ถึงแม้สหรัฐอเมริกาจะทำตลาดช้ากว่าไทย ยุโรป และออสเตรเลียสำหรับ Ford Ranger แต่การเปิดตัวที่ช้านั้นมีสิ่งพิเศษที่เหนือกว่าเวอร์ชัน Global
นั่นก็คือจะขายเพียงเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost เท่านั้น เลือกได้ถึง 2 ขนาดตั้งแต่ 4 สูบ 2.3 ลิตร 274 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตรและถ้าไม่ชอบใจในด้านกำลังยังมี 2.7 ลิตร V6 ให้กำลังสูงสุด 319 แรงม้า แรงบิด 542 นิวตันเมตร มาให้โดยทั้งสองจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับสองยกสูงกับขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time พร้อมโหมดการขับขี่ Terrain Management System ที่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด Normal, Eco, Tow/Haul, Slippery ในรุ่น 4×4 เพิ่มมาอีกสองโหมดสำหรับลุยทั้งโหมด Sand และ Mud/Ruts พร้อมดิฟล็อกแบบไฟฟ้า
ภายนอกนั้นเหมือนเวอร์ชันไทยทุกประการเพียงแต่แตกต่างกันเล็กน้อยทั้งดวงไฟเล็กๆตรงคิ้วขอบล้อด้านหน้าซ้าย-ขวา กระจกหลังเลื่อนเปิด-ปิดได้ และ ไฟเบรกดวงที่ 3 ย้ายไปอยู่ที่ขอบบนกระจกท้ายจากเดิมจะอยู่ชุดเดียวกับที่เปิดกระบะท้าย
แต่อย่างอื่นเหมือนไทยทั้งกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมสีดำไฟหน้า Projetor แบบ LED และ Matrix LED ให้เลือกพร้อมไฟส่องเวลากลางวัน LED Daytime รูปตัว C ในโคมเดียวกันในชุดกันชนหน้าทรงเข้มติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า LED ล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะขนาด 17 นิ้ว และขนาด 18 นิ้ว ที่เหยียบข้างกระบะท้าย ไฟท้ายสีขาวแดง LED และกันชนหลังติดมาให้จากโรงงาน
ภายในเหมือนเวอร์ชันไทยทุกประการทั้งหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC4A® รุ่นล่าสุด FordPass Connect เชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง แสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถได้อย่างชัดเจน เชื่อมต่อ Apple Car Play ไร้สาย Android Auto และ Bluetooth ลำโพง 6 จุด
เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา มาตรวัดสีและดิจิทัล ขนาด 8 กับ 12.4 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับสูงต่ำได้ 6 ทิศทางสำหรับคนขับ และ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง และปรับด้วยไฟฟ้าคู่หน้า 8 ทิศทาง หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ปุ่ม Push Start แท่นชาร์จไฟไร้สาย แต่ไม่มีที่วางแก้วบริเวณใต้ช่องแอร์ในชุดแผงคอนโซลหน้าและช่องแอร์ด้านหลัง
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่มีมาให้นั้นก็ถือว่าไม่แพ้กันทั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่รองรับการเตือนส่วนพ่วงท้ายด้วย ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อม Stop & Go และช่วยจอดอัตโนมัติ รองรับการบรรทุกด้านท้ายและการต่อพ่วงด้วย 2 ตัวช่วยอย่าง Pro Trailer Backup Assist และ Trailer Reverse Guidance ซึ่งใช้กล้องเพื่อแสดงภาพโดยรอบ เพื่อแจ้งเตือนแในการควบคุมส่วนพ่วงท้าย
Ford Ranger เจนใหม่นี้มีหลายเกรดตั้งแต่รุ่น XL, XLT, Lariat เปิดรับจองแล้วและขายจริงตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนนี้ ในราคาเริ่มต้น $34,160 หรือราว 1,155,000 บาท โดยมาในร่างสี่ประตู
