Home » BYD เตรียมเปิดตัว “แบตเตอรี่ เจเนอเรชันที่ 2” รองรับระยะทางการใช้งานสูงสุด 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ
Evolution ข่าวสารยานยนต์

BYD เตรียมเปิดตัว “แบตเตอรี่ เจเนอเรชันที่ 2” รองรับระยะทางการใช้งานสูงสุด 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ

BYD ได้ชื่อชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีความโดดเด่นอย่างมาก ในเรื่องเทคโนโลยีการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ และในเร็วๆนี้ พวกเขาก็กำลังเตรียมที่จะเปิดตัว แบตเตอรี่เจเนอเรชันใหม่ออกมา โดยมันอาจสามารถรองรับระยะทางในการใช้งานได้มากถึง 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ เลยทีเดียว

จากการให้ข้อมูลโดยนาย Wang Chuanfu ประธานบอร์ดบริหารของ BYD ระหว่างงานประชุมของบริษัท เปิดเผยว่าพวกเขากำลังเตรียมแผนที่จะเปิดตัวแบตเตอรี่ LFP Blade Battery แบบใหม่ โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่แบบเดิมที่อยู่ในรถขายจริง ณ เวลานี้ มาตั้งแต่ปี 2020 ตรงที่ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม เล็กลงกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพเชิงพลังงานมากกว่าเดิม

และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ทางค่าย สามารถใช้เทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่แบบใหม่นี้ สร้างแบตเตอรี่แพ็คที่สามารถจุกำลังไฟมากถึง 190 kWh ได้ ในขณะที่แบตเตอรี่แบบปัจจุบันที่พวกเขาใช้อยู่ในรถขายจริง มีขนาดใหญ่สุดเพียง 82.56 kWh เท่านั้น เรียกได้ว่า สามารถจะพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่ากันเกิน 2 เท่าตัวเลยทีเดียว

ทั้งนี้ แม้ความสามารถในการผลิตแบตเตอรี่แบบใหม่ จะทำให้พวกเขาสามารถสร้างแบตเตอรี่แพ็คที่จุปริมาณไฟได้มากกว่าเดิมเกิน 2 เท่า แต่ตัวเลขระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จที่ทางค่ายระบุว่าแบตเตอรี่แพ็คลูกใหม่สามารถทำได้ จะอยู่ที่ราวๆ 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ ซึ่งไม่ได้เยอะกว่าแบตเตอรี่แพ็คแบบปัจจุบัน ที่มีการเคลมตัวเลขเอาไว้ราวๆ 700 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC แบบเดียวกัน

นั่นจึงหมายความว่า แบตเตอรี่แพ็คแบบใหม่ ที่สามารถนำมาใช้งานในรถยนต์ตัวขายจริง อาจไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่ถึง 190 kWh แต่อาจจะอยู่ที่ราวๆ 100-120 kWh เท่านั้น ซึ่งเข้าใจได้ว่าอาจเพื่อลดน้ำหนักแบตเตอรี่ให้เบาลง และระยะทางที่เคลมเอาไว้ ก็เกินพอแล้วต่อการใช้งานของลูกค้าส่วนใหญ่

เพราะหากเราจะเปลี่ยนค่าระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จ จาก 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC เป็นการคิดระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC ที่ประเทศไทยใช้อ้างอิง ระยะทางการใช้งานต่อชาร์จของแบตเตอรี่แบบใหม่ อาจหล่นลงมาอยู่ที่ราวๆ 930 กิโลเมตร/ชาร์จ

และหากเป็นการคิดระยะทางตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ที่ได้ชื่อว่าแข็งที่สุด ณ เวลานี้ ตัวเลขก็จะลดลงมาเหลือราวๆ 815 กิโลเมตร/ชาร์จ ซึ่งก็ยังถือว่าค่อนข้างน่าประทับใจอยู่ดี เพราะอย่างน้อยเราก็น่าจะสามารถใช้งานรถแบบเดินทางจาก กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ได้เลยโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟ

ส่วนระยะเวลาในการชาร์จไฟกลับเอง น่าเสียดายที่ทางผู้บริหารยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา แต่ถึงแม้ระยะเวลาในการชาร์จไฟ จาก 10-80% จะเท่าเดิม แต่มันก็หมายความว่า เราสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น เพราะแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั่นเอง

โดยกำหนดการเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบใหม่ คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้เป็นอย่างเร็ว หรืออย่างช้าสุดคือไม่เกินช่วงปลายปี 2024

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.