นับตั้งแต่ Honda ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สร้างเครื่องยนต์ให้กับทีมแข่ง Red Bull Racing นั่นก็ทำให้เกิดคำถามตามมาในทันทีว่า แล้วทีมแข่งจะใช้เครื่องยนต์ของใครเป็นรายต่อไป ซึ่งคำตอบนั้นก็มาได้ข้อสรุปเป็น “Ford”
ใช่ครับ แม้ในการแข่งขันปี 2022 ที่ผ่านมา และในปี 2023 นี้ ทาง Red Bull Racing จะระบุว่าพวกเขาใช้เครื่องยนต์จาก
Red Bull Powertrains ซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องยนต์ที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมาเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทีมสร้างที่ว่านี้ กลับยังคงใช้เครื่องยนต์จาก Honda มาต่อยอดกันอยู่ ซึ่งหากว่าความเป็นจริง พวกเขาก็คงไม่สามารถยื้อกันไปได้อีกนานเท่าไหร่นัก กับเวทีที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้
ดังนั้น ทาง Red Bull Racing จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหาผู้ผลิตรายใหม่ ที่จะเข้ามารับหน้าที่ตรงนี้โดยเฉพาะ ซึ่งในการประกาศข้อมูลเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ก็ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นทาง Ford บริษัทผู้ผลิตสัญชาติอเมริกัน ที่จะกลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Formula 1 อีกครั้งในรอบ 20 กว่าปี หลังจากที่พวกเขาเคยถอนตัวไปเมื่อปี 2004
“นี่คือจุดเริ่มต้นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นของ Ford ในโลกมอเตอร์สปอร์ตที่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่คุณทวดของผมได้คว้าชัยชนะซึ่งช่วยผลักดันบริษัทของเรามาจนตอนนี้” Bill Ford ประธานกรรมการบริษัทกล่าว ในงานแถลงข่าวเปิดตัวการเป็นผู้สร้างเครื่องยนต์ตัวแข่ง Formula 1 ให้กับ Red Bull Racing ของ Ford
“Ford ได้กลับมาอีกครั้งในเวทีขั้นสูงสุดของกีฬา(แข่งรถ), นำพาซึ่งธรรมเนียมแห่งการคิดค้นอันยาวนานของ Ford, ความยั่งยื่น และเทคโนโลยีไฟฟ้า สู่หนึ่งในเวทีที่สามารถเข้าถึงได้มากที่สุดของโลก”
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการประกาศข้อตกลงตั้งแต่ปี 2023 ทว่า ช่วงเวลาที่ทาง Ford จะเข้ามารับหน้าที่ เป็นผู้สร้างเครื่องยนต์ตัวแข่ง Formula 1 ให้กับทีม Red Bull Racing จริงๆ คือในช่วงปี 2026 ซึ่งเป็นปีที่ทางคณะกรรมการจะทำการปรับกติกาตัวแข่งใหม่อีกครั้ง
โดยเฉพาะในเรื่องของขุมกำลังที่ถูกปรับรายละเอียดต่างๆใหม่ทั้งหมด ทั้งในเรื่องของการใช้เชื้อเพลิง ความประหยัด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพึ่งพาระบบ MGU-K (Kinetic Motor Generator Unit) ที่มีพละกำลังมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า จนคาดว่าพละกำลังรวมที่ได้อาจขยับขึ้นมาจนแตะหลัก 1,000 แรงม้า ซึ่งทาง Ford จะทำได้อย่างประสบความสำเร็จหรือไม่ ? ก็ต้องรอติดตามดูกันต่อไป