กลายเป็นรถที่ตลาดทั่วโลกตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เมื่อกระแสรถยนต์อเนกประสงค์มาแรงในระดับโลกประกอบกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทำให้รถเก๋งซีดานกลางถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวเองอย่างหนัก และเรากำลังจะได้เห็นในว่าทีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต
รถยนต์ซีดานกลางใหม่ๆ จากผู้ผลิตประเทศญี่ปุ่น เป็นกุล่มที่เราจับตาอย่างมาก พวกมันเป็นรถที่จำหน่ายในไทยมายาวนาน และทุกรุ่นมีแนวดน้มเข้าไทยเพียงแต่คำถามคือเมื่อไรเท่านั้น ซึ่งวันนี่เนสจะพาเพื่อนๆ ชมความหล่อของทุกรุ่น ก่อนจะเริ่มวางขายในประเทศไทย
Toyota Camry
เปิดมาปีกว่าแล้ว สำหรับซีดานากลางค่ายรถยนต์โตโยต้า ที่มีเสียงลือเสียงดล่าอ้าง ว่าจะมาขายไทย หากจนถึงบัดนี้ก็ยังไร้ซึ่งวี่แวว ว่าจะมาขายอย่างเป็นทางการเมื่อไร
แนวทางการออกแบบ Toyota Camry ใหม่ เรียกว่าฉีกการออกแบบทุกสิ่งที่แคมรี่เคยมีในรถกระบะคันนี้ ด้วยแนวทางการออกแบบตัวรถ ที่ดูทันสมัยและสปอร์ตมากขึ้น ตัวรถได้แนวทางมาจากแบรนด์ Lexus บางส่วน ผสานแนวคิดการออกแบบใหม่ จากสตูดิโอการออกแบบในแคลิฟอร์เนีย ที่พัฒนาการออกแบบรถโตโยต้าใหม่ๆ
ส่วนในห้องโดยสารให้ความน่าสนใจในการใช้งาน ด้วยความทันสมัย ตั้งแต่การออกแบบคอนโซลหน้าที่ดูดีเด่นความสปอร์ตมากขึ้น เบาะนั่งได้ทรงสปอร์ต ตอบโจทย์การใช้งานและปรับปรุงความสบายในการขับขี่จนถึงขีดสุด
ทางด้านการวิศวกรรม Toyota Camry ใหม่ พัฒนาบนโครงสร้าง TNGA Platform ให้ความแข็งแรงมากขึ้น เสริมสมรรถะนในด้านความปลอดภัยในการขับขี่ดีขึ้น
เครื่องยนต์ที่คาดว่าจะมาเป็นเครื่องยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ กับขุมพลัง Toyota Dynamic Force ขนาด 2.5 ลิตร พ่วงระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเจนเนอร์ชั่น 4 และแบตเตอร์รี่ใหม่ ซึ่งสามารถทำอัตราประหยัดได้สูงสุด 33.4 ก.ม./ลิตร
ส่วนในรุ่นเริ่มต้น เชื่อว่าจะเป็นเครื่องยนต์ Toyota Dynamic Force ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งเพิ่งแนะนำในรถยนต์ Toyota Rav 4 ก็น่าจะเข้ามาสู่ร่าง Toyota Camry ใหม่ ด้วยเช่นกัน
และท้ายสุดรถรุ่นนี้น่าจะได้ระบบป้องกันความปลอดภัย และช่วยในการขับขี่ Toyota Safety Sense P เข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งในอเมริกามีให้มาเป็นมาตรฐานด้วยเช่นกัน
Honda Accord
คู่แข่งเจ้าประจำ Honda Accord เปิดตัวออกมาแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว กับ Honda Accord ใหม่ และได้รับความสนใจรวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์การออกแบบอย่างสูงในหลายแง่มุม
แนวทางของ Honda Accord เน้นความเด่นเป็นสง่าด้วยความทันสมัยหรูหรา มากกว่ารุ่นเดิมที่ขายในบ้านเรา เจ้ารถยนต์ซีดานกลางรุ่นนี้ได้รับความใส่ในการออกแบบ มากขึ้น หยิบเอาแนวทางการออกแบบปัจจุบันจาก Honda Civic มาขยายเส้นสายการออกแบบให้ลงตัวมากขึ้น
ดูลงตัวด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ทรวดทรงการออกแบบรถกึ่งคูเป้ และบั้นท้ายทันสมัย ใช้การออกแบบด้วยไฟท้ายทรงตัว C อันเป็นเอกลักษณ์ถ่ายทอดสู่รุ่นใหญ่
ทางด้านในห้องโดยสาร ฮอนด้า จับเอาแนวทางความทันาสมัยเป็นเอกในการออกแบบ ผสานให้ความเป็นยุโรปมากขึ้น ด้วยการให้พวงมาลัยทรงสปอร์ทันสมัย 3 ก้าน เครื่องเสียงทำงานผ่านหน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ตรงหน้าคนขับ มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะขนาด 6 นิ้ว
โดยในส่วนการโดยสารมีการปรับระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นจากรุ่นปัจจุบันอีก 2 นิ้ว ทำให้การโดยสารตอนหลังนั่งสบายมากขึ้นกว่ารุ่นที่ปัจุจบันจำหน่ายอยู่
ทางด้านเครื่องยนต์ Honda ปรับกลยุทธ์ในซีดานกลาง ด้วยการหันหาเครื่องยนต์บลิกเล็กพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ หยิบเอาเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ จาก Honda Civic มาพัฒนาต่อยอด จนให้กำลังสูงถึง 192 แรงม้า และทำแรงบิด 260 นิวตันเมตร ปั่นลงเกียร์ CVT
ส่วนเครื่องยนต์รุ่นสมรรถนะสูงยกมาจาก Honda Civic Type R กับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งคาดว่าจะไม่เข้าไทย แต่น่าจะมีเวอร์ชั่นไฮบริดเข้ามาจำหน่ายแทน ในฐานะ Honda Accord Hybrid ซึ่งใช้เครืื่องยนต์รุ่นเดิม เพิ่มเติมความประหยัด และท้ายสุดขาดไม่ได้กับ Honda Sensing ระบบความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่ท่าสามารถเลือกได้
Nissan Altima (Teana)
ทางฝั่งนิสสัน เป็นซีดานกลางคันล่าสุดจากผู้ผลิตประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดตัวอย่างงดงามในงาน New York Motor Show 2018
โดย Nissan มองทางซีดานากลางใหม่ เป็นรถยนต์ที่พรั่งพร้อมด้วยการออกแบบอันเร้าใจเปี่ยมความสปอร์ต มันเป็นรถที่ดูเด็กลงเมื่อเทียบกับ Nissan Altima หลายๆ รุ่นที่ทำตลาดในตลอดช่วง 25 ปี เป็นต้นมา
แนวทาง Nissan Altima ใหม่ เรียกว่ากลายเป็นสปอร์ตซีดานตัวจริง รถได้แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด Nissan V motion 2.0 ซึ่งใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่ ตัวรถมีความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวทั้งคัน มันเป็นที่เปี่ยมด้วยความทันสมัย สปอร์ต และดูหรูหรา ผิดกับรุ่นเดิมที่ทำตลาดมายาวนาน
ในห้องโดยสาร Nissan จับเอาแนวทางดังกล่าวมาแต่งแต้มการออกแบบ ด้วยความทันสมัยเรียบหรู ดูดี ไม่ว่าจะพวงมาลัย 3 ก้านทรงใหม่ ยังคงปัจเจกในแง่การตบแต่งด้วยลายไม่ ผสานกับความพรีเมี่ยมในการเลือกใช้วัสดุเอาไว้อย่างเหนียวแน่น มาพร้อมระบบความบันเทิงที่พร้อมสรรพ รองรับการเชื่อตัว
ส่วนเครื่องยนต์ยกมาจากแบรนด์หรู Infinity ให้ความแตกต่างด้วยระบบเครื่องยนต์แปรผันกำลัง พร้อมเทอร์โบชาร์จ หรือ VC Turbo เป็นครั้งแรกที่พวกเขาตัดตอนเครื่องยนต์ V6 ออกไป มาพร้อมขุมพลังทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร
รวมถึงทางนิสสันยังเตรียมติดตั้งระบบ Nissan Pro Pilot แพ็คเกจระบบช่วยขับอัตโนมัติ ที่มีรวมเอาความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 3 ทหารเสือซีดานกลางคันสุดท้ายที่เตรียมและมีแววจะเข้ามาขายในบ้านเรา เจ้ารถยนต์ซีดานกลางเหล่านี้ คุรคิดว่าอย่างไรบ้าง พวกมันโดนใจหรือไม่
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”204,262,533″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]