Home » Royal Enfield Super Meteor 650 ครุยเซอร์ไซส์กลาง เผยโฉมอย่างเป็นทางการ ก่อนขายไทยเร็วๆนี้
คอมอเตอร์ไซค์

Royal Enfield Super Meteor 650 ครุยเซอร์ไซส์กลาง เผยโฉมอย่างเป็นทางการ ก่อนขายไทยเร็วๆนี้

หลังการเผยโฉมครั้งแรกในโลก เมื่อปลายปี 2022 ในงาน EICMA Show ในที่สุด Royal Enfield Super Meteor 650 ก็ได้พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในระดับโลกวันนี้ พร้อมรุ่นย่อย 2 รุ่นคือ Super Meteor 650 และ Super Meteor 650 Tourer ใน 7 โทนสี พร้อมประกาศเปิดตัวในเอเชีย แปซิฟิกเร็ว ๆ นี้

Royal Enfield Super Meteor 650 ถูกพัฒนาขึ้นจากความสำเร็จที่กลายเป็นตำนาน อย่างรถจักรยานยนต์สไตล์ครูซเซอร์ของ Royal Enfield ด้วยเครื่องยนต์แบบสองสูบขนาด 648cc ตั้งแต่ปีค.ศ. 2018 ที่ได้รับรางวัลมากมายอย่างรุ่น Interceptor INT 650 และ Continental GT 650 โดย Super Meteor 650 ได้รับการทดสอบทั้งบนแทร็คทดสอบ, แทร็ค Belgian PAVE, ไฮเวย์, ถนนทั่วไปทั้งในเมือง และนอกเมืองอินเดีย สหราชอาณาจักร และสเปน กว่า 1 ล้านกิโลเมตร เพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพ และสมรรถภาพของรถจะเป็นที่พึงพอใจ และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ขี่

คุณสิทธัตถะ ลาล, กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ไอเชอร์ มอเตอร์ส จำกัด กล่าวว่า “Super Meteor 650 คือรถจักรยานยนต์สไตล์ครูซเซอร์ที่ผสานความเรโทรไว้ในทุกองค์ประกอบตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบ ความสมดุลที่ลงตัวของการจัดวางชิ้นส่วนต่าง ๆ สไตล์ของรถ บนเครื่องยนต์แบบ 2 สูบ ขนาด 650cc เหมาะกับการขี่บนไฮเวย์หรือเส้นทางสายหลักเป็นอย่างยิ่ง ตัวรถให้การควบคุมที่มั่นคงในทุกย่านความเร็ว ผู้ขี่จะรับรู้ได้ถึงพลังของการควบคุม และยิ่งหลงใหลในตัวรถมากขึ้นเมื่อบิดคันเร่ง ดีไซน์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเป็นเรโทรทำให้ตัวสีของรถเป็นประกายโดดเด่นสะดุดตา ผ่านความตั้งใจที่ทำให้ Super Meteor 650 เป็นรถครูซเซอร์ที่ขี่สบาย เพื่อเป็นตัวเลือกให้ผู้ที่อาจจะยังไม่เคยขี่รถในสไตล์นี้มาก่อนได้ลองพิจารณา”

คุณบี โกวินดาราจาน, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, Royal Enfield กล่าวว่า “เป้าหมายของ Royal Enfield ไม่ใช่เพียงแค่การผลิตรถจักรยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังต้องมีเอกลักษณ์ของความเป็นรถจักรยานยนต์แบบดั้งเดิม ในตอนที่เราเปิดตัว Meteor 350 ซึ่งเป็นตัวแทนของรถรุ่นที่เป็นที่นิยมอย่างยาวนาน อย่าง Thunderbird นั้น ส่งผลให้ผู้ขี่ทั่วโลกหลงใหลในสไตล์การขี่แบบครูซเซอร์ จนเป็นรถที่ขายดีที่สุดสำหรับเราในแถบในยุโรป และได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในวันนี้ Super Meteor 650 คือการถ่ายทอดความเป็นรถครูซเซอร์รูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมความโดดเด่นของการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับตลาดรถสไตล์ครูซเซอร์ขนาดกลาง Super Meteor 650 พร้อมวางจำหน่ายในประเทศอินเดียแล้ววันนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรป และประเทศอื่น ๆ ในอนาคตอันใกล้”

Super Meteor 650 ถูกออกแบบให้การขี่ และควบคุมรถทำได้ง่าย ผ่านการออกแบบตัวรถจักรยานยนต์ที่คำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ และความรู้สึกในการขับขี่ ทรงตัวได้นิ่งแม้มีลมแรงบนถนน อีกทั้งคล่องตัวสูงในทุกโค้ง เครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ที่นิ่งและนุ่มนวล แต่มาพร้อมแรงบิดที่เหลือเฟือในทุกรอบเครื่องยนต์ ที่สำคัญคือสไตล์การออกแบบที่แสดงถึง DNA ของความเป็นรอยัล เอ็นฟีลด์ เหล่านี้คือความโดดเด่นของ Super Meteor 650 ที่จะเป็นเพื่อนร่วมเดินทางชั้นดีของผู้ขี่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในเมือง หรือนอกเมืองที่เป็นไปด้วยทางตรง ทางโค้ง และเนินเขา

ตั้งแต่ช่วงกลางยุค 1950s เป็นต้นมา Royal Enfield เป็นแบรนด์ชั้นนำในการผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์สไตล์ครูซเซอร์หลากหลายรุ่น เริ่มตั้งแต่การส่งออกเข้าสู่ตลาดในสหรัฐอเมริกาอย่างรุ่น Redditch Super Meteor twin ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปัจจุบัน รถรุ่นดังกล่าวคือรถครูซเซอร์แบบดั้งเดิม ต่อมาได้เปิดตัว Citybike, Lightning 535 ในอินเดีย ซึ่งไม่เพียงมีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในตลาดรถจักรยานยนต์ ณ เวลานั้น แต่ยังเป็นรถที่มีความเท่ ต่อมาจึงได้เปิดตัว Thunderbird ขนาด 350cc และ 500cc และในปีค.ศ. 2020 Royal Enfield ได้เปิดตัว Meteor 350 ที่มาบนแพลตฟอร์มใหม่อย่าง J-series โดยได้มีปรับเปลี่ยนให้ทั้งสมรรถภาพ และประสิทธิภาพของรถดีขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญคือขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

Super Meteor 650 ถูกออกแบบ และสร้างขึ้นที่ศูนย์เทคโนโลยีแห่งสหราชอาณาจักรของแบรนด์ ร่วมกับ Harris Performance เฟรมและสวิงอาร์มถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ตัวรถจักรยานยนต์มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้ควบคุม และบังคับเลี้ยวได้ง่าย อีกทั้งแสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในช่วงความเร็วสูง ทำให้ผู้ขี่มีความมั่นใจในทุกครั้งที่ออกเดินทาง โครงสร้างถูกสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมทางวิศวกรรมที่โดดเด่น

ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูปโครงเหล็กแบบฟอร์จ, การหล่อแบบ investment casting และการ pressings & extrusions ซึ่งเฟรมแบบใหม่นี้มีการออกแบบให้มีจุดยึดฝาสูบใหม่ เพื่อความแข็งแกร่งที่มากขึ้นอีกด้วย Super Meteor 650 มาพร้อมกับโช๊คแบบ USD (UpSide Down) ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ มีช่วงชักที่ 120 mm. และโช๊คหลังแบบพิเศษพร้อม pre-load ได้ 5 ระดับ มาพร้อมกับระยะยุบตัวที่ 101 mm. และเมื่อช่วงล่างทั้งหมดถูกผสานด้วยเฟรมออกแบบมาพิเศษ ทำให้ Super Meteor 650 คือรถที่สมบูรณ์แบบในการเดินทางไกล และแสดงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมทั้งทางตรงและทางโค้ง

Super Meteor 650 เป็นรถจักรยานยนต์ครูซเซอร์พันธุ์แท้ชั้นดี ด้วยความสูงที่พอเหมาะสำหรับรถกลุ่มนี้ เบาะนั่งที่รองรับช่วงสะโพกและเอวได้ดี ช่วยให้ผู้ขี่ยืนคร่อมรถได้อย่างสบาย อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของรถครูซเซอร์ก็คือตำแหน่งการขี่ ซึ่ง Super Meteor 650 มาพร้อมที่พักเท้าหน้าที่ยื่นไปทางข้างหน้ารถ

และแฮนด์บาร์กว้างที่ยกขึ้น ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมากขึ้น ถังน้ำมันขนาดใหญ่เพิ่มระยะให้มากขึ้น และยางแบบไม่มียางในที่กว้าง ของทั้งล้ออัลลอยหน้าขนาด 19 นิ้ว และหลังขนาด 16 นิ้ว ทำให้ผู้ขี่อุ่นใจได้เวลาทำความเร็วบนไฮเวย์ การออกแบบแบบไดนามิก และรูปทรงที่โดดเด่นเพิ่มความปราดเปรียวให้รูปลักษณ์ของรถ อีกทั้งสื่อถึงการเคลื่อนไปข้างหน้าแม้รถจะจอดอยู่กับที่

มุมมองของผู้ขี่ และปุ่มสัมผัสต่าง ๆ ได้รับการออกแบบด้วยความความละเมียดละไม เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งวัสดุ และการประกอบนั้นอยู่เหนือชั้นอย่างที่สุด แผงหน้าปัดผสมผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาของมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อกเข้ากับการทำงานของจอ LCD สำหรับสิ่งจำเป็นต่าง ๆ เช่น รอบเครื่องยนต์ ไฟบอกเกียร์ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง นาฬิกา และมาตรวัดระยะทาง

คันคลัตช์และเบรกแบบปรับได้ให้การทำงานที่ราบรื่นพร้อมกับสัมผัสของกลเม็ดเด็ดพรายแบบย้อนยุค ในขณะที่ด้ามจับรูปทรงกระบอกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ผสานรวมโลโก้แบรนด์ สวิตช์อลูมิเนียมชุบใหม่ทั้งหมด และปุ่มสวิตช์หมุนแบบโรตารี่ที่ไม่เหมือนใคร วางองค์ประกอบการออกแบบเก๋ไก๋ระดับพรีเมียมไว้ในมือของผู้ขี่

จากนั้นจะมีอุปกรณ์นำทางแบบ TBT (Turn-By-Turn) ที่โด่งดังของแบรนด์ หรือที่รู้จักในชื่อ Royal Enfield Tripper เป็นครั้งแรกในรถจักรยานยนต์ที่ผลิตในอินเดียเมื่อเปิดตัวใน Meteor 350 ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Google เชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ผ่านบลูทูธ ช่องเสียบ USB แบบแยกส่วนอยู่ใต้แผงด้านซ้าย คุณสมบัติที่ดึงดูดความสนใจเพิ่มเติมของครูซเซอร์นี้คือไฟหน้าแบบ LED ซึ่งเป็นครั้งแรกของรอยัล เอ็นฟีลด์ ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบเสน่ห์แบบย้อนยุค แต่ให้ประโยชน์ทั้งหมดจากเทคโนโลยี LED

ปิดท้ายที่ความโดดเด่นของสีสันตัวถังโดย Super Meteor 650 มาพร้อมสีตัวถังที่ให้ความเงาเป็นประกาย โลโก้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลโก้แบบดั้งเดิมของรอยัล เอ็นฟีลด์ ผลิตด้วยวัสดุโครเมี่ยมตัดเฉดสองสีให้มิติ และความโดดเด่น เสมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นเอกที่จัดตำแหน่งวางได้อย่างลงตัวข้างตัวถังรถ

Super Meteor 650 มาพร้อมตัวเลือกสีดำ Astral Black, สีฟ้า Astral Blue, สีเขียว Astral Green, สีเทา Interstellar Grey และสีเขียว Interstella Green สำหรับรุ่น Super Meteor 650 Tourer ซึ่งมาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม เช่น แผงบังลม, เบาะนั่งแบบ deluxe touring, ที่พิงหลัง มาใน 2 ตัวเลือกเฉดสี ได้แก่ สีแดง Celestial Red และสีฟ้า Celestial Blue สำหรับการจำหน่ายในเอเชีย แปซิฟิกนั้นคาดว่าจะพร้อมในเร็ว ๆ นี้

Super Meteor 650 สามารถตกแต่งเพิ่มเติมเสริมความเท่ได้ครบครันเช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์รุ่นอื่น ๆ ของรอยัล เอ็นฟีลด์ เพื่อช่วยเติมเต็มประสบการณ์การขี่ของผู้ขี่ในทุกทริปการเดินทาง

Solo Tourer คือธีมสำหรับการตกแต่ง Super Meteor สำหรับการเดินทางแบบคนเดียวให้โดดเด่นมีสไตล์มากขึ้น รอยัล เอ็นฟีลด์ได้ออกแบบอุปกรณ์ตกแต่งเสริมที่จะทำให้เส้นทางโซโล่ของผู้ขี่สมบูรณ์แบบ และมีสไตล์ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจก และคิ้วปลายแฮนด์ ไฟเลี้ยว LED ทั้งด้านหน้าและหลัง, ชุดแต่งเดี่ยว, การ์ดเครื่องยนต์, ล้ออัลลอย, ที่พักเท้าผู้ขี่ และการ์ดเครื่องยนต์สีเงิน

สำหรับโทนสี Astral และ Interstellar ที่เน้นการเดินทางไกลสองคนนั้นจะมีอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น เบาะนั่งแบบ touring ที่หนากว่า ทำให้เดินทางไกลได้สบายมากยิ่งขึ้น, พนักพิงสำหรับคนซ้อนเบาะ และชิลด์หน้ารุ่นฟลายสกรีนทัวร์ริ่ง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อตกแต่งเพิ่มเติมได้ เช่น แฮนด์บาร์, กระจกแบบทัวริ่ง, พักเท้าผู้ขี่, ไฟตัดหมอก LED, การ์ดเครื่องยนต์ air fly evo, การ์ดกันถังน้ำมันสีดำ, ไฟเลี้ยว LED ด้านหน้าและด้านหลัง และกล่องใส่สัมภาระขนาดใหญ่

นอกจากนี้ยังมีเครื่องแต่งกายและสินค้า เช่น เสื้อยืด Super Meteor หมวกกันน๊อค กระเป๋า และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่จะวางจำหน่าย Super Meteor 650 ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้ที่หลงใหลในการขี่รถจักรยานยนต์ทุกคนได้ฉีกตัวจากความจำเจในทุก ๆ วัน ไปสู่ความอิสระของการใช้ชีวิตบนถนนที่เปิดโล่งสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่ไกลสุดสายตา สู่เส้นทางที่ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเวลาหรือระยะทาง

ด้วยความตั้งใจออกแบบในทุกรายละเอียด เราเชื่อว่า Super Meteor 650 จะเป็นรถจักรยานยนต์อีกรุ่นที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่อาจจะยังไม่เคยลองขี่รถสไตล์ครูซเซอร์ได้เปิดใจลองอย่างแน่นอน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.