หลังปล่อยให้เหล่าคู่แข่งตีตลาดด้วยการปรับโฉมรถกระบะครั้งใหญ่กันหลายราย ล่าสุดก็ถึงเวลาที่เจ้าตลาดอย่าง Toyota Hilux Revo 2024 จะได้รับการปรับโฉมใหม่บ้าง โดยมีไฮไลท์สำคัญทั้ง การปรับหน้าใหม่ของ กระบะ Smart-Cab รุ่น Pre-Runner / 4×4 กับขวัญใจสายซิ่ง Z-Edition และท้ายสุดคือตัวเรือธง อย่าง Hilux Revo GR-Sport 4×4
ในงานเปิดตัว New Toyota Hilux Revvo 2024 พร้อมธีม “Hilux Generation” มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “นับตั้งแต่เปิดตัว IMV รุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้มีการส่งมอบรถ IMV ให้กับลูกค้าชาวไทยแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านคัน
ซึ่งนอกจากประสบความสำเร็จด้วยการขายภายในประเทศแล้ว เราได้ส่งออกรถในโครงการ IMV กว่า 4 ล้านคัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่น ๆ กว่า 120 ประเทศ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนการผลิตภายในประเทศ
เป็นการตอกย้ำว่าโครงการ IMV มีส่วนช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานให้แก่คนไทย “ผมเชื่อว่า ด้วยความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยในโครงการ IMV และ แบรนด์โตโยต้า พร้อมด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนโครงการ IMV ถูกขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน”
ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประสบความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้ภาพรวมตลาดลดลง 9% โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่มียอดขายลดลงถึง 32% อย่างไรก็ตาม รถกระบะ HILUX REVO กลับมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ทำให้ภาพรวมของส่วนแบ่งการตลาดของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และจากที่ HILUX CHAMP ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าส่งผลให้ปีนี้ โตโยต้ายังได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถกระบะและสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 47% ในช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นใจของคนไทยในรถกระบะ HILUX และแบรนด์โตโยต้า แต่ในขณะเดียวกัน เราจะไม่หยุดลงทุนเพื่อพัฒนา และมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าชาวไทย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานรถกระบะที่สามารถตอบโจทย์ ตั้งแต่กลุ่มขนส่งหนักขนส่งเบา และกลุ่มที่ใช้เป็นรถส่วนบุคคล”
โดยตอนนี้ รถยนต์ Toyota Hilux ทุกรุ่น จะได้รับการปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ Euro5 ตามข้อบังคับของภาครัฐโดยไม่ทำให้สมรรถนะของเครื่องยนต์ด้อยลงจากเดิม และยังคงมีขุมกำลังหลักให้เลือกทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังเดิม ได้แก่
- เครื่องยนต์ 2GD-FTV ดีเซล 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC พ่วงระบบ VN Turbo และ Intercooler ขนาดความจุ 2,393cc ยังคงให้กำลังสูงสุดเท่าเดิมที่ 150 PS ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 2,800 รอบ/นาที พร้อมตัวเลือกระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 หรือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปยังชุดล้อคู่หลังเท่านั้น แล้วแต่รุ่นย่อย
- เครื่องยนต์ 2GD-FTV (High) ดีเซล 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC พ่วงระบบ VN Turbo และ Intercooler ขนาดความจุ 2,393cc ยังคงให้กำลังสูงสุดเท่าเดิมที่ 150 PS ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมระบบส่งกำลังแบบชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift ไปยังชุดล้อคู่หลังเท่านั้น
- เครื่องยนต์ 1GD-FTV (High) ดีเซล 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC พ่วงระบบ VN Turbo และ Intercooler ขนาดความจุ 2,755cc ยังคงให้กำลังสูงสุดเท่าเดิมที่ 204 PS ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 3,400 รอบ/นาที
พร้อมทางเลือก ระบบส่งกำลังแบบชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift หรือชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปยังชุดล้อคู่หลัง หรือผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time (มีระบบล็อคเฟืองท้ายติดตั้งมาให้พร้อมสรรพจากโรงงาน) แล้วแต่รุ่นย่อย - เครื่องยนต์ 1GD-FTV (High) ดีเซล 4 สูบเรียง 16 วาล์ว DOHC พ่วงระบบ VN Turbo และ Intercooler ขนาดความจุ 2,755cc ยังคงให้กำลังสูงสุดเท่าเดิมที่ 204 PS ที่ 3,000 – 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 -2,800 รอบ/นาที
พร้อมทางเลือก ระบบส่งกำลังแบบชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift ทำงานร่วม ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Part Time (มีระบบล็อคเฟืองท้ายติดตั้งมาให้พร้อมสรรพจากโรงงาน) เท่านั้น
และเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ สำหรับตัวรถ Toyota Hilux Revo โฉมปี 2024 ทุกรุ่นย่อย จะได้รับการติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) และ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC) มาให้เหมือนกันทั้งหมด
ส่วนรายละเอียดการปรับเปลี่ยนตัวรถ ใน 3 รุ่นไฮไลท์หลัก ของการปรับโฉม Toyota Hilux Revo โมเดลปี 2024
ก็จะเริ่มจาก Hilux Revo Z Edition ทั้งรุ่น Double cab และ Smart cab ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ และกันชนหน้าใหม่ที่ช่วยให้ตัวรถดูดุดันมากยิ่งขึ้น มีชุดไฟตัดหมอกคู่หน้า ไฟหน้ารมดำ และในรุ่น MID จะได้รับการตกแต่งเสริมด้วยวัสดุภายนอกรอบคันเป็นสีดำเมทัลลิก เพิ่มความเข้มให้กับตัวรถขึ้นอีกขั้น เช่นเดียวกับการติดตั้งชุดสเกิร์ตแบบมีครีบดิฟฟิวเซอร์ทางด้านท้าย
ขณะเดียวกัน สำหรับตัวรถรุ่น Pre-Runner และ รุ่น 4×4 ตัวถัง Smart Cab ก็จะได้รับการปรับเปลี่ยนงานออกแบบด้านหน้ารถใหม่ โดยเปลี่ยนไปใช้ชุดกระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ Revo-D ที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว งานออกแบบชิ้นส่วนดังกล่าวนั้น ก็ถูกยกมาจาก Revo Rocco อีกทอดหนึ่งนั่นเอง
ท้ายสุดคือ Toyota Hilux Revo GR-Sport 4×4 ที่มาพร้อมกับจุดขายมากมาย ทั้ง
- ดีไซน์ภายนอก Hilux REVO GR Sport 4×4 ได้รับการออกแบบให้มีความเป็นรถกระบะออฟโรด DAKAR Rally ออกแบบให้มีทั้งการป้องกันในการก้าวข้ามอุปสรรค ในขณะเดียวกันก็จัดการเรื่องอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดี จุดเด่นคือดีไซน์ใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมตัวถังขนาดกว้างขึ้นและสูงขึ้น มิติองศาด้านหน้าเชิดขึ้น 20 มิลลิเมตร ก้าวข้ามขีดจำกัดในเส้นทางออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น
- สมรรถนะเครื่องยนต์ Hilux REVO GR Sport 4×4 ใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.8 ปรับจูนใหม่ แรงขึ้น 10% กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 550 นิวตัน/เมตร พร้อมเกียร์ที่ตอบสนองได้เร็วขึ้น สอดรับกับกำลังเครื่องยนต์เป็นอย่างดี พร้อมโหมดสปอร์ตที่ปรับจูนมาเฉพาะรุ่น Hilux REVO GR Sport 4×4 รีดกำลังเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ขับสนุกได้ทุกเส้นทาง
- ระบบช่วงล่าง มีการปรับปรุงให้มีระยะฐานล้อหน้ากว้างขึ้น 140 มิลลิเมตร ด้านหลัง 155 มิลลิเมตร ช่วยให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ความสูงจากพื้นเพิ่มขึ้น 37 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบโช้คอัพหน้ากระบอกเดี่ยว (Monotube) พร้อมปรับจูนคอยน์สปริง ระบบโช้คอัพหลังพร้อมแหนบแบบนุ่ม เบรกหลังพัฒนาจากดรัมเบรคเป็นดิสเบรก ตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์สีแดง เพิ่มความสปอร์ตให้กับรถ ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว มาพร้อมกับยาง BF Goodrich All terrain 265/65R17
- ดีไซน์ภายใน อัพเกรดให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น ในห้องโดยสารที่มีธีมสีดำทั้งคัน เบาะวัสดุหนังกลับ (Suede) กระชับตัวผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น ดีไซน์สอดรับกับสมรรถนะความเป็นรถแข่ง โทนสีดำภายในตัดด้วย เซนเซอร์มาร์กและเข็มขัดนิรภัยสีแดง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบาย อาทิ จอกลางคอนโซลขนาด 10.25 นิ้ว พร้อม Wireless Apple Carplay & Android Auto แท่นชาร์ตโทรศัพท์แบบไร้สาย
โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยของตัวรถ Toyota Hilux Revo โมเดลปี 2024 ทุกรุ่นย่อย มีรายละเอียดดังนี้
ราคาอย่างเป็นทางการในแต่ละรุ่น (รวม VAT และเครื่องปรับอากาศ)
♦ Standard Cab
- 2.4 ENTRY AT ราคา 674,000 บาท
- 2.8 ENTRY AT ราคา 639,000 บาท
- 2.4 ENTRY C&C AT ราคา 634,000 บาท
- 2.4 ENTRY ราคา 624,000 บาท
- 2.4 ENTRY SWB ราคา 624,000 บาท
- 2.4 ENTRY C&C ราคา 584,000 บาท
♦ Z Edition
- 2.4 MID AT ราคา 790,000 บาท
- 2.4 MID ราคา 740,000 บาท
- 2.4 ENTRY AT ราคา 719,000 บาท
- 2.4 ENTRY ราคา 669,000 บาท
♦ Pre-runner
- 2.4 MID AT ราคา 889,000 บาท
- 2.4 MID ราคา 839,000 บาท
- 2.4 ENTRY AT ราคา 825,000 บาท
- 2.4 ENTRY ราคา 775,000 บาท
♦ 4×4
- 2.8 MID AT ราคา 1,041,000 บาท
- 2.4 MID ราคา 944,000 บาท
♦ Rocco
- 2.8 ROCCO AT 4×4 ราคา 1,161,000 บาท
- 2.4 ROCCO AT 4×2 ราคา 1,006,000 บาท
♦ GR-Sport
- 2.8 GR-S AT ราคา 934,000 บาท
หมายเหตุ:
1.ราคาขายข้างต้น อ้างอิงจากราคาสีรถแบบเมทัลลิค
2.ราคาขายสำหรับรุ่น Rocco และ GR Sport ข้างต้น เป็นราคารวมอุปกรณ์ตกแต่งที่ติดตั้งโดยบริษัท ไทย ออโต้ คอนเวอร์ชั่น จำกัด
โดยมี 8 สี ให้เลือกดังนี้
►Super White [ลด 7,000 บาท]
►Platinum White Pearl [เพิ่ม 10,000 บาท]
►Silver Metallic
►Dark Grey Metallic
►Attitude Black Mica
►Dark Blue Mica
►Oxide Bronze Metallic
►Emotional Red [เพิ่ม 10,000 บาท]