ก่อนที่ไทยจะเปิดตัวในวันที่ 16 สิงหาคม ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียเปิดตัวก่อนหน้าไทยไปแล้วสำหรับ Toyota Alphard เจนที่ 4
โดยเวอร์ชันที่ขายในแดนอิเหนาเน้นทำตลาดเพียงไฮบริดและเบนซินล้วนซึ่งต่างจากไทยที่จำหน่ายไฮบริดอย่างเดียวกับ 2 ขุมพลังแรงเริ่มที่เบนซินล้วน 2.5 ลิตร Dual VVT-I ในรหัส 2AR-FE ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด และยังมีเบนซิน Hybrid ใหม่รหัสใหม่ A25A-FXS 2.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลัง และแบตเตอรี่ Nickel-Metal เทคโนโลยีเด่นของค่ายเมื่อทำงาร่วมกันให้กำลังมากสุด 250 แรงม้า คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT แต่จะขายเพียงรุ่นขับหน้าเท่านั้น
ดีไซน์หรูปรับสไตล์คล้ายกับไทยตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมพร้อมโลโก้สามห่วงไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟ Daytime Running Lights ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบวิ่ง Sequential ชุดกันชนหน้า-หลังดีไซน์หรู ไฟตัดหมอกหน้า LED เสาประตูคู่หน้าตรงเสา B ติดสัญลักษณ์ Alphard เสริมคิ้วโครเมียมเด่นปริเวณกรอบกระจกที่เปิดประตูโครเมียม ด้านท้ายดูดีกว่าเดิมด้วยชุดแผงป้ายทะเบียนติดตรา Alphard ประดับด้วยไฟท้าย LED แบบเป็นเกล็ดเสริมขอบโครเมียมไว้กรอบไฟท้าย ประตูสไลด์และฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า หลังคามูนรูฟ 2 บานตรงกลางซ้าย-ขวา ล้ออัลลอยมีต้ั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว และใหญ่สุด 19 นิ้ว
ภายในอลังการกับงานออกแบบหรูออปชันครบทั้งจอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ 14 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อผ่านแอป T-Connect เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Andorid Auto ถัดลงมาเป็นปุ่มการทำงานของจอสัมผัสและเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ พร้อมมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display รวมถึงชุดเบาะนั่ง VIP Captain Seat ดีไซน์หรูโอบกระชับกว่าเดิม มีจอการทำงานดีไซน์คล้ายกับสมาร์ตโฟนขนาด 5.5 นิ้ว ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light LED 64 สีบนหลังคา และ ลำโพงคุณภาพพรีเมียม JBL 15 จุด ช่องชาร์จแบบเสียบสายผ่าน USB-C ทั้ง 2 จุด กับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
Toyota Alphard สเปกอินโดนีเซียจำหน่ายสามรุ่นย่อยทั้งรุ่นเบนซินล้วน 2.5 X Sport Order, 2.5 X และไฮบริด 2.5 HEV เริ่ม Rp.1,356,100,000-1,657,000,000 หรือราว 3,129,000-3,825,000 บาท