ในเกมการเปิดตัวรถใหม่ในปี พ.ศ. 2562 ปีนี้ ท่าทีตลาดซีดานกลางดูท่าจะคึกคักไม่น้อย หลังจากการเปิดตัว   Toyota Camry   เมื่อปีกลาย ในปีนี้ทางฮอนด้าก็ส่ง   Honda  Accord   ใหม่ ออกสู่ตลาดจับใจลูกค้า

รถทั้ง 2  รุ่น เป็นไม้เบื่อไม้เมา แข่งขันกันมายาวนาน จนถือเป็นมวยหลักกลุ่มซีดานกลาง วันนี้ทั้ง 2 ค่ายกลับมาอีกครั้ง ด้วยความตั้งใจ หมายมั่นปั่นมือ ให้ลูกค้ากลับมาสนใจเก๋งขนาดใหญ่ หลังประสบยอดขายถอดถอยเนื่องจากคนนิยมอเนกประสงค์มากขึ้น

ก่อนที่ผมจะเริ่มต้นการเปรียบเทียบ อยากให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า การเปรียบเทียบครั้งนี้เราตั้งใจรถรุ่นย่อย 2 รุ่น มาประชันกัน ฝั่ง   Toyota  Camry  เลือกตัว 2.5  G  ส่วนทางด้าน ฮอนด้า แอคคอร์ด เลือกตัว   1.5 VTEC Turbo EL   ด้วยเหตุผล คือ

                1.ทางผู้เขียนมีโอกาสขับรถทั้ง 2 รุ่นแล้ว

                2.Toyota Camry  2.5   G  เป็นรถที่ได้ทุกอย่างใหม่หมด รวมถึงเครื่องยนต์ด้วย

                3.Honda  Accord   มีรุ่นย่อยเพียงรุ่นเดียวที่ใช้เครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป

ดังนั้นแม้ว่าการเปรียบเทียบครั้งนี้ จะดูมีความได้เปรียบเสียเปรียบบ้าง แต่ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ แฟร์ที่สุด เท่าที่จะทำได้ แล้วคุณพร้อมไหมที่จะไปดูรถแต่ละคันที่เราคัดมา

Toyota  Camry 2.5 G 

ขอเริ่มด้วย   Toyota  Camry  2.5G  รุ่นย่อยท๊อปไลน์อัพเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำให้หลายคนสนไม่น้อย ตั้งแต่เปิดตัวออกมา

การเปลี่ยนแปลงในรถยนต์   Toyota  Camry  ใหม่ครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าทางโตโยต้ามุ่งเน้นภาพลักษณ์ความสปอร์ตของตัวรถ ตั้งแต่เปิดตัวออกมาวางจำหน่าย ด้วยเหตุผลประการสำคัญ คือลูกค้ายุคใหม่ เป็นกลุ่มคนที่ชอบขับรถเองมากขึ้น และปัจจุบันภาพลักษณ์ของซีดานกลางไม่ได้ถูกเทิดทูนเป็นรถยนต์หรูมากกว่าแต่ก่อน

ตั้งแต่เปิดตัวในประเทศจนถึงไทย เราจะเห็นว่า  คัมรี่ใหท่ เน้นภาพลักษณ์ความสปอร์ตไม่เปลี่ยนแปลง แถมนั่นยังเข้ากับการวิศวกรรมใหม่ล่าสุด โครงสร้างแชสซี   TNGA   เน้นพัฒนาความสามารถในการขับขี่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือตั้งแต่ที่เราเคยสัมผัสโครงสร้างนี้น  Toyota C-HR

ใบหน้ารุ่นใหม่ได้เส้นสายการออกแบบที่ดูปราดเปรียว กันชนหน้าให้ความรู้สึสปอร์ตรับเข้ากับกระจังหน้าอย่างลงตัว  ติดตั้งล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว มาพร้อมยาว 235/45/R18  ให้ความเข้มเรื่องสปอร์ตตั้งแต่หน้าจรดท้าย ยังคงแนวทาง 3 Box Design  สไตล์เดิมของความเป็นซีดาน

ถ้าสังเหตุรถรุ่นใหม่ จะไม่ค่อยมีพรวกโครเมี่ยมนัก การดอยของที่เหมือนสัญลักษณ์ความหรูออกไปสะท้อนความสปอร์ตเต็มพิกัด รวมถึงความรู้สึกที่รถดูเตี้ยลงคล้ายรถสปอร์ต มันยังมาพร้อมฐานล้อยาว  ไฟหน้า-ไฟท้าย เป็น  LED  รวมถึงท่อไอเสียคู่ ครบเครื่อง

ในห้องโดยสาร มี 2 สีให้เลือก คือสีดำ และ สีเบจ เปลี่ยนตามสีของรถ ต้อนรับด้วย เบาะนั่งไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม   Lumbar  Support   มีให้ทางฝั่งคนขับ เรือนไมล์ ยังคงเป็นเข็มมีจอแสดงข้อมูลขนาด 7 นิ้ว ตอบโจทย์

พวงมาลัยเป็นมัลติฟังชั่น 3 ก้าน มีแป้น Paddleshift   ใช้ในการควบคุม เรื่องขับขี่ยังสามารถเลือกได้ 3 โหมด ได้แก่  Normal , Eco   และ   Sport  ติดตั้งพร้อมเบรกมือไฟฟ้า

ความสะดวกสบายครบเครื่องด้วย ระบบปรับอากาศแยก 2 โซน มีระบบชาร์จมือถือไร้สายติดตั้งมาให้ วัสดุภายในเนน้ความพรีเมี่ยมกับหนังแท้ผสมหนังสังเคราะห์ ติดตั้งม่านบังแดดหลังไฟฟ้ามาให้ด้วย

ใต้เรือนร่าง   Toyota  Camry   ยังเน้นการตอบโจทย์ในรูปแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยการใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ในรุ่น 2.5  G   ได้ขุมพลังกำลังอัดสูงใหม่ล่าสุด  Toyota  Dynamic Force   ขนาด 2.5 ลิตร มีกำลังอัด 13.0:1 ให้กำลังแรงม้าสูงสุด  209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาที ติดตั้งมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รองรับพลังงานเชื้อเพลิงได้ถึง  E85

Honda Accord 1.5 VTEC Turbo EL  

มาทางฝั่งฮอนด้า รุ่นนี้ถือเป็นรถรุ่นที่ 10 นับตั้งแต่วางขาย  Honda Accord   มา 43 ปี และทางบริษัทมองว่าความนิยมในรถยนต์อเนกประสงค์วันนี้ ผลักดันให้ทางวิศวกรและนักออกแบบต้องสร้างสิ่งใหม่ ที่รถอเนกประสงค์ไม่สามารถตอบได้

ในขณะที่คู่แข่งเน้นภาพความสปอร์ต ทางฮอนด้ากลับยังคงแนวทางของความเป็นรถยนต์หรู  ครั้งนี้พวกเขายกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น ทางทีมวิศวกรยอมรับว่าการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์มุ่งเป้ากลุ่มรถยุโรปขนาดคอมแพ็คและขนาดกลาง ที่มีกลุ่มลูกค้าคล้ายๆกับซีดานกลางจากญี่ปุ่น

ตัวรถเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ทางด้านงานออกแบบ ทางฮอนด้าตัดสินใจยังคงภาพลักษณ์หรู แต่ให้ความรู้สึกดูมีความสปอร์ตด้วยพร้อมกัน จึงออกแบบรถออกมาให้ห้องโดยสารเป็นทรงปราดเปรียว ช่วงท้ายออกแบบคล้ายรถท้ายลาด Liftback   แต่เป็นท้ายแบบซีดาน มีความสั้นควบคุมง่าย ส่วนช่วงด้านหน้าถึงห้องโดยสารออกแบบให้มีความยาวคล้ายรถยนต์หรูทางยุโรปหลายรุ่น  

รายละเอียดการตบแต่งยังครบเครื่องไม่ว่าจะกระจังหน้าขนาดใหญ่โครเมี่ยมล้ออัลลอยขอบ ล้ออลัลลอยขอบ 17 พร้อมยางนุ่มเงียบกึ่งสปอร์ต เสริมด้วยไฟหน้า-ไฟท้าย  LED  จากโรงงานา เส้นสายรวมๆ ดูเรียบหรูคล้ายรถยุโรป กลมกล่อมความสปอร์ต

ทางด้านงานวิศวกรรมจัดหนักไม่แพ้คู่แข่ง ถึงฮอนด้าจะไมได้โฆษณาโครงสร้างใหม่ชัดเจน แต่พวกเขาก็ปรับปรุงในรายละเอียดลึกๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะการเลือกใช้เหล็ที่มีความแข็มแรงมากขึ้น และมีความเบาลงกว่าเดิม เหล็กประเภท  high Tensile Steel   ถูกใช้ในโครงสร้างเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 60 จากรุ่นเดิม รวมถึงยังเพิ่มความแข็งแรงพิเศษในส่วนช่วงเสาจุดรับแรงกระแทกการชน ตลอดจนช่วงพื้นรถด้วย

ไม่เพียงแชสซีใหม่เท่านั้นทางฮอนด้า ยังปรับการเชื่อมโครงสร้างตัวถังให้มีความแม่นยำและแน่นขึ้น ด้วยกรรมวิธี  Razer Blazing   สังเกตบนหลังคารถจะไม่มีขอบยางกวนใจ ถูกชะตาพวกชอบงัดแงะแกะเกาอย่างลิงจ๋อ เมือง ลพบุรี

ด้านในห้องโดยสารมีให้เลือก ทั้งสิ้น 2 สี แต่ไม่ได้ให้ลูกค้าเลือกได้ตามใจ ทางบริษัทจะตัดสินให้จากสีภายนอกรถ จำง่าย สีเข้มภายในขาว สีอ่อนภายในดำ อาจสร้างความงงงวยสักหน่อยตอนเลือกรถ

เมื่อหย่อยตัวลงเบาะนั่งทางด้านหน้า   Honda  Accord   ใหม่ มาพร้อมเบาะนั่งปรับไฟฟ้า คนขับปรับได้ 8 ทิศทา งพร้อมเมมท่านั่งได้ 2 ทิศทาง เข้าออกสะดวกด้วย   Welcome seat   จะกระโปรงสั้นแคบ ใส่ชุดราตรีขับรถ ก็ขึ้นลงสะดวกสบายไม่มีปัญหา

ตรงหน้าคนขับเป็นพวงมาลัยมัลติฟังชั่น 3 ก้าน เรือนไมล์เปลี่ยนใหม่เป็นแบบจอ  TFT 7   นิ้ว คล้ายในรถยุโรป ส่วนตรงกลางเป็นเครื่องเสียง   Advance Touch  ขนาด 8 นิ้ว รองรับ  Apple Car Play ระบบปรับอากาศแยก2 โซน มีช่องแอรฺทางด้านหลังมาให้

เรื่องการขับขี่มี  Paddle Shift   ตอบโจทย์ รวมถึงยังสามารถเลือกโหมดประหยัดและ Sport  ให้ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมฟังชั่น   Brake Hold   

ด้านการขับขี่   Honda  Accord  รุ่นนี้ปฏิวัติวงการติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบถวเรียง 1.5 ลิตรพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า  ที่ 5,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิด สูงสุด 243 นิวตันเมตร ที่ 1,500-5,500 รอบต่อนาที  ส่งลงชุดเกียร์   CVT  

เปรียบเทียบออพชั่น

ถ้ามองในแง่ออพชั่นตัวรถที่ให้มา ต้องยอมรับว่า   Honda  Accord   ใหม่ รุ่นเริ่มต้น มีออพชั่นน้อยกว่า  Toyota Camry   สักหน่อย โดยเฉพาะที่ดูจะพูดถึงมาก คือ การไม่มีไฟตัดหมอกหน้ามาให้ในรุ่นเริ่มต้น (มีในตัวไฮบริด) ทำเอาสาวกเซ็งไปตามๆ กัน แถมล้อยังเป็นขอบ 17 นิ้ว เทียบกับ 2.5   G  ได้ขอบ 18 นิ้ว  ครบเครื่องมาให้

ทางด้านในห้องโดยสาร ทั้งคู่ไม่ต่างกันมาจนมีนัยยะสำคัญ  Honda Accord   เด่นกว่าสักหน่อย ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศภายใน ก็แยกอิสระ 2 โซนเหมือนกัน ที่ต่างกันจะเป็นของเล่นกระจกกระจก อาทิ ระบบชาร์จมือถือไร้สาย , ม่านบังแดดหลัง เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า รวมถึงกระจกปรับลดแสงอัตโนมัติ

ส่วน   Honda Accord   มาเหนือกว่าทางด้านระบบเครื่องเสียงเริ่มจากหน้าจอ 8 นิ่ว และลำโพงภายในห้องโดยสาร 8 ตำแหน่ง ขณะที่คัมรี่ จอเล็กกว่าและลำโพงเพียง 6 ตำแหน่งเท่านั้น

ส่วนเรื่องการโดยสารภายใน ไม่ต่างกันมากนัก มีความสบายพอๆกัน อันที่จริง คัมรี่ เหมือนจะแคบกว่าเล็กน้อยจากความรู้สึก ส่วน   Honda  Accord  ท่านั่งรู้สึกถึงความสบายกว่าอย่างชัดเจน ด้วยการยืนระยะฐานล้ออกไปอีก เพิ่มที่วางขา จนรู้สึกได้ว่า ราวกับนั่งรถลีมูซีน 

เปรียบเทียบทางด้านการขับขี่

เป็นเวลายาวนาน ที่รถซีดานกลางใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ตอบการขับขี่ มีให้เลือกทั้งรุ่น 2.0 และ 2.4 ลิตร จนระยะหลังขยับมาเป็น 2.0 และ 2.5 ลิตร

ความท้าทายของฮอนด้าแอคคอร์ด ด้วยการใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำให้หลายคนหวั่นใจไม่น้อย แม้ว่าจะโฆษณาว่าพก 190 ม้า ก็ยังหวาดหวั่นใจพอสมควรเมื่อเทียบกับขนาดรถ

จากที่ขับทดสอบ   Honda  Accord  ใหม่ ไม่อืดอย่างที่หลายคนคิด มันตอบสนองดียาวๆ ตั้งแต่แทบจะทันหลังเหยียบคันเร่ง เทอร์โบจะเริ่มทำงานช่วง 1,500 รอบต่อนาทีเป้นต้นไป เวลาเดินทางเหยียบเร่งเป็นมา ขับแบบคุณชายก็ดูรวดเร็วปราดเปรียวเร่งง่าย ไม่มีท่าทีว่าอืดอาดยืดยาดในการขับขี่

ช่วงทางขึ้นเขาก็ไม่น่าห่วงอัตรากำลังเครื่องยนต์ ดีมากจนทะยานสวนเนินชันได้สบายๆ เครื่องบล็อกเล็กเทอร์โบถือว่าดุดเด็ดเผ็ดร้อน ถูกใจสาวกคนชอบขับพอตัว เกียร์   CVT  เองที่เคยคิดว่าจะมีประเด็นกับทางชันก็บิดพลิ้วสะดุดหรือยังไง เวลาลงเขาก็สามารถเลือกเกียร์เปลี่ยนตำแหน่งเองได้ตามต้องการจาก  Paddle Shift   หลายคนติด่าทำไมไม่มีมาให้ที่คันเกียร์ อันนี้ก็ค่อนข้างเห็นด้วย  

ขับทางโค้งเยอะ ตอนมาทดสอบกลุ่ม Honda  Accord  โชว์ข้อดีอีกประการ จากการพัฒนาใช้เหล็กน้ำดีกว่าเดิมทำให้การโคลงตัว รวมถึงการบิดตัวของตัวถังลดลง จนเข้าโค้งแล้วรู้สึกใกล้เคียงรถยุโรปบางรุ่น เมื่อทางตรงใช้ความเร็วรู้สึกมั่นใจ ไม่มีความรู้สึกเบาหวิวจนขับแล้วต้องคุมพวงมาลัยบ่อยๆ

ทางด้าน   Toyota  Camry 2.5 G  ตอนทดสอบเมื่อปีที่แล้วไปขับที่ บุรีรัมย์ เงื่อนไขการทดสอบจึงแตกต่างออกสักเล็กน้อยกับ   Honda Accord   

อย่าที่เราพูดถึงรายละเอียดทางเทคนิคในเบื้องต้น เครื่องยนต์ 2.5 ใหม่ ให้กำลัง 209 แรงม้า ทำแรงบิด 250 นิวตันเมตร เปรียบเทียบมีกำลังมากกว่า 29 แรงม้า แต่แรงบิดไม่หนีกันเพียง 7 นิวตันเมตร แถมอยู่ที่รอบลึกกว่าพอสมควร

ด้วยการติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รถคันนี้ไม่ได้ออกตัวกระโชกโฮกฮาก มันให้ความรู้สึกนุ่มสบายเร่งเร็ว ผมชอบการคุมคันเร่งใน   Toyota Camry   มากกว่า การตอบสนองเนียนกว่าด้วยความเป็นเครื่องยนต์  N/A   และเกียร์หลายอัตราทด ความรู้สึกเรื่องความพลิ้วอาจไม่เท่า แต่เอาขับสบายๆ ยามไม่รับดีกว่าแน่นอน

เมื่อต้องเร่งงาน รีบไปประชุม ย่ำคันเร่งแรงหน่อย มันเปลี่ยนบุคคลิกสู่ความสปอร์ต รถตอบสนองดีเร่งไวขึ้นผิดหูผิดตา ความนิ่มนวลจางลงเปลี่ยนความสปอร์ตเมื่อใช้ความเร็วรู้สึกถึงความแข็งของระบบซับแรงกระแทกสักหน่อย

ส่วนการเข้าโค้งหายห่วงอาการโคลงตัวโยน ผมรู้สึกว่า   Toyota  Camry   ทำได้ดีกว่า ฮอนด้าแอคคอร์ดในแง่การเข้าโค้งกว้าง แต่ทั้งหมดเป็นความรู้สึกในการทดสอบในสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต โครงสร้างใหม่ทำให้โตโยต้า มีภาพลักษณ์แห่งความสปอร์ต มั่นใจเอาอยู่ทุกเส้นทาง

อย่างไรก็ถ้ามาดูในเรื่องอัตราประหยัด ก็ไม่ได้หนีกว่ากันนัก เจ้าบล็อกเล็กเทอร์โบ ทำอัตราประหยัดได้ราว ๆ 13.2 กม./ลิตร บนหน้าปัด นั่นรวมถึงการขับขึ้นลงเขาด้วย ส่วน   Toyota Camry   อัตราประหยัด อยู่ที่ 12.8 ก.ม./ลิตร ในการขับทางไกล วิ่งทางยาวปกติ เจอเนินซึ่งบ้างตามทาง สาเหตุที่เครื่องยนต์นี้ประหยัดก็มาจากชุดเกียร์ 8 สปีด

ใครเจ๋งกว่าสรุป

ถ้าคุณมองในแง่ออพชั่นเราต้องยอมรับว่า   Toyota  Camry  2.5G  มีดีกว่า ให้ของเล่นที่ถูกใจลูกค้าเยอะกว่า ไม่ว่าล้ออัลอัลลอย 18 นิ้ว  ระบบชาร์ไร้สาย และอีกหลายรายการ

อย่างไรก็ดีเมื่อเปรียบเทียบกับการขับขี่ ผมรู้สึกว่าไม่หนีกันมาก แม้ว่าตามสเป้ตจะม้าห่างกัน 29 ตัว กลับกันฮอนด้าเน้นรีดแรงบิดสูงสุดในรอบต่ำ ขับวัดผลกันจริงๆ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก ในความรู้สึกคัมรี่เหมือนจะดีกว่าเมื่อใช้ความเร็วสูง เครื่องจะยังเร่งดีไม่ท้อถอย

แต่เมื่อเรามาพูดถึงความสบายในการโดยสาร   Honda  Accord   ตอบเรื่องนี้ดีกว่ รถมีความเป็นยุโรป คนนั่งสบายมั่นใจ ไม่โคลงเคลง การซับแรงกระเทือนดูนุ่มนวลกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงการเก็บเสียงในห้องโดยสารด้วย

ทั้งหมดเป็นเพียงสิ่งที่เราบอกได้ หลังจากขับรถท้ง 2 รุ่นในเบื้องต้น ไม่ว่าคุณจะชอบ คัมรี่ หรือ แอคคอร์ด อย่าลืมไปทดลองขับด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจ จะได้ทราบว่ารถรุ่นนี้ถูกใจเราหรือเปล่า