หลังการโผล่ภาพสปายช็อตอย่างต่อเนื่องในช่วงขวบปี และก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน ก็มีการเผยภาพทีเซอร์ ล่าสุด All-New 2024 BMW X2 ก็ได้ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการสักที

BMW X2 รุ่นใหม่ โฉมปี 2024 ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ของตระกูล หลังจากที่โฉมแรกของมันได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2017 และเช่นเดียวกับรุ่นพี่ เจ้ารุ่นน้องคันนี้ ก็จะใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันกับ BMW X1 แต่เพื่อเสริมความสปอร์ต และความดุดันให้มากขึ้นกว่าคู่แฝด รวมถึงรุ่นพี่ คราวนี้มันจึงได้หน้าตาใหม่ที่ดูเหมือนจะถูกใจวัยรุ่นขึ้นอีกมาก

ทั้งกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมกรอบแบบใหม่ ด้วยสันมุมด้านข้าง ที่อยู่กึ่งกลางความสูงของกระจังหน้าแบบพอดิบพอดี และไม่ลืมที่จะวางระนาบไว้ตรงกับแนวขอบล่างของไฟหน้าเช่นเดียวกับโฉมก่อนหน้า

ส่วนกันชนหน้าก็ใช้เส้นงานออกแบบที่เป็นเหลี่ยมสันเข้ากับชิ้นส่วนอื่นๆ และที่ชายล่างยังมีการทำรูปทรงให้เป็นจงอยยื่นนิดๆเพื่อตัดลม และช่วยสร้างแรงกดไปในตัว แม้แต่ฝากระโปรงด้านบนเอง ยังมีการปั๊มขึ้นรูปที่ไม่ได้ช่วยแค่ในเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการรีดอากาศจากด้านหน้าตัวรถอีกด้วย

เส้นข้างตัวถังถูกยกระดับให้สูงขึ้น ชุดแก้มขข้างเอง ก็ถูกทำให้ดูมีมิติเป็นโป่งยื่นออกมาด้านข้างมากกว่าเดิม เสริมกับชุดล้อที่ดูใหญ่โตเต็มซุ้มมากขึ้น ด้วยขนาดใหญ่สุดถึง 21 นิ้ว เป็นครั้งแรกในรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กของแบรนด์

และดูเหมือนแนวหลังคาเองก็จะถูกบีบลงอีกหน่อย ทว่านั่นก็เพื่อให้รับกับแนวช่วงเครื่องหลังที่ถูกปรับจากแบบกึ่งท้ายลาด ในลักษณะของรถแฮชท์แบก กลายเป็นรถคูเป้แบบรุ่นพี่ X4 / X6 เต็มตัว

นอกจากนี้ยังไม่ลืมที่จะใส่ลิปสปอยเลอร์เหนือฝาท้าย (อาจไม่ได้ใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อย) และไฟท้ายเองก็ยังปรับดีไซน์ใหม่ โดยใช้เกล็ดไฟด้านในเหมือนไฟหน้า ซึ่งดูแปลกตาอย่างลงตัว และกันชนท้ายเองก็ดูดุดันด้วยปลายท่อไอเสียแบบออก 4 รู แยกฝั่งละ 2 ซ้าย-ขวา (แต่อาจไม่ได้ใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อยเช่นกัน)

ฝั่งเลขมิติตัวรถ มีตัวเลขด้านยาว 4,554 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,844 มิลลิเมตร และ สูง 1,590 มิลลิเมตร ส่วนฐานล้อยาว 2,692 มิลลิเมตร กว้าง 1,582 มิลลิเมตร โดยสองค่าหลังเท่ากันกับ BMW X1 พอดิบพอดี ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมันใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน และช่วงล่างเอง ก็มีชิ้นส่วนหลักๆเหมือนๆกันนั่นเอง

ภายในห้องโดยสารน่าเสียดายที่แทบไม่มีความโดดเด่นเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับภายนอก เพราะมันได้ถูกยกมาจากคู่แฝดร่างอเนกประสงค์ X1 มาเกือบทั้งชุด โดยเฉพาะชุดคอนโซลหน้า ทั้งหมด ตั้งแต่หน้าจอมาตรวัด เชื่อมต่อกับหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ จัดการควบคุมด้วยระบบซอฟท์แวร์ BMW Operating System 9 และช่องแอร์ คอนโซลกลาง พวงมาลัย ก็ยังคงมีหน้าตาเหมือนกับคู่แฝดทั้งหมด

แต่ทั้งนี้ ในฝั่งเบาะนั่ง ดูเหมือนจะได้รับการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย ด้วยงานออกแบบรูปทรงเบาะที่มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีเบาะนั่งหุ้มหนังกลับสไตล์ M ให้เลือกซื้อเพิ่ม และเพื่อให้ถูกใจชาวรักษ์โลก วัสดุหนังหุ้มเบาะและชิ้นส่วนต่างๆ จึงเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นจากพืช หรือวัสดุสังเคราะห์ทั้งหมด ไม่มีการใช้หนังแท้จากสัตว์แต่อย่างใด

ขุมกำลังของตัวรถ มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง X2 sDrive18d ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 148 HP แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร, X2 sDrive20i เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเรียง 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Mild Hybrid ให้กำลังรวมสูงสุด 168 HP แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร โดยเครื่องยนต์ของทั้งสองรุ่นนี้จะส่งกำลังไปยังชุดล้อคู่หลัง ผ่านระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีด

นอกจากนี้ ยังมี X2 xDrive28i ซึ่งเป็นรุ่นย่อยที่มีไว้จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ และมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 241 HP และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีดเช่นกัน แต่จะกระจายกำลังไปยังชุดล้อทั้ง 4 แทน ตามชื่อระบบขับเคลื่อนแบบ xDrive

และสุดท้ายคือรุ่น X2 M35i xDrive ที่ได้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ เช่นกัน แต่ถูกปรับจูนใหม่ จนสามารถทำแรงม้าได้มากขึ้น เป็น 312 HP และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Steptronic กระจายกำลังไปยังชุดล้อทั้ง 4 ด้วยระบบ xDrive และมีระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปใส่มาให้ด้วยตั้งแต่ออกโรงงาน

ทั้งนี้ สำหรับการวางจำหน่ายตัวรถ BMW X2 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ในประเทศไทย ยังไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ทั้งสิ้น แต่หากประเมินจากความเป็นไปได้ในอดีตที่ผ่านมา คาดว่ามันจะถูกนำมาเปิดตลาดในประเทศไทย ช้ากว่าในทวีปยุโรปและอเมริการาวๆ ครึ่งปีถึงหนึ่งปี หรือก็คือจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีหน้าเป็นอย่างเร็ว