นับตั้งแต่ที่ทาง Kawasaki ได้มีการเผยโฉมโปรเจ็กท์พัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของตนเองเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2019 แต่นั้นมาพวกเขาก็ได้มีการอัพเดทข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโปรเจ็กท์รถมอเตอร์ไซค์พลังงานทางเลือกของตนเองออกมาเรื่อยๆ
และหลังจากที่ทางค่ายได้มีการเผยโฉมต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์ขุมกำลังไฮบริด กับขุมกำลังไฟฟ้า 100% ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดทางค่ายก็ได้มีการนำเจ้าต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากลับมาโชว์ตัวอีกครั้งในงาน Intermot ที่ประเทศเยอรมันนีเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย
โดยสำหรับตัวรถต้นแบบมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่ทางค่ายนำมาโชว์ตัวในครั้งนี้ ก็ยังคงมาพร้อมกับหน้าตาที่ไม่หนีไปจากรถ Kawasaki Z250 มากนักเช่นเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชุดแฟริ่งเปลือกนอกรอบคัน ตั้งแต่หัวจรดท้าย, ชุดระบบกันสะเทือน, ชุดล้อ, แม้แต่พักเท้าคนซ้อนก็ยังใช่
แต่สิ่งที่ต่างออกไปก็คือ เนื่องจากขุมกำลังของมันถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด จึงทำให้ชุดเฟรมแบบโครงเหล็กถักตรงกลาง ต้องถูกปรับรูปทรงใหม่ เพื่อให้เข้ากันกับขุมกำลังใหม่ และแหล่งพลังงานใหม่ซึ่งก็คือแบตเตอรี่ที่ถูกติดตั้งเข้ามา
อย่างไรก็ดี ต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันล่าสุดจาก Kawasaki ที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่ามันคือคนละคันกันกับที่พวกเขาเคยเผยโฉมมาแต่แรกเมื่อปี 2019 ที่ใช้เปลือกแฟริ่งของ Kawasaki Ninja 300 โดยสังเกตได้จาก แบตเตอรี่แพ็คที่เล็กลงอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ตัวมอเตอร์ก็เล็กลง, การเก็บงานสายไฟที่เรียบร้อยกว่ามาก และที่สำคัญ คือการที่มันไม่มีคันเกียร์ให้เตะอีกต่อไป เพราะมอเตอร์ไม่มีชุดเกียร์ใส่มาด้วยนั่นเอง
และเนื่องจากตัวรถทั้งสองคันที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ ยังเป็นเพียงรถต้นแบบเท่านั้น จึงทำให้ทาง Kawasaki ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคของมันออกมามากเท่าไหร่นัก แต่จากข้อมูลที่เราได้รับมา ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า มอเตอร์ของมัน อาจถูกสร้างมาให้มีสมรรถนะที่เทียบเคียงกับรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 125cc หรือถ้าให้เจาะจงลงไปอีกนิดก็คือ หลายฝ่ายคาดว่ามันจะสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ที่ราวๆ 15-16 PS
และหากอิงจากการที่ทาง Kawasaki ได้มีการจดทะเบียนหมายเลข VIN รถมอเตอร์ไซค์ปริศนา ที่ไม่มีการระบุเลขความจุเครื่องยนต์เอาไว้ และมีรหัสประจำตัวซึ่งบ่งบอกอยู่กลายๆว่ามันอาจจะมีพร้อมกับขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 100% สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วเป็นที่เรียบร้อย จึงทำให้ช่วงเวลาที่เร็วที่สุดในการเปิดตัวร่างขายจริงของมัน ก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินสิ้นปีนี้นั่นเอง
