แม้จะใกล้ได้เวลาปรับโฉมเข้าไปทุกที แต่ด้วยวาระใครครบรอบ 35 ปีนับตั้้งแต่การทำตลาดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1989 เจ้า Mazda MX-5 รุ่นล่าสุดปี 2025 จึงถูกทำร่างพิเศษ 35th Anniversary Edition คันนี้ออกมา
2025 Mazda MX-5 : 35th Anniversary Edition ถูกเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาที่งาน 24 Hours of Daytona ซึ่งมันก็ได้รับความสนใจที่เข้าร่วมชมการแข่งขันนี้พอสมควร จากการที่มันไม่ได้มีความพิเศษแค่เฉพาะในเรื่องของการแต่งหน้าทาปากใหม่เท่านั้น แต่ยังมีปรับปรุงอัพเกรดสมรรถนะของรถให้ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วย
โดยแม้ขุมกำลังของมัน จะยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ซึ่งให้กำลังสูงสุดเท่าเดิมที่ 184 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุดที่ 205 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังไปยังชุดล้อคู่หลังด้วยทางเลือกระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเฟืองท้ายพร้อมระบบลิมิเต็ดสลิป เท่านั้น
แต่มันก็ได้รับการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่ โดยคราวนี้จะเป็นการติดตั้งชุดโช้กอัพของ Bilstiein และชุดบาร์ค้ำหัวโช้กเข้าไป เพื่อให้มันมาพร้อมกับความคล่องตัวและเฉียบคมขณะเข้าโค้งที่มากขึ้น
นอกนั้นในส่วนของการแต่งหน้าทางปากตัวรถใหม่ ก็จะเริ่มจากการทำสีตัวถังเป็นสีแดงเปลือกมังคุด Artisan Red Metallic ซึ่งเดิมทีเป็นสีที่มีให้เฉพาะ Mazda CX-90 ตามด้วยการเปลี่ยนสีผ้าหลังคาเป็นสีเบจ และมีการติดตั้งลิปสปอยเลอร์หลังสีเดียวกับตัวถังเข้ามา เพิ่มเพลทประจำรุ่นด้านท้ายรถ และทำสีล้อเป็นสีเงินสว่างกว่าล้อของตัวรถรุ่นปกติ
ภายในห้องโดยสาร ก็มีการเปลี่ยนวัสดุหนังหุ้มเบาะเป็นหนังแนปป้าสีเบจ พร้อมการเจาะรูระบายความร้อน และมีการสแตมป์ร้อนโลโก้ 35th Anniversary เอาไว้บนหัวหมอน และยังมีการใส่สีแทนเข้าไปตามส่วนต่างๆทั้งในส่วนของตะเข็บด้ายของพวงมาลัย, หัวคันเกียร์, ถุงคันเกียร์, เบรกมือ, และหนังหุ้มคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง แผงประตู หรือแม้กระทั้งผ้าหุ้มตัวถังถ้านล่างกับพรมรองเท้าก็ยังเป็นสีแทน และยังรวมถึงซองหนังสำหรับเก็บกุญแจก็ด้วย
นอกนั้นในส่วนออพชันต่างๆของตัวรถทั้ง ระบบทำความร้อนเบาะ, ระบบเครื่องเสียงจาก Bose, ระบบจออินโฟเททนเมนท์ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบนำทางด้วยสัญญาณ GPS ในตัว และรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ Apple CarPlay กับ Android Auto, ระบบแอร์อัตโนมัติ เป็นต้น ล้วนยังคงเดิม โดยอ้างอิงจากรุ่นท็อปเกียร์ธรรมดาของรถ MX-5 ที่ขายในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
โดยตัวรถ 2025 Mazda MX-5 รุ่นพิเศษฉลองวาระครบรอบ 35 ปี คันนี้ จะสนนราคาวางจำหน่ายที่ 36,250 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.221 ล้านบาท เท่านั้น แม้จะยังไม่รวมค่าบริการขนส่งอีกนิดหน่อยที่จะถูกบวกขึ้นมาอีกราวๆ 40,000 บาท และมันจะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายเพียง 300 คันเท่านั้น แต่มันจะหมายถึงแค่เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ ก็ต้องลุ้นกันต่อไป
ข้อมูลจาก Mazda USA