Home » มอไซค์ฯ ผู้ดี Triumph Bonneville Bobber Black และ Speedmaster เปิดตัว 6.25 แสนบาท
คอมอเตอร์ไซค์

มอไซค์ฯ ผู้ดี Triumph Bonneville Bobber Black และ Speedmaster เปิดตัว 6.25 แสนบาท

Triumph Bonneville Bobber Black และ Speedmaster อวดโฉมในไทยเป็นครั้งแรกของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยสองล้อเหล่านี้เป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลบอนเนวิลล์ที่มีสไตล์คัสตอมสุดคลาสสิกแบบฉบับอังกฤษขนานแท้ และยังคงไว้ด้วยรูปลักษณ์รถตระกูลบอนเนวิลล์ดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 6.25 แสนบาทเท่ากันทั้งสองรุ่น รวมถึงเปิดรับจองในงาน Motor Expo 2017 ที่จะถึงนี้

 

 

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2017  ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ทุกคนเฝ้ารอคอยเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” (Bonneville Bobber Black) และ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) โดยทั้งหมดเป็นรถตระกูลบอนเนวิลล์อันเลื่องชื่อ ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของบอนเนวิลล์ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจและความปลอดภัยเหนือระดับ พร้อมตอบสนองความต้องการในการขับขี่ตลอดทุกการเดินทาง

 

 

เริ่มต้นที่รุ่น “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” (Bonneville Bobber Black) ที่เข้มขึ้น ดุขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงไว้ด้วยคุณลักษณะที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์คัสตอมพันธุ์แท้ นวัตกรรมยานยนต์ที่สง่างาม ขีดความสามารถที่นิยามความเป็นตัวตน การขับขี่ที่ให้อารมณ์แสนเร้าใจ ตลอดจนเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกึกก้องทรงพลัง

 

 

โดย “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนานขนาด 1,200 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 77 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที ในส่วนท่อไอเสียเป็นแบบตรงพื้นผิวคู่สีดำและท่อเก็บเสียงคู่ทรง Peashooter และกล่อง Cat box แบบซ่อน รวมถึงแอร์บ็อกซ์ห้องคู่ ช่วยส่งมอบโทนเสียงที่หนักแน่นดุดันเร้าอารมณ์ในแบบ Hot Rod ท่วงท่าดุดัน และกำยำยิ่งขึ้น ด้วยล้อหน้าหนาขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช้คหน้าขนาด 47 มิลลิเมตร รวมถึงสไตล์และการตกแต่งรายละเอียดสีดำสนิททั่วทั้งคัน อาทิ ท่อไอเสียสีดำ แป้นเบรกและที่พักเท้าสีดำ คันเกียร์ชุบผิวสีดำ เกียร์โยงชุบซิงค์นิเกิล คันเบรกและคลัตช์ชุบผิวสีดำ แฮนด์บังคับเลี้ยวสีดำ พร้อมไรเซอร์และแคลมป์ชุบผิวสีดำฐานเบาะแบบลอยตัวสีดำ ฝาครอบเครื่องยนต์ ฝาครอบลูกเบี้ยว และฝาครอบสเตอร์พาวเดอร์โค้ทสีดำ ขอบไฟหน้าชุบโครเมียมสีดำ รวมถึงดุมล้อสีดำ เป็นต้น อีกทั้งอุปกรณ์มาตรฐานประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น ได้แก่ ดิสก์เบรกหน้าแบบคู่พร้อมคาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบแบบคู่จาก Brembo ดิสก์เบรกหลังแบบเดี่ยวพร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว กระบอกโช้คหน้า Showa ไฟหน้า LED ประสิทธิภาพสูงพร้อมไฟเดย์ไลท์แบบเฉพาะตัว มีระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยปุ่มเดียวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงหน้าจอเอนกประสงค์ที่ควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้ว

 

 

นอกจากนี้สิ่งที่ช่วยเติมเต็มการยกระดับก็คือ เทคโนโลยีมุ่งเน้นผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น โหมดการขับขี่บนถนนปกติ และถนนตอนฝนตก มีระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบปรับได้ เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมในระดับสูงสุด และเหนือสิ่งอื่นใดคือคลัตช์ควบคุมแรงบิดที่ช่วยลดแรงในการบีบคลัตช์ลง เพื่อช่วยป้องกันผู้ขี่จากอาการเหนื่อยล้า รวมถึงระบบป้องกันการโจรกรรมสุดล้ำสมัยพร้อมอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ติดตั้งไว้ภายในกุญแจรถสุดพรีเมี่ยม มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ลดการปล่อยไอเสียลง พร้อมเพิ่มความอุ่นใจตลอดการขับขี่ที่มากขึ้น ในส่วนของการบำรุงรักษาที่ยาวนานถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน ตลอดจนการรับประกันคุณภาพของรถยังยาวนานถึง 2 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งโปรแกรม Triumph Roadside Assistance ตลอดระยะเวลารับประกัน 2 ปี  ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่

 

 

นอกจากนี้ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” ได้รับการออกแบบพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการแต่งรถเป็นหัวใจสำคัญ จึงมีชุดแต่ง “Old School” และอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมายกว่า 120 รายการ เพื่อการปรับแต่งรายละเอียดและสไตล์ รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายและเสริมประสิทธิภาพรถให้สูงขึ้น โดยอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ ประกอบไปด้วย ตัวเลือกแฮนด์บังคับเลี้ยวแบบต่างๆ เช่น แบบ Mini Ape Hangers  ไฟเลี้ยว LED ขนาดเล็ก  บังโคลนแบบสั้น กระเป๋าสัมภาระ เบาะนั่งที่ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ  และปลอกมือจับทำความร้อนด้วยไฟฟ้า ตลอดจนอุปกรณ์เสริมแบรนด์ดัง ซึ่งประกอบไปด้วยชุดกันสะเทือนหลังแบบปรับได้จาก Fox และปลายท่อเก็บเสียงอลูมิเนียมกลึงขึ้นรูปสุดหรูหราจาก Vance & Hines พร้อมปลายท่อแบบปรับได้

 

 

ทั้งนี้ ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค มาพร้อมกับสีที่น่าสนใจถึง 2 สี ได้แก่สี Jet Black เงางามสุดคลาสสิก และสี Matt Jet Black แบบร่วมสมัย

 

 

นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวอีกหนึ่งรุ่น ได้แก่ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์สไตล์คัสตอมแท้ อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอสายพันธุ์อมตะเหนือกาลเวลาที่รวมคุณลักษณะอันโดดเด่นของมอเตอร์ไซค์ตระกูลบอบเบอร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่งมอบภาพลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของบอบเบอร์อย่างเต็มเปี่ยมแต่สามารถใช้งานได้ง่ายดายและคล่องแคล่วขึ้นกว่าที่เคยมี ทั้งหมดนี้เป็นมิติใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลบอนเนวิลล์สไตล์คัสตอมสุดคลาสสิกแบบฉบับอังกฤษที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานในระดับสูงขึ้น

 

 

โดย “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ ขนาด 1200 ซีซี ส่งมอบแรงบิดสูงสุดถึง 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และส่งมอบพละกำลังสูงสุดที่ 77 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที พร้อมมอบภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์การออกแบบที่สืบทอดมาจากบอบเบอร์ อาทิ ถังน้ำมันเชื้อเพลิงบอนเนวิลล์แกะสลัก ครีบเครื่องยนต์กลึงขึ้นรูป เรือนปีกผีเสื้อคู่สไตล์คาร์บูเรเตอร์ เส้นสายคอท่อที่เรียบง่ายชัดเจนสวยงาม ครีบคอท่อ และยางกันฝุ่นโช้ค เป็นต้น ขณะที่รูปลักษณ์โครงท้ายรถที่ออกแบบมาอย่างแข็งแรงและงดงามในแบบของบอบเบอร์ก็ได้ถูกนำมาไว้บนรถคันนี้เช่นกัน รวมถึงงานตัวถังแบบเรียบง่าย หน้าปัดเดี่ยว และดุมล้อที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก ‘ดรัมเบรก’ หลังแบบคลาสสิก อีกทั้งกล่องแบตเตอรี่แบบดั้งเดิม ตลอดจนบังโคลนเหล็กพร้อมสันที่ตรงกลาง การตกแต่งไฟหน้า ‘Nacelle’ แฮนด์บังคับเลี้ยวกวาดไปด้านหลังสไตล์ Beach Bar หมุดพักเท้าด้านหน้า บังโคลนหลังแบบยึดตาย และล้อซี่ลวดขนาด 16 นิ้ว อีกทั้งเพิ่มความสะดวกสบายในการบังคับรถและการควบคุมที่เหนือชั้นด้วยตำแหน่งการขับขี่ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ จึงมีเบาะที่นั่งคู่อเนกประสงค์และที่นั่งเดี่ยวที่สามารถถอดออกได้ รวมทั้งเบรกประสิทธิภาพสูงเพื่อความมั่นใจสูงสุดด้วยดิสก์เบรกหน้าคู่ พร้อมคาลิปเปอร์จาก Brembo ส่วนดิสก์เบรกหลังเดี่ยวพร้อมคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยวจาก Nissin

 

 

ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยจัดเต็มด้วยคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire สุดล้ำสมัย ที่พร้อมส่งมอบพละกำลังในทั้งโหมดขับขี่บนถนน และโหมดขับขี่ขณะฝนตก ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรก ABS รุ่นล่าสุด และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน Traction Control แบบเปิดปิดได้ มีคลัตช์ควบคุมแรงบิด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control แบบกดปุ่มเดียวที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ทางไกลให้สะดวกสบายมากขึ้น ตลอดจนหน้าปัดเดี่ยวสุดหรูหราซึ่งอัดแน่นด้วยคุณลักษณะมากมาย เช่น มาตรวัดความเร็วแบบ analog และจอ LCD ที่ควบคุมได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้ว มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวเพื่อลดการปล่อยไอเสีย และระบบป้องกันการโจรกรรมรุ่นล่าสุดภายในกุญแจรถ อีกทั้งเพิ่มความอุ่นใจตลอดการขับขี่ที่มากขึ้นในส่วนของการบำรุงรักษาที่ยาวนานถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี  แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน ตลอดจนการรับประกันคุณภาพของรถที่ยาวนานถึง 2 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง พร้อมทั้งโปรแกรม Triumph Roadside Assistance ตลอดระยะเวลารับประกัน 2 ปี ทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการใช้งานได้อย่างเต็มที่เช่นกัน

 

 

โดยรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งทั้งหมด 2 ชุด โดยชุดแต่ง ‘Highway’ สำหรับเพิ่มขีดความสามารถด้านทัวริ่งจึงมีชุดสัมภาระแบบอ่อนครบชุด ส่วนชุดแต่ง ‘Maverick’ สำหรับผู้ที่ขี่ต้องการภาพลักษณ์เรียบง่ายแต่ดุดัน และอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกมากกว่า 130 รายการ จึงมีเบาะนั่งเดี่ยวและแฮนด์บังคับเลี้ยวทรงตรง ตลอดจนอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับการตกแต่งสไตล์ทัวริ่ง เช่น ท่อไอเสียระดับพรีเมียมจาก Vance & Hines

 

 

 

ทั้งนี้ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” โฉมใหม่มาพร้อม 3 สีสุดคลาสสิกให้เลือก ได้แก่ สี Jet Black สี Cranberry Red/Jet Black และสี Fusion White/Phantom Black พร้อมตัดเส้นคู่ด้วยมือ

 

 

ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.