ในหลายปีที่ผ่านมา Great Wall Motor อาจเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตรถยนต์เจ้าดังเจ้าใหญ่จากประเทศจีน แต่ล่าสุด พวกเขากลับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาซึ่งแปลกตาไปจากเดิม เพราะมันคือ ทัวร์ริ่งไบค์ไซส์ใหญ่ยักษ์ นามว่า “Souo S2000 GL”
Souo S2000 GL คือรถมอเตอร์ไซค์แนวทัวร์ริ่งไบค์ขนาดใหญ่ ที่ทาง Great Wall Motor พึ่งทำการเผยโฉมออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน และแม้ตอนนี้พวกเขาจะยังไม่ได้พร้อมทำมันขายออกมาจริงๆ แต่เมื่อมองจากหน้าตาตัวรถแล้วก็ถือว่ามันค่อนข้างจะมีความเรียบร้อย และใกล้เคียงกับคำว่า “Production Bike” อยู่พอสมควร
โดยจุดเด่นสำคัญของเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ขนาดยักษ์คันนี้ แน่นอนว่าจะต้องเริ่มจากขุมกำลังของมัน ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบนอน ขนาดความจุรวมใหญ่ถึง 2,000cc (เลขสุทธิยังไม่มีการเปิดเผย) ซึ่งถือว่าใหญ่โตเกินไปมาก เมื่อเทียบกับบรรทัดฐานของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไป และจัดว่าใหญ่กว่าเหล่ารถมอเตอร์ไซค์กลุ่มเดียวกันอยู่เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น BMW K1600GT หรือ Honda GL1800 Goldwing ซึ่งเจ้าคันหลัง ดูเหมือนจะเป็นต้นแบบให้กับเจ้าน้องใหม่คันนี้อยู่พอสมควร
ทั้งนี้ เนื่องจากตัวรถยังอยู่ในขั้น Prototype จึงทำให้ทางค่ายยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมา แต่เมื่อมองจากคู่แข่งแล้ว มันจึงควรจะต้องทำแรงม้าได้ไม่น้อยกว่า 120 ตัว และมากสุดที่ราวๆ 180 ตัว ขณะที่แรงบิดก็ควรจะอยู่ในช่วงราวๆ 170-200 นิวตันเมตร
ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าว อาจดูไม่ได้สูงมากนัก (หากว่ากันด้วยบรรทัดฐานของรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบอื่นๆ) แต่ทั้งแรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ได้ ก็จะมาในรอบที่ต่ำพอสมควร โดยสังเกตได้จากรอบเรดไลน์ที่มีตัวเลขเพียง 6,000 รอบ/นาที เท่านั้น
จึงทำให้เครื่องยนต์ลักษณะนี้ ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าที่ต้องการเดินทางชิลๆสบายๆมากกว่า แม้ว่าความเร็วสูงสุดที่มันสามารถทำได้ อาจสูงถึง 240 กิโลเมตร/ชั่วโมงก็ตาม เมื่ออ้างอิงจากเลขที่เห็นบนเรือนไมล์
และหากรูปแบบเครื่องยนต์ยังดูขิงชาวบ้านไม่มากพอ ระบบส่งกำลังของมัน ยังถูกระบุว่าจะเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ ซึ่งในตอนนี้มีเพียง Honda เท่านั้น ที่ใช้ระบบส่งกำลังแบบนี้ในรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองอยู่ แต่ที่ทาง GWM จะให้มาเหนือกว่าหน่อยคือ ระบบเกียร์จะมีอัตราทดทั้งหมด 8 สปีด ไม่ใช่ 7 สปีด เพื่อการเรียกอัตราเร่งที่มีความต่อเนื่องและไหลลื่นมากกว่า (แต่ก็ต้องรอดูตอนขี่ใช้งานจริงอีกที ว่าจะเป็นไปตามทฤษฎีหรือไม่ ?)
ด้านงานตกแต่งรอบคัน จะเห็นได้ว่าตัวรถต้นแบบนั้นมาพร้อมกับเฉดสีดำ-ทอง ซึ่งเป็นเฉดสีที่บ่งบอกถึงความขึงขัง ดุดัน แต่หรูหราด้วยในตัว ส่วนงานออกแบบชิ้นส่วนเปลือกนอกต่างๆเอง กลับให้อารมณ์ที่คล้ายกับ Honda Goldwing GL1800 เจเนอเรชันที่ 5 รุ่นปี 2001-2017 อยู่พอสมควร แค่มันถูกทำให้ชิ้นเปลือกแฟริ่งต่างๆมีความใหญ่โต และบึกบึนกว่ามากก็เท่านั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งระบบกันสะเทือนทางด้านหน้าเอง ก็ยังเป็นแบบ Hossack-style Girder fork ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ GL1800 เจเนอเรชันที่ 6 (และ BMW K1600GT)
ขณะเดียวกันลูกเล่นต่างๆของตัวรถ ก็ถูกให้มาค่อนข้างจัดเต็มตามฉบับทัวร์ริ่งไบค์รุ่นใหญ่ ทั้งหน้าจอมาตรวัดแบบ Full-Digital TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ประมวลผลด้วยชิปรหัส 8155 เพื่อใช้ในการคำนวนข้อมูลฟังก์ชันต่างๆของตัวรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบอัพเดทเฟิร์มแวร์แบบ OTA, ระบบสั่งการด้วยเสียง, ระบบเครื่องเสียง ซึ่งจากที่เห็นจะพบว่าตัวรถมีลำโพงติดตัวอยู่ราวๆ 4 ดอก (คู่หน้า และ คู่หลัง), ระบบเบาะอุ่นก้น, และยังมีระบบตรวจจับวัตถุในมุมอับ (Blindspot) มาให้ด้วย
ทั้งนี้ แม้โปรเจ็กท์จะดูน่าสนใจ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ เราต้องไม่ลืมว่าในประเทศจีน ผู้คนไม่ได้สะดวก สนใจ และเอื้อที่จะใช้รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เท่าไหร่นัก จึงทำให้มันอาจไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่จะขึ้นไลน์ผลิตในประเทศจีนได้คุ้มทุน เพราะทำขายในบ้านเกิดตนเองไปก็คงไม่ได้ยอดที่น่าประทับใจเท่าไหร่
แต่ Wei Jianjun ประธานบอร์ดบริหารของบริษัท Great Wall Motor กลับระบุว่าที่เจ้าตัวสร้างโปรเจ็กท์นี้ขึ้นมา ก็แค่เพียงเพราะชอบและหลงรักในรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ส่วนจะทำมันขายจริงหรือไม่ และจะขายในประเทศใด รวมถึงจะไปขึ้นไลน์ผลิตที่ใหน ก็ขึ้นอยู่กับว่ากระแสตอบรับของตัวรถต้นแบบคันนี้ จะดีมากแค่ไหนอีกที