ย้อนไปเมื่อปลายปีก่อน Toyota GR Supra ได้ถูกเผยโฉมร่าง Final Edition ออกมา เพื่ออำลาตลาดญี่ปุ่นและยุโรป ล่าสุด ทางค่ายก็ได้เผยโฉมตัวรถลักษณะนี้ออกมาอีกครั้ง แต่เพื่ออำลาตลาดในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ

2026 Toyota GR Supra Final Edition เวอร์ชันประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมการแต่งหน้าทาปากใหม่ที่แตกต่างออกไปจากตัวรถที่มีไว้ส่งไปทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น และทวีปยุโรป
เพราะในขณะที่ตัวรถเวอร์ชันข้างต้น จะมาพร้อมกับชุดแต่งจัดเต็มมากมาย ทั้งลิปสปอยเลอร์, คาร์นาด, สเกิร์ตข้าง, ดิฟฟิวเซอร์ท้าย, และสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ แต่สำหรับตัวรถที่มีไว้วางจำหน่ายในสหรัฐอมเริกา กลับมีความพิเศษจากตัวรถร่างปกติที่เห็นได้จากภายนอก แค่เพียงการใช้เฉดสีตัวถังแบบดำด้าน, เพิ่มครีบบังอากาศออกจากแนวซุ้มล้อหน้า, และเพิ่มลิปสปอยเลอร์หลังที่กันชนท้าย
ส่วนช่วงล่าง จะได้รับการปรับจูนการทำงานของตัวโช้คไฟฟ้าใหม่, เพิ่มเหล็กกันโคลงด้านหน้าใหม่เข้าไป, เปลี่ยนชุดลูกยางปีกนกหน้าใหม่ให้แข็งขึ้น, เช่นเดียวกับลูกยางแพหลังที่แข็งกว่าเดิมเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ทาง Toyota USA ระบุว่ามันจะช่วยลดอาการหน้าดื้อของตัวรถให้น้อยลง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนอัตราทดแร็คพวงมาลัย และแรงดันระบบพาวเวอร์พวงมาลัยใหม่ ก่อนที่จะจบท้ายด้วยการติดตั้งชุดคาลิปเปอร์เบรกใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมจาก Brembo เข้าไป
หากหล่อไม่พอ ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อแพ็คเกจ GT4 เสริมด้วย โดยจะมาพร้อมกับของแต่งเสริมทั้ง สติ๊กเกอร์ GR ที่ข้างประตู, ทำสีฝาครอบกระจกมองข้างเป็นสีแดง, สปอยเลอร์หลังคาร์บอนแบบตูดเป็ด ครอบจงอยสปอยเลอร์หลังของเดิม, โลโก้รุ่น สีดำ, และภายในยังมีการตกแต่งด้วยโดนสีดำ พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังอัลคันทาร่าเดินตะเข็บด้ายสีแดงอีก
ขุมกำลังของตัวรถ ยังคงเป็นบล็อค 6 สูบเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ มอบกำลังสูงสุด 382 แรงม้า ที่ 5800-6500 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 499 แรงม้า ที่ 1800-5000 รอบ/นาที เท่าเดิม ไม่ได้มีการปรับจูนเพิ่มจนได้กำลังสูงสุด 429 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 570 นิวตันเมตร เหมือนเวอร์ชันยุโรป และญี่ปุ่น
ส่วนราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทางค่ายระบุว่าจะเริ่มต้นที่ 67,950 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 2,258,000 บาท และมันจะมีให้เลือกทั้งจากรุ่นที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานรุ่นย่อยมาตรฐาน หรือรุ่นย่อย Premium แล้วแต่ความต้องการของลูกค้า