พึ่งจะเปิดตัวที่อเมริกาไปได้ไม่นาน จีน เปิดตัวตามมาติดๆกับ Toyota Camry เจเนอเรเชีนที่ 9 อย่างเป็นทางการที่งาน Guangzhou Auto Show
ตัวรถแน่นอนว่าสร้างจากพื้นฐานแพลตฟอร์ม TNGA-K เรื่องหน้าตาคล้ายกันต่างที่รายละเอียดปลีกย่อยตั้งแต่ชุดกระจังหน้ากริตเตอร์ขอบใหญ่ปีกซ้ายขวาดีไซน์เอกลักษณ์ค่ายสามห่วงพร้อมตราโลโก้สอดรับกับชุดไฟหน้า LED ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED รูปตัวเลขเจ็ดและไฟเลี้ยววิ่งแต่กันชนหน้าสำหรับรุ่นปกติคนละแบบกับเวอร์ชันอเมริกาจะเป็นช่องระบายแบบทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนและรุ่นสปอร์ตเท่จะแบบเดียวกับอเมริกาด้วยช่องระบายอากาศแนวนอนพร้อมสเกิร์ตทรงเท่ตกแต่งสีดำทั้งหมด
ด้านข้างคล้ายกับ Camry เจนที่ 8 ทั้งเส้นสายข้างประตู กระจกมองข้างทรงสปูน คิ้วขายล่างทรงสวย ไฟท้าย LED ดีไซน์เรียวรูปตัวซีพร้อมคิ้วกรอบป้ายทะเบียนสีดำและสีเดียวกับตัวรถติดตัวอักษร Camry มีตรา HEV และสปอยเลอร์หลังดีไซน์เพรียวเล็ก กันชนหลังออกแบบให้มีความสปอร์ตและด้านข้างเล่นระดับอย่างดูดีและมีลิ้นสปอยเลอร์ในตัว ล้ออัลลอยขนาด 17-19 นิ้ว
ภายในหรูขึ้นดูดีตั้งแต่ชุดอคนโซลหน้าดีไซน์เป็นหนึ่งเดียวทั้งชุดมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 กับ 12.3 นิ้วจอสัมผัสขนาดใหญ่กลับมาวางตำแหน่งแบบไม่ลอยตัวแล้วขนาด 8 กับ 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ลำโพงคุณภาพทั้งแบบ OEM และ JBL รอบคัน จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าหรือ Head Up Display 10 นิ้ว เบาะนั่งหุ้มวัสดุกึ่งหนังแท้ทั้งแบบสีดำ หรือสีน้ำตาล ตามบุคลิกของแต่ละรุ่น ปรับไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบความจำ ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้านุ่มสบายผ่อนคลายด้านคนขับ ระบบอุ่นและระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า มาพร้อมพนักพิงศีรษะเบาะหน้าด้านซ้ายพับเก็บได้ เบาะหลังพับได้ 60/40 ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา และด้านหลังพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe อุปกรณ์ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายรองรับระบบการชาร์จแบบ Qi ชาร์จสะดวกพร้อมช่องต่อ USB Type C ด้านหลัง 2 ช่อง
สเปกจีนเน้นไฮบริดด้วยเบนซิน 2.0 ลิตร รหัส M20A-FXS ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 151 แรงม้า แรงบิด 190 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า ในรุ่น E-Four พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 196 แรงม้าทุกขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS 178 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร ในภาคเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวขับเคลื่อนล้อหน้าเพลาหน้าให้กำลังรวมถึง 225 แรงม้า และยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สามที่เพลาล้อหลังให้กำลังรวม 232 แรงม้า ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ยังไม่เผยเรื่องขนาดความจุ จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Sequential Shift
และเบนซินล้วนไร้ถ่านยังขายอยู่กับ รหัส M20A-FKS 2.0 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT แบบ Direct Shift 10 สปีด พร้อม Paddle Shift แต่ไร้เงา ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 209 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT ช่วงล่างอิสระสี่ล้อ พัฒนาใหม่ปรับในส่วนโช้คอัพและปรับแต่งส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อการขับขี่ที่นุ่มเกาะโค้งเยี่ยม พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 โดยทาง GAC Toyota ผู้จำหน่ายที่จีนจะประกาศราคาเร็วๆนี้ ส่วนไทยพบกันปีหน้า