แม้ Toyota Prius เจเนอเรชันล่าสุด จะมาพร้อมกับหน้าตาที่ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวกว่ารุ่นพี่มากนักอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนมันอาจจะยังไม่สาแก่ใจชาวสหรัฐมากพอ ทำให้รุ่นย่อยใหม่รหัส “Nightshade” คันนี้ จึงได้ฤกษ์เผยโฉมออกมา
2025 Toyota Prius Nightshade มาพร้อมกับโทนการตกแต่งที่เน้นเสริมความดุดันให้ตัวรถ คล้ายกับรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นของแบรนด์ที่มีเวอร์ชันพิเศษชื่อเดียวกัน นั่นคือ Toyota Yaris Ativ Nightshade ที่พึ่งเปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อปลายปีก่อน
ดังนั้น ความแตกต่างของตัวรถรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับ Prius รุ่นปกติ จึงจะอยู่ที่ การใส่ชุดบอดี้พาร์ทสีดำต่างๆเข้าไป ทั้ง ชุดล้อ 19 นิ้ว ลายเดิม แต่เพิ่มเติมคือทำสีดำล้วน, โลโก้แบรนด์ โลโก้รุ่นสีดำ, ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ, มือจับเปิดประตูบานหน้าสีดำ, เสาวิทยุครีบฉลามสีดำ, และวัสดุปิดกระจังหน้ากับกรอบช่องดักลมด้านล่างกันชนหน้าสีดำ
ส่วนภายในห้องโดยสาร ยังมีการเพิ่มรายละเอียดชิ้นส่วนงานคาร์บอนไฟเบอร์ไว้ในหน้าจอมาตรวัด และเปลี่ยนวัสดุหนังหุ้มเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเป็นหนัง SofTex
และท้ายสุดคือการเพิ่มเฉดสีพิเศษ นั่นคือสี Karashi ซึ่งเป็นสีเหลืองโทนสว่างที่มีให้เฉพาะตัวรถรุ่นนี้เท่านั้น ซึ่งหากลูกค้าไม่ได้พิศวาสความพิเศษขนาดนั้น ก็สามารถเลือกตัวรถ สีดำ Midnight Black Metallic หรือ สีขาว Wind Chill Pearl แทนก็ได้
นอกนั้นตัวรถจะยังคงมาพร้อมกับรายละเอียดทางเทคนิคต่างๆดังเดิม บนพื้นฐานของตัวรถรหัส XLE โดยมันจะมาพร้อมกับขุมกำลังไฮบริด ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งหากเป็นรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า จะให้กำลังสูงสุดรวมกันที่ 197 แรงม้า และจะขยับขึ้นเป็น 199 แรงม้า ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ซึ่งทำให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 7 วินาที เท่านั้น
และด้วยความเป็นรุ่นเกือบบนสุด มันจึงมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งมีฟังก์ชันย่อยมากมาย ทั้ง ระบบป้องกันการชน พร้อมระบบป้องกันการใช้คันเร่งผิดวิธี, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบแจ้งเตือนการออกนอกเลน และช่วยประคองให้อยู่ในเลน, ระบบอ่านป้ายสัญญาณจราจร, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ เป็นต้น
โดยตัวรถ Toyota Prius Nightshade มีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 32,795 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.135 ล้านบาท สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และเพิ่มเป็น 33,895 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1.173 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเท่าไหร่นัก และอยู่ในช่วงที่ไม่หนีไปจาก Toyota Camry เลยนั่นเอง