Home » 2023 Honda CR-V เปิดตัว ขายไทย เคาะราคาเริ่ม 1,419,000 บาท
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ

2023 Honda CR-V เปิดตัว ขายไทย เคาะราคาเริ่ม 1,419,000 บาท

ฮอนด้า เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Honda CR-V ใหม่ แนะนำ รุ่น 1.5 เทอร์โบ และ ไฮบริด เผย ราคาจำหน่าย 1,419,000 บาท

Honda CR-V ใหม่ นำเสนอ ตัวรถ ด้วยงานออกแบบ สปอร์ตพรีเมี่ยม ตั้งแต่ด้านหน้า จรดบั้นท้าย เสริมเสน่ห์ ความสปอร์ต ตอบตลาด ชอบ

ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม แข็งแกร่งในทุกมิติ ผสานฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว

  • Piano Black และกระจังหน้าสีดำ Piano Black ตกแต่งด้วยโครเมียม (เฉพาะรุ่น E)
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
  • LED และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • เปิดมุมมองใหม่ที่พรีเมียมยิ่งขึ้นกับหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบ
    ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
    (Hands-Free Power Tailgate with Walk Away Close)
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสคู่
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้นด้วยดีไซน์สุดเอกซ์คลูซีฟรอบคัน

(รุ่น e:HEV RS 4WD)

  • เสริมเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้า 
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำ Piano Black 
  • กันชนหน้าและหลังสีเดียวกับตัวรถ
  • ชายกันกระแทกด้านข้างสีเดียวกับตัวรถ
  • คิ้วตกแต่งประตูข้างสีดำ Gloss Black
  • ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED 
  • สปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวรถและสีดำ Piano Black 
  • เสาอากาศครีบฉลามสีดำ Piano Black 
  • ล้ออัลลอย 19 นิ้ว แบบสปอร์ต 

ส่วนในห้องโดยสาร มุ่งเน้นในการนำเสนอ ประสยการณ์ในการเดินทาง ที่ลงตัว ยกระดับ ความพรีเมีน่มอีกขั้นร ด้วยการะเลือกใช้ วัสดุในห้องโดยสาร ที่มีความโดดเด่น พรีเมีย่ม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานแนวคิดระหว่างการใช้วัสดุคุณภาพสูงและความอเนกประสงค์
ในการใช้งาน โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายในที่พรีเมียม แตกต่างกันในแต่ละรุ่น

เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมเต็มขั้นกับรุ่น RS (รุ่น e:HEV RS 4WD)

  • ลายอะลูมิเนียมปัดเงาและสีดำ Piano Black
  • Honda Smart Key Card (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • Driver Memory Seat)
  • Ambient Light) ที่ได้รับการติดตั้งในหลายตำแหน่งเป็นครั้งแรกใน ซีอาร์-วี อาทิ ถาดคอนโซลกลาง แผงประตูหน้าและหลัง และที่วางแก้ว
  • Plasmacluster (รุ่น e:HEV ES และ e:HEV RS 4WD)
  • i-Dual Zone (เฉพาะรุ่น
    e:HEV RS 4WD)
  • 3 (เฉพาะรุ่น EL 4WD)
  • LED แบบสัมผัส

พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะโดยสารแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับ
การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมพื้นที่สัมภาระท้ายที่กว้างขวาง

  • (Rear Seat Sliding) เลื่อนและแยกพับแบบ 60:40
  • 5 ที่นั่ง เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้าน สามารถปรับพับลงแนวราบได้เรียบ (Utility Mode) ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลัง (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • 7 ที่นั่ง (เฉพาะรุ่น EL 4WD) สามารถปรับพับเบาะด้านหลังแถวที่ 3 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้ายในขณะที่ผู้โดยสารแถว 2 สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือปรับพับเบาะทั้งแถวที่ 2 และ 3 ลงแนวราบ (Utility Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย และสามารถปรับพับเบาะด้านหน้าและด้านหลังทั้งแถวที่ 2 และ 3 (Long Mode) เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว

เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ต กับหลากหลายเทคโนโลยีอันล้ำสมัย*

  • ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD)
  • Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
  • TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น E ขนาด 7 นิ้ว)
  • (Wireless Charger)
  • USB 4 ตำแหน่ง (USB Type-C 3 ตำแหน่ง ได้แก่ ด้านหน้า 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง
    2 ตำแหน่ง)

สำหรับ All New Honda CR-V ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลัง ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังขับ สูงสุด 190 แรงม้า มอบแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ให้อัตราประหยัด สูงสุด 14.3 ก.ม./ลิตร

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบชาาร์จ ทางฮอนด้า ยังนำเสนอ ระบบเคลื่อน e:HEV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมกับพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร ให้อัตราประหยัดน้ำมัน สูงสุด 20.8 ก.ม./ลิตร (ในรุ่น e:hev ES)

ไม่เพียงเท่านี้ รถยังมาพร้อม ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (Real Time(TM) AWD with E-DPS)

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของกล้องด้านหน้าและเรดาร์ ในการตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ครั้งแรกกับระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS 4WD) ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถด้านหน้าและคนเดินถนน
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)

พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่อื่น ๆ* อาทิ

  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) (ยกเว้นรุ่น E)
  • เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
  • ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
  • Honda LaneWatch)
  • Driver Attention Monitor)
  • Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV ES และ
    e:HEV RS 4WD)
  • Paddle Shift)

Honda CR-V ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด5 รุ่นย่อย ดังนี้

สำหรับ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมข้อเสนอพิเศษเมื่อจองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 –
31 พฤษภาคม 2566 ฟรีประกันภัย 1 ปี รับดอกเบี้ย 2.29%** พร้อมฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.