ใกล้จะผ่านเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของปี 2019 กันเร็วๆ นี้ โดยช่วงครึ่งปีแรกมีรถใหม่เปิดตัวสร้างความฮือฮากันหลายรุ่น แต่นั่นมิอาจสนุกหรือตื่นเต้นเท่ารถใหม่อีก 10 คันที่เตรียมเปิดตัวต่อจากนี้
กลับมาพบกับผู้อ่านอีกครั้งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมก่อนถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีรถยนต์ใหม่เปิดตัวกันอยู่หลายคัน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ใช่รถที่ประชาชนให้ความสนใจ หรือสามารถทำยอดขายได้มากมายนัก ตัวอย่างเช่น Suzuki Jimny รถตรวจการณ์คันเล็กที่มีโควต้าเพียง 90 คัน Honda Accord ใหม่ที่เพิ่งประกาศราคาช่วงเดือนพฤษภาคม หรือ Chevrolet Captiva ที่เปิดให้ดูโฉมภายนอกก่อน ส่วนภายในกับราคายังไม่เปิดตอนนี้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะพาผู้อ่านทุกท่านไปกระตุ้นเซลล์สมองอีกครั้ง เพื่อรอดูว่ารถใหม่อีก 10 รุ่นที่เราทราบข้อมูลมานี้มีคันไหนที่น่าสนใจบ้าง
1.Toyota Corolla Altis และ Altis Hybrid
ลำดับแรกคงไม่มีคันไหนร้อนแรงและมีคนตั้งหน้าตั้งตารอมากเท่า เพราะ Toyota Corolla Altis คือคอมแพ็คคาร์ที่ทำยอดขายได้สูงมาตลอดนับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะกับอัลติสใหม่เจนเนเรชั่นที่ 12 ซึ่งถูกสร้างบนโครงสร้าง TNGA ก็มีเสียงตอบรับจากลูกค้าที่ได้ขับ Toyota C-HR กับ Camry แล้วว่า ใหม่แถมขับดีผิดหูผิดตา
นอกเหนือจากโครงสร้างตัวถังใหม่ที่จะเปลี่ยนเจ้าอัลติสเดิมๆ ที่หลายคนบอกว่ามันขับไม่สนุก ภายในไม่สวยคุณภาพด้อยกว่าคู่แข่ง แต่อัลติสใหม่เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเป็นจุดด้อยให้หมดไป โดยเฉพาะการออกแบบและตกแต่งภายใน เห็นได้จากเวอร์ชั่นไต้หวันที่ใกล้เคียงไทยมากสุด ว่ามีการเลือกใช้วัสดุชั้นดี มาแต่งเติม ทั้งพลาสติกนุ่มและหนังตามส่วนต่างๆ
ประเด็นสุดท้ายคือเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด 1.8 ลิตร ที่อยู่บน C-HR ก็จะถูกนำมาวางบน Altis ใหม่ด้วยเช่นกัน ส่วนขุมพลังเบนซิน 1.8 ลิตร ที่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT นั้นยังคงมีอยู่เช่นเคย
2.Mazda 3
ไหนๆ ก็เริ่มด้วยรถคอมแพ็คคาร์แล้ว ลำดับสองก็ต้องเป็นคู่แข่งร่วมชาติ อย่าง Mazda 3 ที่กับโฉมใหม่นั้นเรียกเสียงปรบมือชื่นชมด้านความสวยทั้งภายนอกภายใน มิหนำช้ำเรื่องขุมพลังก็มีความเป็นไปได้ว่า เครื่องเบนซิน SkyActiv-X ที่ทางมาสด้าระบุว่าจะแรงตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูง แถมประหยัดน้ำมันเหมือนเครื่องดีเซล อาจเข้ามาขายในไทยเพียงแต่ไม่ใช่ช่วงแรกที่รถเปิดตัว
จากข้อมูลที่พอทราบมา Mazda 3 ยังคงมีให้เลือกครั้งทั้งตัวถังซีดาน 4 ประตู และ แฮทช์แบ็ค 5 ประตู เครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv-G 2.0 ลิตร ติดตั้งมาเป็นพื้นฐานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่วนเรื่องอุปกรณ์ติดรถต้องบอกว่าจัดเต็มไม่แพ้รุ่นปัจจุบันแน่นอน
3.Honda City 1.0 Turbo
เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของวงการรถยนต์นั่งซัพคอมแพ็คด้วย Honda City โฉมใหม่ ที่ละทิ้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แล้วหันไปคบหาขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตร กับเกียร์อัตโนมัติ CVT นี่เป็นครั้งแรกที่รถไซส์ B-Segment จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับอีโคคาร์ เพราะทุกค่ายที่ยื่นข้อเสนอเข้าโครงการอีโคคาร์เฟส 2 ต้องทำให้รถของตนผ่านเกณฑ์สุดหิน นั่นจึงเหตุผลว่าทำไมเครื่องเบนซินพ่วงหอยบล็อก 1 ลิตร บนฮอนด้า ซิตี้จึงถูกนำเข้ามาขายให้แก่ชาวไทยเป็นชาติแรกในโลก และเรากำลังได้เห็นการจากไปของรถ Honda Brio
4.Nissan Almera 1.0 Turbo
ไม่นานมานี้ที่สหรัฐอเมริกาได้มีการเผยโฉม Nissan Versa 2019 หรืออีกชื่อที่คนไทยรู้จักดี Nissan Almera รถอีโคคาร์ซีดาน 4 ประตู ที่มียอดขายดีเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งโฉมใหม่ได้เปลี่ยนทุกสิ่งไปโดยสิ้นเชิง ละทิ้งความเฉิ่มเชยแล้วใส่เสื้อผ้าหน้าผมใหม่ ออกมาเป็นรถซัพคอมแพ็คที่โดดเด่นทั้งสมัยทั้งภายนอกจนถึงภายใน ชาวเน็ตหลายคนที่พบเห็นพูดเสียงเดียวกันว่า นิสสันไทยเอาเข้ามาให้ไวเลย…
เบื้องต้น นิสสัน อัลมีรา ใหม่ จะมาพร้อมขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร I-GT 100 จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT เช่นเดิม ส่วนเรื่องอุปกรณ์มาตรฐานรวมถึงความปลอดภัย และราคาค่าตัวนั้นต้องรอลุ้นอีกที
5.Mitsubishi Mirage 1.0 Turbo
รถคันสุดท้ายในกลุ่มซัพคอมแพ็คเป็นคิวของ Mitsubishi Mirage 1.0 Turbo ที่มีแหล่งข่าวระบุว่ามันจะเปิดตัวใหม่ช่วงปลายปี 2019 ไล่เลี่ยกันกับทั้ง City และ Almera ใหม่ โดยรูปลักษณ์นั้นไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แต่ที่ๆ มันจะถูกเผยโฉมในไทยเป็นแห่งแรกของโลก
นอกจากนี้ เรื่องขุมพลังคาดว่าน่าจะแชร์กันใช้กับ Almera ที่มีเครื่องเบนซินเทอร์โบ 3 สูบเรียง 1.0 ลิตร เนื่องจาก Nissan Renault และ Mitsubishi เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว
6.Isuzu D-Max New Engine
ปลายปี 2019 ถือเป็นเวลาทองของเหล่าแฟนๆ อีซูซุที่มีรอยัลตี้สูงต่อแบรนด์กระบะสุดแกร่งยี่ห้อนี้ เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการจับภาพ All NEW Isuzu D-Max วิ่งทดสอบอยู่บนทางถนนหิมะในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งสื่อหลายสำนักบอกใกล้เคียงกันว่า ปลายปีนี้ Isuzu D-Max โฉมใหม่จะเปิดตัวมาสร้างความฮือฮาต่อคนทั้งโลก
ใครที่สงสัยว่าเครื่องดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ลากขายมายาวนานหลายสิบปีจะยังอยู่ไหม จากข้อมูลที่มีความถูกต้องรา 80% ระบุว่า D-Max ใหม่จะมีรุ่นเครื่องดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร รหัส R24E ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับเครื่องดีเซล 1.9 ลิตร DDi Blue Power โดยสเป็คแรงม้าแรงบิดจะเป็นเช่นไรนั้นคงต้องรอลุ้น
7. MG T60
พักนี้ในโลกอินเตอร์เน็ตมีมือดีถ่ายภาพรถกระบะรุ่นหนึ่งวิ่งพลางตัวทดสอบบนถนน โดยจากการวิเคราะห์ของเราการันตีปิกอัพคันนั้นว่าคือ MG T60 ที่ใกล้เปิดตัวในไทยช่วงปลายปี 2019 นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่กระบะสัญชาติจีนจะมาลุยตลาดเมืองไทย หลังจากรายแรก Foton Tunland เข้ามาประกอบในไทยเมื่อหลายปีก่อน
สำหรับรูปร่างหน้าตาของ T60 อาจไม่ค่อยสะดุดตาชาวไทยมากเท่ากระบะญี่ปุ่น แต่ก็มีข่าวหลุดมาว่ามันจะมาพร้อมขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ทั้งรุ่นเทอร์โบเดี่ยวและเทอร์โบคู่ ที่ให้แรงม้าราว 160-220 ตัว (ยังไม่แน่ชัด) หลังจากกระแสก่อนหน้านี้เคยระบุว่าชาวไทยจะได้ใช้เครื่องดีเซล 2.8 ลิตร 150 แรงม้าเท่านั้น และน่าจะทำราคาได้โดนใจกว่าเจ้าตลาดแน่นอน
8. Mitsubishi Pajero Sport
ถึงคราวอัพเดทครั้งใหญ่เสียทีกับรถพีพีวีรุ่นยอดนิยม Mitsubishi Pajero Sport ที่นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2015 มันก็มีรุ่นตกแต่งพิเศษออกมากระตุ้นตลาดอยู่หลายตัว แต่ครั้งนี้คือการไมเนอร์เชนจ์เปลี่ยนหลายสิ่ง ซึ่งคาดว่าโฉมหน้าและบั้นท้ายที่เคยมีคนบ่น “ไฟท้ายไม้ตะพด” อาจจะมาในสไตล์ใหม่ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากกว่าเดิม
ส่วนห้องโดยสารนั้นยังไม่มีข้อมูลว่าต่างจากโฉมปัจจุบันมากขนาดนั้น รวมถึงขุมพลังดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ก็ไม่แน่ว่าอาจมีการปรับแรงม้าแรงบิด หรือไม่ก็เพิ่มมาตรฐานไอเสียไปเป็นยูโร 5 ตามมาตรการควบคุมมลพิษที่รัฐบาลเคยประกาศออกมาก่อนหน้า
9.MG eZS
รถไฟฟ้าเป็นยานพาหนะที่คนไทยส่วนใหญ่มองว่าไกลตัว และยังไม่จำเป็นต่อการใช้งานในยุคปัจจุบัน ทว่าทางเอ็มจีเล็งเห็นว่าปัญหาหลักเกิดมาจากราคาจำหน่ายอันสูงลิ่วที่ทุกคันทะลุเกิน 1.8 ล้านไปกันหมด ลูกค้าจึงไม่กล้าที่จะจ่ายหนักเพื่อเป็นเจ้าของรถที่ขึ้นชื่อว่าสะอาดและรักษ์โลก
MG eZS รถครอสโอเวอร์ขุมพลังไฟฟ้าที่ใช้พื้นฐานจาก ZS เครื่องสันดาป จึงเตรียมเข้ามาขายในไทยเดือนมิถุนายนี้ ด้วยกำลังแรง 150 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้เลขหลักตัวเดียว แถมยังวิ่งได้ไกลเกิน 300 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และที่สำคัญคือราคาคาดว่าจะอยู่ช่วง 1.5 ล้าน +- ไม่มากไปกว่านี้
10. MG HS
กระแสรถคอมแพ็คเอสยูวีดุเดือดเลือดพล่านมากโดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นค่ายญี่ปุ่นได้กวาดยองขายกันไปจนอิ่มหนำ ปล่อยให้รถอเนกประสงค์จากจีนอย่าง MG GS เครื่องเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กับ 2.0 ลิตร จอดเหงาคาโชว์รูม เนื่องจากรูปลักษณ์ไม่โดนใจ แถมด้วยความที่เป็นบริษัทรถหน้าใหม่ผู้คนจึงไม่ค่อยมั่นใจนัก
ทว่าปีนี้ MG HS ผู้รับหน้าที่ต่อจาก GS มาในสไตล์เอสยูวีหรูมาดยุโรป ตั้งแต่ภายนอก ภายใน ตลอดจนบรรดาอุปกรณ์ที่เหนือชั้นไม่แพ้คู่แข่ง ส่วนเครื่องยนต์คาดว่าจะเป็นบล็อกเดิมแต่มีการปรับปรุงทุกสิ่งอย่างให้ทำงานดีขึ้น ทั้งนี้ เรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกคงจัดเต็มเพื่อกวาดชิงยอดจากคู่แข่งเป็นแน่แท้