เห็นหน้าเห็นตากันแล้วสำหรับ AION ES เก๋งคอมแพ็คพลังไฟฟ้าที่ล่าสุดทาง EVME Plus สั่งซื้อล็อตใหญ่กว่า 850 คันไปทำเป็นรถ TAXI
ตัวรถโดดเด่นในเรื่องความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า LED ทรงลูกศรในชุดกันชนหน้าและกระจังหน้าชิ้นเดียวกัน กับตราโลโก้ GAC AION กระจกมองข้างทรงสปูน เด่นด้วยกระจกโอเปร่าสไตล์ยุโรปและด้านท้ายยาวด้วยไฟท้าย LED คาดคิ้วสีเดียวกับตัวรถกันชนท้ายทรงตัวยูและล้อและยางจากโรงงานขนาด 17 นิ้ว
ภายในมีออปชันมาตรฐานทั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมลำโพง 2 จุด ช่องเสียบ USB หน้า-หลัง มาตรวัดความเร็วพร้อมจอ TFT สีขนาดเล็ก 3.5 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 2 ก้านพร้อมปุ่มควบคุมระบบล็อกความเร็ว Cruise Control กับควบคุมการทำงานของจอสัมผัสและจอมาตรวัด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ปุ่ม Push Start ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold
ขุมพลังแรงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร โดยใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 55.2 kWh แบบ LFP ขับเคลื่อนล้อหน้าความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลหลังจากชาร์จเต็มทำระยะทางสูงสุด 442 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 75 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที โหมดการขับขี่ ECO พร้อมระบบชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับจากการเบรก และ I-Pedal
AION ES ขายสองรูปแบบทั้งเวอร์ชันรถแท็กซี่พร้อมอุปกรณ์ Smart Taxi ในราคา 929,900 บาท ประกอบด้วย Home Charger พร้อมติดตั้งพรมปูท้าย กรอบป้ายทะเบียน จดทะเบียน การรับประกันแบตเตอรี่ 9 ปี หรือ 900,000 กิโลเมตร ประกันภัยชั้น 3 และระบบมิเตอร์ โดยสามารถเข้าศูนย์บริการ Fit Auto 94 แห่งทั่วประเทศขายผ่านทาง EVme Plus ในเครือ ปตท. (จับมือร่วมกับ AION และ โกลด์ อินทิเกรท)
และเวอร์ชันขายคนทั่วไป ลูกค้าองค์กร มีทั้ง 4 สีทั้งสีขาว Pure White สีบรอนซ์เงิน Speedy Silver สีดำ Glamour Black และ สีเทา Holographic Silver ในราคา 850,000 บาทพร้อมของแถมฟรีพร้อมของแถมเหมือนกันและการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กม.และในอนาคตจะมีแผนนำรถยนต์รุ่นดังกล่าวมาผลิตในประเทศไทย