นอกจากศึกรถยนต์เก๋งคอมแพ็คคาร์ที่ครุกรุ่นในช่วงเดือนที่ผ่านมา อีกตลาดที่แล้จะคึกคักไม่ต่างกันนัก เห็นทีจะไม่กลุ่ม C SUV หรือ อเนกประสงค์ขนาดย่อมเหมาะการใช้งานในเมืองและเดินทางไกล
ฝั่งหนึ่งเป็นการกลับมาของอดีตผู้สร้างตลาดพาเอาเจ้าตลาดปวดเศียรเวียนเกล้า นั่งเกาหัวมาแล้วไม่น้อย Chevrolet Captiva อีก ด้านเป็นศิษย์รถอังกฤษทุนจีน MG HS ออกมาเปิดตัวแทนพี่ชายรุ่นก่อน MG GS ผู้ถึงคราวต้องอำลาวงการไป
การมาของรถทั้ง 2 ทำให้ รถยนต์อเนกประสงค์ปีนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ลูกค้าหลายคนเริ่มหัวไปปันใจรถยนต์อเนกประสงค์ทั้งคู่ วันนี้เราจะมาพูดเปรียบรายละเอียดทางเทคนิค และออพชั่น ว่าแต่ละคันดีเด่นต่างกันอย่างไรบ้าง
ภายนอก
Chevrolet Captiva เดิมทีมาในสไตล์หรูหราดูน่าใช้งาน รถรุ่นใหม่ทีมเชฟวี่พูดกับเราตั้งแต่ครั้นไปลองขับทดสอบว่า “มันไม่เหมือนเดิมนะ” และดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตั้งแต่แรกเห็น Chevrolet Captiva ใหม่ไม่ได้เน้นความหรูหราใดๆ เลย มันกลายเป็นอเนกประสงสค์บ้านๆ ลุคทันสมัยหนึ่งคัน
การออกแบบตัวรถเรียกว่ามาในสไตล์ China Edition ไม่มีเค้าความเป็นอเมริกันติดหรู ตั้งแต่แต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้า LED ไฟ Daytime Running Light ในรุ่นท๊อปโดดเด่นด้วยหลังคา Panoramic Sunroof สามารถเปิดได้กว้าง ไปถึงห้องโดยสารตอนหลัง ทุกรุ่นให้ขอบ 17 นิ้วให้ยางติดรถขนาด 215/60 /R17 ตอบลูกค้า
ทางฝั่งผู้ท้าชิง MG HS เปิดตัวออกมาเรียกว่า ทำเอาหลายคนร้องกรี๊ด MG รุ่นนี้เปลี่ยนภาพลักษณ์สะท้อนความหรูหราเต็มอารมณ์ ถึงจะมีเสียงค่อนขอดจากโซเชี้ยลบ้างว่า เหมือนจับเล็กผสมน้อยรถยุโรปชั้นนำ
ตัวรถออกแบบภายใต้ความรู้สึกหรูหรา ใบหน้าแลดูคุ้นตาราวกับปรับเส้นสายงานออกแบบจากรุ่นน้อง MG ZS ขยายความดูดีขึ้นมาด้วยกระจงหน้า Stella Magnetic Field มาพร้อมไฟหน้า และ Daytime Running Light ด้านหลังให้ประตูท้ายไฟฟ้า รุ่นกลางขึ้นไปติดตั้งล้ออัลลอย 18 นิ้ว แถมยังให้ไฟท้ายดีไซน์สวยงาม พร้อมไฟเลี้ยวแบบ sequential เพิ่มความรู้สึกทันสมัย
ตารางเปรียบเทียบขนาดมิติตัวรถ
Chevrolet Captiva | MG HS | |
กว้าง (มม.) | 1,835 | 1,876 |
ยาว (มม.) | 4,655 | 4,574 |
สูง (มม.) | 1,760 | 1,644 |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,750 | 2,720 |
ระยะจากพื้นถึงจุดต่ำสุดใต้ท้องรถ (มม.) | 175 | 145 |
เมื่อเปรียบเทียบมิติตัวถึงรถทั้ง 2 รุ่น จะพบว่า MG HS มีมิติตัวถังกว้างกว่า กลับกัน Chevrolet Captiva กลับมีความยาว ,ฐานล้อยาวกว่าของทาง MG มาจากปัจจัยในเรื่องของการวางตำแหน่งเบาะนั่ง 3 แถวในตัวรถ แถมห้องโดยสารยังมีความสูงโปร่งในระดับหนึ่ง เยอะกว่า 30 มม. ด้วย
ภายในห้องโดยสาร MG HS จะออกไปในทางฟังชั่นหรู เริ่มจากไฟปรับอารมณ์ Ambient Light ช่วยเพิ่มความดูดีภายในห้องโดยสารมากขึ้น ให้เบาะนั่งหนังสังเคราะห์ ด้านคนขับปรับด้วยไฟฟ้าตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ด้านคนนั่งปรับไฟฟ้า ถ้าซื้อรถในรุ่นท๊อป แนวทาทางการออกแบบมาคล้ายรถยุโรป
ภายในห้องโดยสาร MG HS
ท๊อปออพชั่นให้เสน่ห์เย้ายวนด้วย ปุ่มสปอร์ต ,แป้นเหยียบสปอร์ต และ Paddle Shift ความสบายในห้องโดยสารก็ไม่ย่อหย่อนด้วยระบบปรับอากาศสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ พร้อมช่องแอร์ตอนหลัง รุ่นกลางขึ้นมา แอร์ปรับ 2 โซนได้ เบาะนั่งหลัง พับในอัตรา 60/40 ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
กลับมามองทางเชฟวี่ จุดีในห้องโดยสาร เชฟโรเล็ตนั้นอยู่ที่การให้เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง บางบ้านอาจต้องการออพชั่นนี้ จนบางทีก็อยากให้คิดให้ดีว่า เราจำเป็นหรือไม่
ตัวรถ Chevrolet Captiva ใหม่ นั้น ต่างจาก รุ่นเดิมพอสมควร มันไม่ได้ให้ความรู้สึกหรูหรามากมายนัก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้
เบาะนั่งตั้งแต่รุ่น LT จะได้เบาะนั่งหนังสีชาโคล รุ่นเริ่มต้น LS เป็นเบาะนั่งผ้า การปรับเบาะให้เบาะไฟฟ้าเฉพาะรุ่นท๊อปเท่านั้น เบาะนั่งตอน 2 สามารถปรับเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ , เบาะนั่งตอน 3 สามารถพับเปิด-ปิดได้ เรื่องพื้นที่ในการโดยสาร ไซส์คนไทยปกติพอไหว คนตัวใหญ่สมควรพิจารณาให้ดีก่อนไปนั่ง
รายละเอียดน่าสนใจในรถคันนี้ อยู่ตรงออพชั่นเพียบครบเครื่องน่าใช้งาน ไม่ว่าจะ หลังคา โนรามิค ซันรูฟ , หน้าจอเครื่องเสียงขนาด 10.4 นิ้ว พร้อมลำโพงจาก infinity by Harman 9 จุดในห้องโดยสาร รวมถึงยังมีฟังชั่นกล้อง 360 องศาตอบเรื่องการขับขี่ พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ถ้าสรุปจุดเด่น Chevrolet นั้น เหมือนออพชันมาเต็ม และห้องโดยสารสูงกว่า เหมาะกับความต้องการในการใช้งานทั่วๆ ไป ส่วนทาง MG จะเป็นออพชั่นที่ปรับไปในเรื่องความหรูหราสะดวกสบายมากกว่า และจำนวนที่นั่งมีเพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น ตรงนี้ต้องไปเปรียบกันเอาเอง
มาทางด้านสมรรรถนะการขับขี่ ทั้งคู่เลือกใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จเหมือนกัน บางคนถามว่า เครื่องมันตัวเดียวกันไหม เนื่องจากทาง SAIC บริษัทแม่ของ MG ก็จับมือกับ GM ในประเทศจีน
เรื่องนี้ผมตอบตามตรงว่าแตกต่างครับ และยืนยันตรงนี้ว่ามันไม่ใช่เครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน ถึงจะเกิดเป็น 1.5 เทอร์โบเหมือนกัน ก็ตามที
ทั้งคู่ทำแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรเท่ากัน สังเกตจะพบว่า MG HS เซ็ทแรงบิดต่อเนื่องออกมาขาย ให้ความเร้าใจยาวๆ ตั้งแต่ออกตัว ไปจนถึง 4,400 รอบต่อนาที
ทางเชฟวี่ต่างออกไปพวกเขาเลือกแรงบิดสูงสุดได้ที่ 2,400 รอบต่อนาที เชื่อว่าอาจต้องการไม่ให้กระชากหน้าหงายยามแม่ยายนั่งไปด้วยในรถ
เรื่องกำลังวังชาก็ต่างกันตั้ง 20 แรงม้า โดนประมาณ ดังนั้นในเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ไม่น่าแปลกใจ ถ้า MG จะชนะในหัวข้อนี้ไปใสๆ
ตารางเปรียบเทียบเครื่องยนต์
Chevrolet Captiva | MG HS | |
เครื่องยนต์ | เบนซิน 1.5 เทอร์โบ | เบนซิน 1.5 เทอร์โบ |
กำลังแรงม้าสูงสุด | 143 แรงม้า /5,000 รอบต่อนาที | 162 PS / 5,600 รอบต่อนาที |
กำลังแรงบิดสูงสุด | 250 นิวตันเมตร /2, 400 รอบต่อนาที | 250 / 1,700-4,400 รอบต่อนาที |
ระบบเกียร์ | CVT | คลัทช์คู่ 7 สปีด |
ระบบพวงมาลัย | EPS | EPS |
ระบบกันสะเทือนหน้า | แมคเฟอร์ลันสตริท พร้อมเหล็กกันโคลง | |
ระบบกันสะเทือนหลัง | อิสระ มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง |
ถึงเชฟวี่จะม้าน้อยกว่า แต่ความฉลาดของทีม GM ในการติดตั้งระบบเกียร์ CVT มันอาจตอบสนองดีกว่า โดยเฉพาะใครมองหารถขับในเมือง แล้วเดินทางบ้างตามสมควรในวันว่าง
ฝั่ง MG HS เลือกใช้ระบบเกียร์คลัทช์คู่ 7 สปีดตอบโจทย์ลูกค้า สายเน้นซิ่ง เอาสมรรถนะจากเครื่องยนต์ออกมาใช้เกรี้ยวกราดบนถนน
ทั้งคู่ใช้ระบบกันสะเทือนคล้ายคลึงกัน หน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง หันไปติดตั้งระบบมัลติงลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง รองรับการสมบุกสมบัน ลั่งสบาย
สรุป Chevrolet Captiva – MG HS ต่างขั้วต้องเลือก
เมื่อมองดูรถทั้ง 2 ที่เรานำมาเปรียบเทียบในวันนี้ จะเห็นว่า ทั้งคู่ต่างมีรายละเอียดในหลายอย่างคลายกัน แต่การมองความต้องการลูกค้าต่างกันอย่างสิ้นเชิง
MG HS จะมาในทางรถดูหรูดูแพง สมรรถนะสูง ตอบการขับขี่อันเร้าใจ เน้นออพชั่นและความสบายให้ความรู้สึกซื้อรถสูงกว่า
กลับกัน Chevrolet ตอบเรื่องฟังชั่นการใช้งานครบเครื่อง ด้วยออพชั่นแน่นๆ ทุกอย่างมีมาให้ครบเครื่อง จนบางครั้งมองแล้ว ในราคานี้จะหารถที่มีออพชั่นมากขนาดนี้ได้จากไหนอีก ไม่มีทางและแทบจะเป็นไปไม่ได้ รวมถึง รถที่มีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ในราคาล้านต้นๆ ปัจจุบันถือว่าหายาก พอสมควร