เปิดตัวสเป้คไทยออกมาในที่สุดกับเจ้าซีดานกลาง Honda Accord ปีนี้จึงกลายเป็นเกมมันส์สุดติ่งของตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางที่เข้ามาทำตลาดเอาใจลูกค้าที่ยังอยากจะหารถหรูราคาล้านกว่าบาทกลางๆ มาใช้งาน
คู่แข่งเจ้าประจำ 2 รายนี้ถือเป้นไม่เบื่อไม้เมากันมานานมาก และหลังจากทางน้องนัทพูดถึงเรื่องการออกแบบความสวยงามตัวรถ ไป … สามารถอ่านได้ในบทความนี้
ผมแอดมินบอล จะมาเจาะลึกรายละเอียดทางเทคนิค ตัวรถ ล้วนๆ ก่อนที่เราน่าจะมีโอกาสสัมผัส รถทั้ง 2 รุ่น อีกครั้งในเร็วๆ นี้แน่นอน
ขนาดตัวรถ
เอาล่ะ…ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน ขอเริ่มกันที่เรื่องขนาดตัวรถกันก่อนเป็นประเด็นแรกในการวิพากษ์ครั้งนี้แล้วกัน ขนาดมิติตัวถังรถมีผลสำคัญ ต่อเรื่องความกว้างในการโดยสารและคุณลักษณะการขับขี่ในเบื้องต้น
ตารางเปรียบขนาดมิติตัวถังรถ
| Toyota Camry | Honda Accord | |
| ความยาว (มม.) | 4,885 | 4,894 (+9) |
| ความกว้าง (มม.) | 1,840 | 1,862 (+22) |
| ความสูง (มม.) | 1,445 | 1,450 (+5) |
| ฐานล้อ (มม.) | 2,825 | 2,829 (+4) |
| ระยะต่ำสุดจากพื้นถึงท้องรถ (มม.) | 140 | 131.3 (-8.7) |
จากการสำรวจรายละเอียดทางเทคนิค
ที่มีการเปิดเผยออกม เราจะพบว่า Honda
Accord ใหม่
มีความกว้างกว่า ในทุกรายละเอียดมิติ ไม่ว่าจะความกว้าง ,ความยาว และ ความสูง
รวมถึงระยะฐานล้อด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกว้างของตัวรถทางฮอนด้า ดูจะเป็นเรื่องที่เด่นกว่าคู่แข่ง ซึ่งหมายถึงความกว้างขวางโอ่โถงในการโดยสาร รวมถึงความกว้างระหว่างล้อ หรือ Track เรามีข้อมูลว่า Honda Accord มีระยะกว้างระหว่างล้อ 1,600 และ 1,610 มม. ด้านหน้าและด้านหลังตามลำดับ ส่วน Toyota Camry จะมีระยะระหว่างล้อ 1,574 มม. และ 1,590 มม. ทางด้านหน้าและหลังตามลำดับ
นั่นหมายความว่าเมื่อขับด้วยความเร็วในการเดินทาง
Honda Accord น่าจะมีความนิ่งมากกว่าในทรงตัว
ซึ่งต้องรอพิสูจน์อีกครั้งหลังขับ เนื่องจากโตโยต้าก็มีความโดดเด่นในเรื่อง โครงสร้าง TNGA ใหม่ เอี่ยมที่เปิดตัวออกมาในช่วงปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ที่แน่ๆ อีกประการคือพื้นที่เก็บสัมภารท้ายรถ ของ Toyota Camry มีความกว้าง 427.5 ลิตร ขณะที่ Honda Accord ให้ความกว้างถึง 519 ลิตร ตอบเรื่องการใช้งานดีกว่า
เครื่องยนต์
ด้านขนาดตัวรถเหมือนฮอนด้าจะได้แต้มไปเต็มๆ แต่เมื่อมาดูเรื่องสมรรถนะและการขับขี่ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
ฝั่งฮอนด้า
งวดนี้มาพร้อมโจทย์ในการเปลี่ยนแปลงทางความคิดการวางขาย ตัดสินใจยกทั้งเครื่องยนต์
2.0 และ 2.4 ลิตร ดั้งเดิมที่ทำตลาดมายาวนาออกไป แล้วแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ 1.5
ลิตรเทอร์โบ Hi-power
ให้กำลังสูงถึง 190 ps และ
ทำแรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร ให้ยาวตั้งแต่
1,500-5,000 รอบต่อนาที
พกความประหยัด 16.4 ก.ม./ลิตร ตามการเคลมของฮอนด้า และสามารถเติม E85
ขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์ CVT
นอกจากนี้ยังแนะนำเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.0 ลิตร Sport iMMD ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวเครื่องยนต์ให้กำลัง 145 PS ทำแรงบิด 175 นิวตันเมตร บวกมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 135 PS ทำแรงบิด 315 นิวตันเมตร ให้กำลังขับรวมสูงสุด 215 แรงม้า พกแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน และชุดเกียร์ E-CVT ตอบการขับขี่
ด้าน Toyota Camry ยังคงมาพร้อมหลักสูตร 3 เครื่องยนต์เป็นทางเลือกของลูกค้า เริ่มจากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร บล็อกเดิม ให้กำลังไม่เปลี่ยนแปลง 167 แรงม้า ทำแรงบิด 199 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แนะนำในรุ่น 2.0 G ตอบตลาด
ถ้าต้องการความประหยัด Toyota พกเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ
รุ่นใหม่ล่าสุด
Dynamic Force 2.5 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า
ตัวเครื่องยนต์ทำกำลัง 178 PS ทำแรงบิด
221 นิวตันเมตร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าทำกำลังเพียง
88 PS ให้แรงบิด 202 นิวตันเมตร ให้กำลังขับรวม 211 PS
ส่วนใครที่ชอบความแรงเร้าใจสุดๆ ไม่เน้นความประหยัด ก็ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 209 PS ทำแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เลยทีเดียว
ถ้ามามอง เปรียบเทียบแล้ว เราจะพบว่า เครื่องยนต์ Honda Vtec Turbo Hi Power มีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ของ Toyota และ น้อยกว่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และด้วยการเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จทำให้มันย่อมประหยัดกว่า
กลับกันทีเรายังไม่สามารถบอกได้ชัดเจน คือการขับขี่ทางไกล การตอบสนองจะเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร หรือ 2.0 ลิตร ที่มีขนาดกระบอกสุบใหญ่กว่า และทำอัตราตอบสนองได้ดีกว่า
อย่างไรก็ดี จากที่เคยขับ Toyota Camry ในการทดสอบกลุ่มเมื่อปีกลาย เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มีการตอบสนองที่น่าสนใจ และมีความประหยัด เนื่องจากชดเชยด้วยระบบเกียร์ 8 สปีด ที่ตอบโจทย์มากขึ้นเมื่อเดินทางไกล
เช่นเดียวกันเครื่องยนต์ไฮบริดของ Toyota ใช้เครื่องยนต์บล็อก 2.5 แทนที่จะเป็น 2.0 ลิตร เหมือนฮอนด้า จากที่มีอากสพูดคุยทีมวิศวกรถึงการตัดสินใจดังกล่าว พวกเขาเผยว่านั่นเพราเมื่อเดินทางไกลเครื่องยนต์จะมีบทยาทหลักในการทำงาน ซึ่งเครื่องยนต์ 2.5 ตอบสนองดีกว่าเมื่อเดินทางไกล
กลับกันนั่นหมายถึงอาจจะต้องแรกความประหยัดด้วยเช่นกัน เนื่องจากใช้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าในการขับขี่ ขณะที่ฮอนด้าใช้ขนาดเล็กกว่าถึง 500 ซีซี ทั้งที่มีสมรรนถะในการขับขี่ใกล้เคียงกัน
ส่วนเรื่องการรองรับพลังงานทางเลือกทั้งคู่ปรับให้เครื่องยนต์ปกติใช้น้ำมันทางเลือก E85 ได้ ส่วนเครื่องยนต์ไฮบริดจะใช้ได้เพียง E20 เท่านั้น
ระบบกันสะเทือน
พูดถึงรถซีดาน นอกจากเครื่องยนต์เปี่ยมสมรรถนะในการขับขี่ การตอบสนองของระบบกันสะเทือนยังเป็นอีกประการที่น่าสนใจ
ตั้งแต่รุ่นที่แล้ว Honda
Accord เปลี่ยนระบบช่วงล่างทางด้านหน้ามาสู่ระบบแม็คเฟอร์สันสตรัท
และใช้ระบบช่วงล่างหลัง มัลติลิงค์ พร้อมติดตั้งเหล็กกันโคลงทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง
ทางด้าน Toyota Camry ใช้ระบบช่วงล่างทางด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัทเช่นกัน แต่ด้านหลังไม่เหมือนกันด้วยระบบช่วงล่างหลังปีกนกคู่ รวมถึงที่ประมาทจะไม่นำมาตัดสินไม่ได้เลย คือโครงสร้างใหม่ Toyota TNGA ที่มีความแข็งแรงของแชสซีเป็นทุนเดิม และได้พิสูจน์จาก Toyota C-HR เป็นต้นมาแล้วว่าช่วยให้มีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่า
มีการเข้าโค้งดีเยี่ยมเป็นเลิศ และโคลงตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับรถรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ถ้าวิเคราะห์ในเชิงวิศวกรรมก็จะพบว่า Honda Accord มีระยะต่ำสุดจากพื้นน้อยกว่าประมาณ 8.7 มม. ซึ่งมากพอจะทำให้รถมีการตอบสนองดี แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีรายงานเรื่องการพัฒนาเชิงโครงสร้างตอบโจทย์ เหมือนคู่แข่งก็ตามที
งานนี้ คงต้องวัดหลังขับอีกที
ความปลอดภัย-เทคโนโลยีในการขับขี่
ปัจจุบันลูกค้าหลายรายให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในรถยนต์ที่ใช้
ตลอดจนรถซีดานกลางในวันนี้ยังเป็นรถที่ใช้ในครอบครัวมากขึ้น เราจะมาดูว่า
พวกมันแตกต่างกันอย่างไร ในเชิงเทคนิค
ก่อนอืนความปลอดภัยพื้นฐานช่วยขับขี่ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคและช่วยกระจายแรงเบรก , ระบบควบคุมการทรงตัว รวมถึงระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน เรียกว่ามีมาให้ครบเครื่อง นับรวมถึงระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง อย่างถุงลมนิรภัยมีมาให้อุ่นใจกันถึง 6 ลูก ไม่ว่าจะด้านหน้า , ด้านข้าง ม่านนิรภัย จนเรียกว่าถ่ามองหาว่ารถกลุ่มไหนขับปลอดภัยมั่นใจได้แม้ยามพลาดก็ต้องกลุ่มซีดานกลางนี่แหละ
ถึงแม้จะดูไม่ต่างกัน แต่เมื่อเจาะรายละเอียดลึกๆ เจ้าซีดานกลาง Toyota Camry มีดีกว่าด้วยมาตรฐานระบบแรงดันลมยาง , ระบบเตือนขณะถอยออกจากซอง , และระบบเตือนมุมอับรถ ในทุกรุ่นที่วางจำหน่าย ฮอนด้าเอง ก็มีระบบ Honda Lane Watch ให้ใช้ ตั้งแต่รุ่นพื้นฐาน หากระบบเตือนแรงดันลมยาง จะอยู่ในรุ่นไฮบริด และ ระบบ Rear Cross Traffic Alert อยู่ในแพ็คเกจทันสมัยรุ่นท๊อปออพชั่นไฮบริดเท่านั้น ทั้ง 2 ระบบไม่มีในรุ่น 1.5 เทอร์โบ
ทั้งคู่ยังแนะนำมาตรฐานความปลอดภัยชั้นสูงมาครบครัน ในฝั่ง Honda เด็ดกว่าด้วยการแนะนำเข้ามาตั้งแต่รุ่นกลาง ได้ทันทีเมื่อซื้อ Honda Accord Hybrid จะติดตั้งระบบ Honda Sensing มาให้ ครบแพ็คเกจ ได้แก่
- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถคันหน้าที่ความเร็วต่ำ
- ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
ทาง Toyota ก็มีระบบลักษณะเดียวกัน และฟังชั่นเหมือนกัน เรียกว่า Toyota Safety Sense Program ติดตั้งใน Toyota Camry รุ่นท๊อปออพชั่น 2.5 HV Premium เท่านั้น นั่นหมายถึง ต้องจ่าย 1.799 ล้านบาทเพื่อซื้อความปลอดภัยชั้นสูง ขณะที่ฮอนด้าจะมีราคาขายถูกกว่า ในรุ่น Hybrid เริ่มต้น สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการ สุดยอดออพชั่น
สรุปต่างกันอย่างไร
นอกจากการออกแบบที่ต่างกันแล้ว จากการอ่าานสเป็ครายละเอียดทางเทคนิค ผมขอสรุป ข้อมูลมาเป็นข้อๆ ในการเปรยบเทียบดังนี้
Honda Accord
- Honda Accord มีความกว้างและยาว รวมถึงการโดยสารดีกว่า
- เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แรงกว่า 2.0 ลิตร แต่ด้อยกว่า 2.5 ลิตร
- เครื่องไฮบริดมีกำลังขับรวมมากกว่า Toyota (ขับรวม 215 แรงม้า)
- จุดศูนย์ถ่วงรถเตี้ยกว่า
- แพ็คเกจความปลอดภัยขั้นสูง (Honda Sensing ) มีตั้งแต่รุ่นไฮบริดกลาง
Toyota Camry
- มีเครื่องยนต์หลากหลายกว่า Honda
- เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เหนือกว่าในแง่กำลัง และยังอาจจะประหยัดด้วยเกียร์ออโต้ 8 สปีด
- เครื่องยนต์ไฮบริดอาจตอบโจทย์กว่า เมื่อขับทางไกล เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า
- โครงสร้าง TNGA เป็นไพ่ตายที่ทำให้รถมีความสามารถในการขับขี่ดีขึ้น
- มีแพ็คเกจความปลอดภัยพื้นฐาน อย่าง ระบบเตือนแรงดันลมยาง , Rear Cross Traffic Alert และ ระบบเตือนมุมอับสายตา มาให้เป็นมาตรฐาน
- ระบบบบความปลอดภัยชั้นสูง มีในรุ่นท๊อปเท่านั้น
หลังจากเปรียบมวยอย่างละเอียด คงต้องยอมรับว่า ทั้ง Honda Accord และ Toyota Camry ต่างมีหมัดมวยดีกันไปคนละด้านตอบความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน ในการเปรียบเทียบครั้งนี้เป็นเพียงการแกะสเป็คออกมาแบะให้ดูกันชัดๆ กับความคุ้มค่าที่คุณจะได้
ในงวดต่อไป เราจะคงมาสรุปอีกครั้ง หลังทดสอบรถทั้ง 2 รุ่นอย่างครบครัน กับสองซีดานกลางที่น่าสนใจในตลาดวันนี้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมไหม
รีวิว Toyota Camry 2.5G
ข้อมูล สเป็คอย่างละเอียดของ Honda Accord โฉมไทย
