถรสในความสปอร์ตจากสปอร์ตรุ่นนี้ ผมว่าให้ความรู้สึกได้ในระดับหนึ่งมันบิดอย่างเร้าใจ ไปอย่างนิ่มนวล และสปอร์ตการโชกโฮกฮากได้เมื่อบิดคันเร่งเต็มพิกัดให้เครื่องยนต์เดินเต็มสูบ สนองความเร้าใจตามต้องการ

เขาให้ขี่ 3 รอบ ผมว่า มันเร็วมากเกินกว่าจะบอกอะไรในเวลานี้อย่างชัดจน แต่อย่างหนึ่งที่บอกได้ชัวร์ คือ ปัญหาทางด้านการขับขี่เจ้าสปอร์ตรุ่นนี้กับคนตัวใหญ่หายเป็นปลิดทิ้ง ผมดูรูปถ่ายของทางทีมงานยามาฮ่า รู้สึกว่า รถดูเข้ากับทรงคนตัวใหญ่มากขึ้น แถมด้วยหน้าตามันเหมือน   Yamaha R1   ขี่พุ่งผ่านไปเร็วๆ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณขับ  R3  เพราะเขามองไม่ทัน เว้นแต่เสียที่ยังไม่ได้ทำให้เหมือนกัน เป็นอย่างเดียวจะบอกความแตกต่าง

ลงจากเจ้า  R1   น้อย ผมว่ามันดีขึ้นนะ ดีขึ้นในความหล่อ และความเหมาะสมกับคนตัวใหญ่ เรื่องสมรรถนะต่าง ความประหยัด ยังบอกไม่ได้ตอนนี้