Honda CR-V e:FCEV ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใครหลายคนให้ความสนใจ และล่าสุดมันก็พร้อมให้บุคคลทั่วไปได้ใช้งานแล้ว

คล้ายกับการดำเนินแผนการตลาดของ Honda e:N1 ในไทย สำหรับ Honda CR-V e:FCEV ที่ในเร็วๆนี้ กำลังจะมีการทำตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือหากให้เจาะจงในวงแคบลงอีกนิด คือเหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะในพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น จะถูกทำตลาดโดยใช้วิธีการปล่อยเช่าเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีการวางจำหน่ายแบบขายขาดให้กับลูกค้าแต่อย่างใด

โดยเบื้องต้น สัญญาเช่าที่ทาง Honda USA เตรียมเปิดให้ลูกค้าที่สนใจได้เช่ารถ CR-V e:FCEV ไปใช้งาน ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ ตามระยะเวลาสัญญา ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อเสนอย่อยที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

เริ่มจากสัญญา 2 ปี ที่จะมีการคิดค่าบริการเช่ารายเดือนที่ 489 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 18,000 บาท ต่อเดือน โดยที่ก่อนหน้านั้นจะมีค่าลงทะเบียนใช้งานที่ต้องจ่ายก่อนอยู่ 2,989 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 110,000 บาท ในตอนแรก เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายตลอดสัญญาจะอยู่ที่ราวๆ 542,000 บาท

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในสัญญาการเช่า จะมีการจำกัดระยะทางในการวิ่งตลอดสัญญาที่ไม่เกิน 60,000 ไมล์ หรือราวๆ 96,500 กิโลเมตร แถมที่สำคัญที่สุดคือยังมีเครดิตเชื้อเพลิง (เครดิตเติมไฮโดรเจน) อีก 25,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 920,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป

Honda CR-V e:FCV

ถัดมาคือสัญญา 3 ปี ที่จะมีค่าสัญญาแรกเข้า 2,959 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 109,000 บาท ซึ่งถูกกว่าสัญญา 2 ปี เล็กน้อย ส่วนค่าเช่ารายเดือนก็จะอยู่ที่ 459 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 16,900 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายตลอดสัญญา (ไม่รวมส่วนต่างยิบย่อยอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างสัญญา) จะเริ่มต้นที่ราวๆ 717,000 บาท

แต่ที่น่าแปลกใจคือ คราวนี้ ตัวสัญญาจะจัดกัดระยะทางในการใช้งานตลอดระยะเวลา 3 ปี ไว้แค่เพียง 36,000 ไมล์ หรือราวๆ 58,000 กิโลเมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าน้อยกว่าสัญญา 2 ปี แต่ก็เข้าใจได้ว่าสัญญา 3 ปีเหมาะสำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ทั่วไปมากกว่า ในขณะที่สัญญา 2 ปี จะเหมาะกับผู้ใช้งานที่จะนำรถไปให้บริการรับ-ส่งลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Uber เป็นต้น

นั่นจึงทำให้เครดิตเชื้อเพลิง หรือวงเงินเครดิตสำหรับการเติมก๊าซไฮโดรเจน จะลดลงตามด้วย นั่นคือเหลือเพียง 15,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 552,000 บาท ตลอดสัญญาเท่านั้น

Honda CR-V e:FCV

ดังนั้น ในเมื่อสัญญา 3 ปี ดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับสัญญา 2 ปี ท้ายที่สุดสัญญาที่ดูจะเหมาะกับการใช้งานของคนทั่วไป จึงอาจจะเป็นสัญญาระยะยาว 6 ปี ซึ่งจะมีค่าสัญญาแรกเข้าที่ 2,889 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 106,500 บาท ตามด้วยค่าสัญญารายเดือนอีก 389 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 14,300 บาท ซึ่งเท่ากับว่าจะมีค่าใช้จ่ายตลอดสัญญาที่ราวๆ 1,137,000 บาท

ส่วนระยะทางในการใช้งาน จะจำกัดไว้ที่ 115,800 กิโลเมตร ตลอดสัญญา และมีเครดิตเชื้อเพลิงที่ 30,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 1,104,000 บาท เรียกได้ว่าแทบจะใช้รถฟรีกันเลยทีเดียว

Honda CR-V e:FCV

นอกจากเครดิตน้ำมัน ในความเป็นจริงแล้วทาง Honda ยังให้บริการ Roadside Assistance 24/7 (24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ต่อสัปดาห์) และรถทุกคัน จะได้รับการติดสติ๊กเกอร์พิเศษ ที่เป็นการบ่งบอกว่ารถแต่ละคันสามารถนำไปใช้วิ่งในเลนพิเศษสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนได้อีกด้วย

ติดแค่เพียง ลูกค้าที่สนใจในตัวรถ Honda CR-V e:FCEV จะสามารถเข้ารับบริการได้เฉพาะศูนย์บริการ Honda เพียง 12 สาขาที่กระจายตัวอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น เช่นเดียวกัน สถานีเติมก๊าซไฮโดรเจนเองก็มีทั้งหมดเพียง 48 แห่งเท่านั้น ในรัฐดังกล่าว ณ เวลานี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่