Home » Denza D9 พรีเมียม e-mpv ขายไทย ราคาเริ่ม 1,999,900 บาท
Evolution รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ

Denza D9 พรีเมียม e-mpv ขายไทย ราคาเริ่ม 1,999,900 บาท

หลังมีการโชว์ตัวและเปิดให้สื่อไทยได้สัมผัสคันจริงกันพักใหญ่ ในที่สุด เรเว่ ออโต้โมทีฟ เปิดตัวแบรนด์ Denza ในไทย อย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำ รถตู้ e-MPV Denza D9 วางจำหน่ายในประเทศไทย

Denza D9

Denza D9 รถเอ็มพีวีสุดหรู สำหรับผู้บริหาร และการใช้งานในครอบครัวใหญ่ พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในวันนี้หลังจากที่ได้มีการโชว์ตัวให้ชาวไทยได้เห็นกันมาตั้งแต่ช่วงปี 2023

โดยจุดขายสำคัญของตัวรถรุ่นนี้ เริ่มจาก งานออกแบบตัวรถที่เน้นความหรูหราอลังการ ในแนวคิด พายโมชั่น ไม่ว่าจะเป็นชุดกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมขนาบข้างด้วยกรอบกระจังสีเงินเส้นหนา ไฟหน้าแบบ LED Projector ข้างละ 2 ดวงพร้อมกรอบไฟ DRL, ชุดล้ออัลลอยด์หน้าปัดเงาขนาด 18 นิ้ว, เส้นตัวถังด้านข้าง เน้นการเพิ่มเหลี่ยมสันเล่นกับแสงเงาเพื่อเพิ่มความมีมิติให้กับตัวรถ, และด้านท้ายยังมีสปอยเลอร์หลังชิ้นยาว กับชุดไฟท้ายแบบ Cross Tail Light ติดมาให้ตามสมัยนิยม

Denza D9

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือลูกเล่นห้องโดยสาร ที่ต้องไล่กันก่อนด้วยประตูสไลด์ไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และยังมีระบบ Soft Close ให้กับประตูคู่หน้า, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมระบบอุ่นที่พวงมาลัย, จอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันความบันเทิงกับแอป Game Center, ระบบสั่งงานด้วยเสียง, สีภายในใหม่แบบ Broad-minded Rice

พร้อมเบาะนั่งแถวที่สองมาแบบ VIP Captain Seat จดจำตำแหน่งการนั่ง (Memory Seats) ระบบนวด เบาะอุ่น ระบายความร้อนควบคุมผ่านหน้าจอ Touch Screen พร้อมช่องวางโทรศัพท์ โต๊ะพับและที่วางแก้ว ตกแต่งด้วยวัสดุหนัง เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง และฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ทุกที่นั่งมีระบบอุ่นเบาะ มีพื้นที่ด้านหลังขนของได้ 410-570 ลิตร กรณีไม่พับเบาะ และถ้าพับเบาะ 2,310 ลิตร ระบายอากาศ และนวดเพื่อผ่อนคลาย

Denza D9

ทางด้าน สมรรถนะในการขับขี่ รุ่นที่ขายในไทย จะวางจำหน่าย 2 รุ่นด้วยกัน

โดยรุ่นเริ่มต้น เป็นเวอร์ชั่น มอเตอร์เดี่ยว ในรุ่น Premium ให้กำลังขับ สูงสุด 313 แรงม้า (PS) ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. 9.5 วินาที

ในส่วนของ Denza D9 Performance AWD มอบความเร้าใจในการขับขี่มากขึ้น ให้กำลังขับสูงสุด 373 แรงม้า แรงบิดสุงสุด 470 นิวตนันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 6.9 วินาที

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาด 103.36 Kw รองรับการชาร์จ AC 11 kW และ Dc สูงสุด 166 kW โดยรุ่น Premium มอบระยะทางต่อการชาร์จสูงสุด 600 ก.ม. และ รุ่น Performance ให้ระยะทางสูงสุด 580 ก.ม. ตามมาตรฐาน NEDC

ทางด้านจุดเด่นของตัวรถ อยู่ที่ช่วงล่าง โดยในรุ่นท๊อป Performance AWD มาพร้อมระบบกันสะเทือน ให้ความสบายในการโดยสารสูงสุด Disus-C (Dynamic Intelligent Suspension System)

ระบบจะปรับความแข็งอ่อนในระหว่างการขับขี่ เพื่อลดความกระด้างมอบความมั่นใจ และความสบายในการโดยสารสูงสุด ระบบ จะตรวจสอบผ่านเซนเซอร์ จากตัวรถอาการรถทั้งคัน เพื่อปรับการตอบสนองยุบและคืนตัว ผ่านโซลินอยด์ของโช๊คอัพ

ส่วนในรถรุ่น Premium ทาง Denza นำเสนอ ระบบช่วงล่าง ที่มาพร้อมกับ ระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติตามความเร็วในระห่างการขับขี่หรือ FSD

เบาะนั่งแถว 2 พร้อมฟังชั่นปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมเบาะนวด ในตัว และโต๊ะรับประทานอาหาร
ตู้แช่ในตัว สามารถทำอุณหภูมิต่ำสุด -6 องศาเซลเซียส และ สูงสุด 50 องศาเซลเซียส

โดยตัวรถ มอบระบบมาตรฐานช่วงล่าง ด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ระบบช่วงล่างหลัง มัลติลิงค์ และ ระบบดิสก์เบรก พร้อมจานระบายความร้อนทั้งหมด

ส่วนระบบความปลอดภัย ยังมาแบบ จัดเต็ม หลายรายการ เริ่มตั้งแต่

  • ระบบ ควบคุมการทรงตัว
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนเมื่อรถผ่านจุดอับสายตาทางด้านหลัง
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อรถผ่านจุดอับสายตาทางด้านหลัง
  • ระบบเตือนเมื่อรถผ่านจุดอับสายตาทางด้านหน้า
  • ระบบช่วยเบรกเมื่อรถผ่านจุดอับสายตาทางด้านหน้า
  • ระบบรักษารถอยู่ในช่องทางเดินรถ
  • ระบบกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ
  • ระบบควบคุมและป้องกันการพลิกคว่ำ

Denza D9 วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งสิ้น 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น Premium ราคาจำหน่าย 1,999,900 บาท
  • รุ่น Performance AWD ราคาจำหน่าย 2,699,000 บาท
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.